xs
xsm
sm
md
lg

28 ปี “เดอะบีช” อ่าวมาหยาเพชรอันดามันขอพักฟื้น 4 เดือน แต่ยังมีอีก 15 อ่าวสุดงามพร้อมรับมือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นักท่องเที่ยวทะลักอ่าวมาหยา คาดกลัวไม่ได้ชมความงามวันเดียวทะลักแน่นเกือบครึ่งหมื่น กรมอุทยานฯ ยืนยันปิดฟื้นฟูระบบนิเวศหลัง “เดอะบีช” ทำหน้าที่ไม่มีวันหยุดนานถึง 28 ปี ขอให้นักธุรกิจเข้าใจ ฝากความมั่นใจผู้ประกอบการทุกระดับความยั่งยืนกลับมาแน่

วันนี้ (17 พ.ค.) นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี และ อ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่ ตรวจสอบพื้นที่พิจารณาการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากการท่องเที่ยวใบริเวนอ่าวมาหยา ณ อุทยานแก่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า การประกาศปิดอ่าวมาหยาในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและใต้ทะเลในช่วงฤดูมรสุม เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2561 ซึ่งเป็นมติจากที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวิชาการจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561

“เนื่องจากแนวปะการังบริเวณอ่าวมาหยา ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจากการท่องเที่ยว ดำน้ำตื้น การทิ้งสมอเรือ การเข้า - ออกของเรือสปีดโบ้ทและเรือหางยาวเพื่อรับส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งในแต่ละวันมีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3 - 4 พันคน ซึ่งสังเกตได้จากซากปะการังที่แตกหัก และแนวปะการังบริเวณใกล้ชายหาด ไม่มีปะการังที่มีชีวิตเหลืออยู่ เพราะเรือเข้าออกตลอดเวลา”

โดยในช่วงการปิดอ่าวมาหยาระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2561 “ห้ามทำกิจกรรมการท่องเที่ยวบริเวณอ่าว มาหยาโดยเด็ดขาด แต่อนุญาตให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำเรือเข้ามาลอยลำนอกบริเวณแนวทุ่นไข่ปลาที่กั้นแนวเขตห้ามเข้าไว้ หลังจากมีการก่อสร้างสะพานเทียบเรือและทางเดินบริเวณอ่าวโล๊ะสะมะเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการปิดไม่ให้เรือวิ่งเข้าออกบริเวณอ่าวมาหยาอย่างถาวร”

โดยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมอ่าวมาหยาผ่านทางอ่าวโล๊ะสามะเท่านั้น

ด้าน นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 22 เมษายน ได้นำทีมวิศวกรและสถาปนิกลงพื้นที่เพื่อออกแบบสะพานและทางเดินให้เหมาะสมและกลมกลืนกับสภาพพื้นที่ และให้ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุด ในระหว่างนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะดำเนินการจัดทำแปลงอนุบาลปะการัง โดยพิจารณาใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่

การขยายพันธุ์ปะการังด้วยวิธี coral propagation ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและกลมกลืนกับสภาพธรรมชาติ โดยการนำเศษปะการังที่แตกหักมาใช้ในการขยายพันธุ์ และการทำ coral tree เพื่อเตรียมกิ่งพันธุ์สำหรับใช้ในการปลูกขยายพันธุ์ปะการัง ภายหลังจากที่มีการปิดไม่ให้เรือวิ่งเข้าออกบริเวณอ่าวมาหยาเป็นการถาวรแล้ว

จะเชิญผู้ประกอบการ ภาคเอกชน หน่วยงานราชการ และจิตอาสามาร่วมดำเนินการปลูกปะการังเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ทะเลเพื่อสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาทรัพยากรโดยใช้กลไกประชารัฐ ซึ่งจะส่งผลให้การดูแลทรัพยากรแนวปะการังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

ส่วนทรัพยากรบนบก จะดำเนินการแก้ไขปัญหาการพังทลายของเนินทรายหน้าชายหาด โดยการปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายหาด โดยคัดเลือกชนิดพันธุ์ที่มีอยู่ในพื้นที่ เช่น รักทะเล เตยทะเล สวาด คันทรง เป็นต้น เพื่อช่วยยึดหน้าดิน ป้องกัน

การพังทลายของเนินทรายหน้าชายหาดมีการติดตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมพืชบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจัดทำเส้นทางเดินยกระดับ (boardwalk) ตั้งแต่แนวสังคมพืชชายหาด ไปยังด้านในอ่าวและบริเวณห้องน้ำ เพื่อลดการเหยียบย่ำของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมถึงรูปแบบและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความกลมกลืนกับสภาพธรรมชาติ








กำลังโหลดความคิดเห็น