สาวโพสต์เล่าประสบการณ์โดนเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิกักตัว หลังกลับมาจากสนามบินอู่ฮั่น และถูกตรวจอย่างเข้มงวด เผย เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างสุดความสามารถแล้ว
จากสถานการณ์โรคระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนประกาศปิดเมืองอู่ฮั่นห้ามผู้คนเดินทางออกนอกเมือง โดยทางกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบเฝ้าระวังและสนามบิน ทุกเที่ยวบินมีมาตรการตรวจสอบคัดกรองอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 ม.ค. สมาชิกทวิตเตอร์ “@loveall_nct” ได้ออกมาโพสต์รูปภาพพร้อมกับเล่าประสบการณ์ หลังโดนเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิควบคุมตัวหลังจากตนเองกลับมาจากสนามบินอู่ฮั่น และมีอาการป่วยเล็กน้อยจากอาการคออักเสบ จึงอยากจะบอกเล่าประสบการณ์ในครั้งนี้ และย้ำให้กับขาวเน็ตที่โจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่า แท้จริงแล้วเจ้าหน้าที่ตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“จุดประสงค์คือ อยากให้รู้ว่าจนทที่สนบเขาทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ อยากให้อ่านกันเพราะไม่อยากให้ว่าจนทกันขนาดนั้น ลองอ่านดูนะ
เรานั่งเครื่องจากฮาร์บินไปถึงสนบอู่ฮั่นทุ่มเศษ และขึ้นเครื่องจากอู่ฮั่นกลับไทยตอน22.40น. = เราอยู่อู่ฮั่น3 ชม.กว่าๆ ก่อนกลับไทย1อาทิตย์ เราป่วยเป็นคออักเสบ มีอาการไข้ขึ้นเป็นระยะ ในคอมีตุ่ม มีน้ำมูก เสียงแหบ เวียนหัว พอถึงสุวรรณภูมิ ตอนออกจากงวงช้างจะมีจนทยืนขนาบทั้งซ้ายขวา ข้างละประมาณ 4-5 คน ทุกคนสวมหน้ากากN95 ทางขวามือมีเครื่องคล้ายๆทีวี (คาดว่าเอาไว้จับอุณหภูมิคน) เราเดินออกเป็นคนสุดท้าย พอจะพ้นประตูก็มีจนทพูดขึ้นว่า “ผญเสื้อดำๆ” หลังจากนั้นก็มีจนทมากักตัวเราไว้ก่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก มีทีมจนทพร้อมรถเข็น หมอเดินมาและถามว่าใช่คนไทยไหม จากนั้นก็ขอพาสปอร์ตและboarding passของเรา สอบถามข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ
เราบอกจนทแล้วว่าเราป่วยเป็นคออักเสบและเรียนที่ฮาร์บินแค่1เดือน ส่วนอู่ฮั่นคือที่ที่เราไปเปลี่ยนเครื่องเพื่อกลับไทย แต่หมอวัดไข้เราได้ 37.8 ดังนั้นตามมาตรการแล้วเราจะต้องถูกส่งไปสถาบันบำราศนราดูรในคืนนั้นเลย จนท.ให้เรานั่งรถเข็นและพาไปที่ห้องชั้นล่างและนอนพักเพื่อรอรถพยาบาล ระหว่างนั้นพี่จนทที่อยู่กับเราพูดดีมาก ชวนเราคุยตลอดเพื่อไม่ให้เราตกใจ เรารู้สึกดีมากและลดความกังวลไปได้เยอะ พี่จนทช่วยเราเปลี่ยนซิมทรศ (ก่อนหน้านี้เราใช้ทรศพี่จนทเพื่อติดต่อพ่อแม่และบอกให้ไปรอที่สถาบันบำราศนราดูร) จากนั้นเราก็นอนหลับในห้องรอรถพยาบาล เมื่อรถพยาบาลมาถึง จนทก็พาเราขึ้นรถ มีการซักถามว่าเรียนที่ไหน แล้วไปทำอะไรที่อู่ฮั่น เมื่อมาถึงสถาบัน จนทก็พาเราไปห้องแยกเชื้อ ในห้องนั้นมีประตูกั้นสองชั้น จนท2คนมาเก็บตัวอย่างเลือด มีการตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่ มีการเก็บตัวอย่างเสมหะและอีกหลายอย่าง ตัวอย่างถูกส่งไปตรวจ 2 ที่
ระหว่างที่อยู่ในห้องแยกเชื้อ การคุยกับแพทย์จะคุยผ่านทางทรศที่ฝังในกำแพง ภายในห้องมีกล้องวงจรปิดเพื่อเฝ้าดูอาการ ก็คือจะไม่มีการให้บุคลากรเข้ามาในห้องเราเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ทางสถาบันดูแลดีมาก มีแพทย์เข้ามาดูอาการและให้ยา เมื่อผลตรวจยืนยันจากทั้ง 2 สถาบันแล้วว่าเราไม่มีเชื้อ เราถึงได้ออกมา
-เมื่อพบค.ผิดปกติ จนทให้เราใส่แมสทันที
-จะเห็นได้ว่า แม้เราจะมาจากเมืองอื่นและต่อเครื่องที่อู่ฮั่น แต่จนทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
-มีการซักถามอย่างละเอียดถึงเมืองที่เรียน รูมเมท สถานที่ที่ไปเที่ยว ร้านข้าวที่กิน ต่างๆ
ยาวหน่อยนะคะ แต่ทั้งหมดนี้อยากให้เห็นถึงการทำงานของจนท บางคนถามว่าปล่อยคนจีนมาได้ไง คำตอบคือพวกเขาผ่านเครื่องสแกนแล้วไม่มีไข้ค่ะ เลยเข้ามาได้ เพราะตามมาตรการแล้วจะกักตัวเฉพาะคนที่มีไข้ค่ะ คาดว่าตอนนี้จนทน่าจะมีมาตรการที่เข้มขึ้น แต่เราก็ต้องดูเเลตัวเองด้วยนะ กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ
#ไวรัสโคโรนา
— สำลัก¹²⁷ (@loveall_nct) January 22, 2020
จุดประสงค์คือ อยากให้รู้ว่าจนทที่สนบเขาทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ อยากให้อ่านกันเพราะไม่อยากให้ว่าจนทกันขนาดนั้น ลองอ่านดูนะ
1.เรานั่งเครื่องจากฮาร์บินไปถึงสนบอู่ฮั่นทุ่มเศษ และขึ้นเครื่องจากอู่ฮั่นกลับไทยตอน22.40น. = เราอยู่อู่ฮั่น3ชม.กว่าๆ