“แอร์พอร์ต ลิงก์” แก้ปัญหารถเสีย-คนล้นสถานี เอารถไฟธรรมดาวิ่งข้างล่างเช้า-เย็น

ผู้บริหารแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ แก้ปัญหารถไม่เพียงพอ ผู้โดยสารตกค้างทุกวัน ด้วยการนำรถไฟดีเซลราง 6 ตู้ แบ่งเป็นตู้ปรับอากาศ 2 ตู้ และตู้ธรรมดา 4 ตู้ ให้บริการในวันจันทร์ - วันศุกร์ ออกจากลาดกระบัง 07.45 น. ขากลับออกจากหญาไท 18.45 น. ใช้เวลา 40 นาที

จากกรณีที่รถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ประสบปัญหาเนื่องจากในขณะนี้ขบวนรถมีไม่เพียงพอให้บริการ นับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา เหลือขบวนรถที่สามารถให้บริการได้เพียงแค่ 4 ขบวนเท่านั้น จากทั้งหมด 9 ขบวน ขณะที่ความคืบหน้าการซ่อมบำรุงนั้น พบว่า ได้ซ่อมรถให้กลับมาใช้งานได้ 6 ขบวน สาเหตุสำคัญมาจากไม่มีสัญญาซ่อมและการสต๊อกอะไหล่ ประกอบกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ล่าช้าเพราะมีกระบวนการที่ต้องขออนุมัติจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)

วันนี้ (29 มี.ค.) นายวิสุทธิ์ จันมณี กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมนำรถไฟดีเซลรางจำนวน 6 ตู้ แบ่งเป็นตู้ปรับอากาศจำนวน 2 ตู้ และตู้ธรรมดาจำนวน 4 ตู้ ให้บริการในวันจันทร์ - วันศุกร์ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าจำนวน 1 เที่ยว ออกจากสถานีลาดกระบัง เวลา 07.45 น. ไปสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

ส่วนช่วงเย็น ออกจากที่หยุดรถพญาไท เวลา 18.45 น. ไปสถานีลาดกระบัง โดยใช้เวลาในการเดินทางช่วงระหว่างสถานีลาดกระบัง - ที่หยุดรถพญาไท ประมาณ 40 นาที ซึ่งรถไฟ 1 เที่ยวสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 600 คน โดยคิดค่าบริการตู้ปรับอากาศราคา 20 บาท ส่วนตู้ธรรมดาราคา 10 บาท เริ่มให้บริการวันศุกร์ที่ 30 มี.ค. 2561

ด้านผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้รายงานผ่านเฟซบุ๊ก “วันนี้แอร์พอร์ตลิงก์เป็นอะไร” พบว่า มีรถไฟฟ้าพร้อมให้บริการ 5 ขบวน โดยพบว่าสถานีลาดกระบัง และสถานีบ้านทับช้าง และสถานีหัวหมาก จำกัดผู้โดยสารให้อยู่ในชานชาลาเมื่อเวลา 07.40 น. ก่อนที่จะกั้นไว้ให้อยู่ชั้นจำหน่ายตั๋วในช่วงเวลา 08.00 น. บางส่วนใช้วิธีนั่งย้อนไปที่สถานีสุวรรณภูมิ ก่อนกลับไปพญาไท สุดท้ายจึงเคลียร์ผู้โดยสารได้หมดในเวลา 09.30 น. ส่วนสถานีรามคำแหงผู้โดยสารหนาแน่นไปจนถึงราว 11.00 น.

ส่วนช่วงเย็น พบว่า ผู้โดยสารจากพญาไทไปสุวรรณภูมิคนเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นมา และพบว่าที่สถานีรายทาง เช่น สถานีมักกะสัน ต้องรอขบวนต่อไป 16-18 นาที โดยเมื่อเวลา 17.20 น. สถานีมักกะสันคนเริ่มเต็มชานชาลา มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก จากนั้นเวลา 17.50 น. ที่สถานีพญาไท และมักกะสัน ได้ทำการจำกัดจำนวนผู้โดยสารบนชานชาลา ผู้โดยสารส่วนหนึ่งออกจากสถานีเพื่อไปโดยสารรถไฟธรรมดาที่อยู่ด้านล่าง บางส่วนแนะนำวิธีให้นั่งย้อนกลับไปยังพญาไทแล้วนั่งกลับมาไปทางสุวรรณภูมิ