MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 20-26 ม.ค. 2563)
อันดับ 1 : "โคโรนา" แผลงฤทธิ์! ไวรัสจีนมรณะ คร่าชีวิตครึ่งร้อย ปิด "อู่ฮั่น" สกัดกั้นแพร่ระบาด
กลายเป็นประเด็นสาธารณสุขที่ทั่วโลกเฝ้าระวัง เมื่อพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ จากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ต้นตอมาจากตลาดอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้มีการเฝ้าระวังไปทั่วโลก ส่วนเมืองอู่ฮั่นสั่งปิดเมืองไม่มีกำหนด เพื่อสกัดการแพร่ระบาด ล่าสุดเมื่อ 26 ม.ค.ทางการจีนประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุด แก่หน่วยปกครองระดับมณฑล 30 แห่ง ยกเว้นทิเบต ยอดผู้ป่วยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. อยู่ที่ 2,022 ราย อาการหนักขั้นวิกฤต 324 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 56 ราย
ขณะที่ประเทศไทยพบว่า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา กรมควบคุมโรคได้ตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางอย่างเข้มงวด นอกจากตรวจเข้มผู้โดยสารจากเมืองอู่ฮั่นแล้ว ยังเพิ่มการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองกวางโจวอีกด้วย หากพบผู้ป่วยต้องสงสัยจะตรวจร่างกายเพิ่มเติม และส่งต่อไปรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนผู้ป่วยในไทยมีจำนวน 6 ราย หายดีแล้วจำนวน 3 ราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ขอให้อย่าหลงเชื่อข่าวลวง แนะฟังข่าวสารจากหน่วยงานที่มีหน้าที่เป็นหลัก เช่น กรมควบคุมโรค
อันดับ 2 : พ่อพิมพ์ปืนดุ! จับ "ผอ.กอล์ฟ" ยิงชิงทองโรบินสันลพบุรี สารภาพสิ้นติดหนี้กว่า 2 ล้าน
ปิดฉากคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ กรณีคนร้ายสวมไอ้โม่งใช้อาวุธปืนเก็บเสียงกราดยิงผู้คน ก่อนคว้าทองคำในร้านทองออโรร่า ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ลพบุรี เมื่อวันที่ 9 ม.ค. เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 คน ผ่านไปราว 2 สัปดาห์ ในที่สุดตำรวจจับกุม นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 39 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี ขณะขับรถจากบ้านในตัวเมืองลพบุรีไปทำงาน เมื่อเช้าวันที่ 22 ม.ค. ได้ของกลางทองคำ 31 เส้น ที่หลังคาโรงรถบ้านพ่อแม่ รวมทั้งรถจักรยานยนต์และเครื่องแต่งกายบางส่วน
วันต่อมา นายประสิทธิชัยระบุว่า เหตุที่ลงมือมาจากปัญหาส่วนตัวด้านการเงิน คิดล่วงหน้าไว้ 2-3 วัน ที่ลงมือยิงเพื่อเปิดทางและให้เกิดความหวาดกลัว ไม่ได้ตั้งใจยิงน้องไทตัล อายุ 2 ขวบ ที่เก็บเสียงสั่งมาจากเพื่อนรุ่นน้องในเน็ต ใช้เพื่อต้องการลดเสียงไม่ให้ดัง ไม่ต้องการให้คนตระหนก ส่วนพนักงานร้านทองที่ถูกยิงหลายนัด อ้างว่าถุงมือไปขัดที่ไกปืน พยายามดึงแต่กระตุก นอกจากนี้ จากการสอบปากคำพบว่ายังมีหนี้สหกรณ์ครูและธนาคารกรุงไทยรวมกว่า 2 ล้านบาท เบื้องต้นตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและชิงทรัพย์ รวม 8 ข้อหา คุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
อันดับ 3 : คลิปเสียงเป็นพิษ! เด้งฟ้าผ่า "วิระชัย" ไปสำนักนายกฯ-"บิ๊กตู่" ยื่นโนติส "สุรเชษฐ์" อย่าข้ามหัว
เรื่องวุ่นๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลายเป็นศึกประดาบก็เลือดเดือด หลังกรณีที่รถยนต์ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกยิงที่หน้าร้านนวดแห่งหนึ่งย่านถนนสุรวงศ์ กระทั่งเจ้าตัวออกมาเปิดเผยการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างระบบตรวจสอบอัตลักษณ์ด้วยไบโอเมทริกซ์ มูลค่าราว 2 พันล้านบาท ก่อนที่จะมีคลิปเสียงหลุดระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งห้าม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ว่าอย่าไปรับลูก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่หลอกใช้ ผบ.ตร. หลายคน
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. สำนักนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพราะ สตช. รายงานว่ามีพฤติการณ์กระทบต่อความเชื่อมั่น ภาพลักษณ์ของ สตช. และการปฏิบัติราชการของ ผบ.ตร. ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยอมรับว่ามาจากคลิปเสียงสนทนา ต่อมาในวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ ไม่ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทุจริต รายงานเท็จ ข้ามผู้บังคับบัญชา หาประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น รวมทั้งให้อุทิศเวลาและรักษาความลับของทางราชการอีกด้วย
อันดับ 4 : ชีวิตต้องดำเนินต่อไป! คุก "สรยุทธ" 6 ปี 24 เดือน ยักยอกโฆษณา อสมท. 138 ล้าน
ปลายทางของคดีที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรเล่าข่าวและผู้จัดรายการชื่อดัง ร่วมกับพนักงานบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลารายการคุยคุ้ยข่าว ทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ตั้งแต่ปี 2548-2549 จำนวน 138.79 ล้านบาท หลังศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุกนายสรยุทธไป 13 ปี 4 เดือน ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ลดโทษเหลือ 6 ปี 24 เดือน ส่วนนางพิชชาภา เอี่ยมสอาด พนักงาน อสมท. ที่รับผิดชอบคิวโฆษณา ลดโทษเหลือ 12 ปี
ศาลระบุว่าพฤติการณ์ของจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวอาวุโส กลับทำผิดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย นายสรยุทธเป็นสื่อมวลชนอาวุโส ต้องปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สื่อมวลชนอื่น พฤติการณ์จึงไม่เพียงพอให้รอการลงโทษหรือลงโทษสถานเบาตามที่ฎีกา ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายสรยุทธโพสต์ข้อความระบุว่า ตนต้องหยุดทำงานที่เคยทำมาทุกวัน คำพิพากษาของสังคมคือความทุกข์ทรมานที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต ตนติดคุกสังคมมา 4 ปีแล้ว เมื่อติดคุกตามคำพิพากษาก็ต้องทำใจ แต่ต้องยอมรับให้ได้ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป อย่างน้อยจะได้เริ่มต้นใหม่เสียที
อันดับ 5 : ไร้ทางออก! ฝุ่นละออง PM 2.5 ทั่วไทย กรุงเทพฯ-ภาคเหนืออ่วม นายกฯ ไม่อยากใช้ยาแรง
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา วิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนกรุงเทพฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีโรงเรียนหลายแห่งต้องปิดทำการเรียนการสอน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจังหวัด เช่น ภาคเหนือ เนื่องจากมีการเผาป่าเพื่อเตรียมปลูกพืชของเกษตรกร ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีข้อสรุปให้เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายให้มากขึ้น รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ตรวจสอบควันดำให้ครบถ้วน พร้อมตั้งวอร์รูมที่กรมควบคุมมลพิษรายงานแก่ประชาชนเป็นรายชั่วโมง
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุว่า การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทำอย่างไรให้ยอมรับ ไม่เช่นนั้นก็ถูกต่อต้าน เนื่องจากกฎหมายพื้นฐานบางฉบับบังคับใช้ยาก ประชาชนได้รับผลกระทบเยอะ ที่ผ่านมารัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหารับมือฝุ่นละอองปี 2562-2567 ไปแล้ว แต่กิจกรรมบางอย่างมีผลกระทบไปถึงประชาชน จึงทำได้แค่แจ้งประชาชนให้ระมัดระวัง พร้อมกับใช้มาตรการอย่างเข้มงวด เช่น จับรถควันดำทุกคัน แต่ต้องเกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
อันดับ 6 : อนาถใจสภาไทย! ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ลุ้น พ.ร.บ.งบประมาณ 63 โมฆะหรือไม่?
เรื่องฉาวโฉ่ในรัฐสภาไทยยังมีให้เห็น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แฉว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 วาระที่ 2 นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ไปเปิดงานวันเด็กในจังหวัดภาคใต้ แต่กลับมีชื่อลงมติเห็นชอบยาวไปถึงวาระที่ 3 เห็นชอบร่างทั้งฉบับ อีกทั้ง นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เดินทางไปประเทศจีน แต่มีชื่อลงคะแนนในมาตรา 49 นอกจากนี้ ช่างภาพช่อง 7 HD บันทึกภาพระหว่างลงมติพบ ส.ส.ถือบัตรมากกว่า 1 ใบ บางรายเสียบบัตรถึง 2 ครั้ง
ที่ผ่านมาในปี 2556 และ 2557 ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีมติให้กฎหมายโมฆะทั้งฉบับเนื่องจากการเสียบบัตรแทนกันมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มอบหมายเจ้าหน้าที่รัฐสภา นำคำร้องของ ส.ส. 174 คน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คาดว่าศาลจะนำเข้าพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ อ้างว่า เพื่อน ส.ส.วางบัตรไว้บนโต๊ะแล้วก้มลงมาเสียบบัตรในเครื่องไม่ถึง จึงวานให้คนที่นั่งอยู่ใกล้ช่องเสียบบัตร ช่วยเสียบบัตรแทนให้ และอ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัย
อันดับ 7 : ทนกระแสสังคมไม่ไหว! "คู่รักเอาท์ดอร์" ม.ดัง มอบตัว อ้าง "อยากเลียนแบบคลิปที่เคยดู"
กรณีที่วีดีโอคลิปหนุ่มสาวคู่หนึ่ง เปลือยกายมีเพศสัมพันธ์กันนอกสถานที่ (เอาท์ดอร์) ภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บนถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ กลายเป็นที่วิจารณ์แก่ชาวเน็ตถึงความไม่เหมาะสม และพบว่าเป็นนักแสดงในเว็บไซต์พอร์ทัลวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ชื่อดัง มีการถ่ายคลิปเพื่อสร้างรายได้ เรียกว่า "พอร์นฮับเบอร์" ฝ่ายสืบสวนของ สน.บางเขนตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด พร้อมทั้งเรียกเยาวชนวัย 16 ปี เข้ามาให้ปากคำ หลังพบเป็นเจ้าของบัญชีรับเงินโอนจากลูกค้าที่ต้องการเข้าชมคลิปลามกอนาจาร จนทราบตัวผู้ก่อเหตุ
หลังกระแสสังคมกดดัน ในที่สุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายนริศร์ อายุ 30 ปี และ น.ส.เมตตาภรณ์ อายุ 24 ปี (ขอสงวนนามสกุล) เข้ามอบตัว ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนถ่ายคลิปดังกล่าวจริง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดบัญชีทวิตเตอร์ให้ผู้สนใจโอนเงินค่าสมาชิกแรกเข้า 300 บาท รายเดือน 150 บาท โดยมีเยาวชนวัย 16 ปีเป็นเจ้าของบัญชี สาเหตุที่ทำไปเพราะอยากเลียนแบบคลิปลามกที่ตนเคนดู ตำรวจตั้งข้อหาเปลือยกายเพื่อประสงค์แห่งการค้า และนำเข้าข้อมูลลามกตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมเตือนวัยรุ่นอย่าทำแบบนี้ เพราะอาจถูกดำเนินคดีได้
