xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” ชี้กำเนิด “อนาคตใหม่” จะช่วยกระทุ้ง “ปชป.” ปรับตัว ท้า “ธนาธร” พิสูจน์ตัวเองไม่ใช่พรรคสาขาทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พิภพ” ชี้กำเนิด “พรรคอนาคตใหม่” จะช่วยกระทุ้ง “ประชาธิปัตย์” ปรับตัวกล้าแสดงบทบาทให้ชัดเจนกว่าเดิม ท้า “ธนาธร” พิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้เชื่อมโยง “เพื่อไทย” ด้วยการวางยุทธศาสตร์ร่วมกันเพื่อดึงคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ - คน กทม. พร้อมตั้งคำถามแนวทางแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำจะทำอย่างไร

วันที่ 28 มี.ค. นายพิภพ ธงไชย ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” เวลา 22.15 น. ถึงพรรคอนาคตใหม่ ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า วาทกรรมของพรรคอนาคตใหม่ จะทำให้เกิดการปรับตัว เช่น พรรคประชาธิปัตย์วางตัวเองเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมหรือเปล่า ถ้ายอมรับจะปรับตัวเองเป็นอนุรักษ์นิยมก้าวหน้าไหม ในพรรคอนาคตใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ล้วน หลายคนก็มีประวัติสะอาด ประชาธิปัตย์ก็มีคนรุ่นใหม่พอสมควร ผสมกับนักการเมืองเก่า คนหนุ่มหลายคนในประชาธิปัตย์ไปโต้กับนายธนาธร สู้ได้เสมอและเหนือกว่าด้วย แต่ต้องถามว่าทำไมคนหนุ่มในประชาธิปัตย์ไม่แสดงบทบาท เพราะความเป็นอนุรักษ์นิยมในการบริหารจัดการพรรคหรือเปล่า หรือในพรรคมีนักการเมืองรุ่นเก่ามากไปไหม

นายพิภพ กล่าวอีกว่า ต้องถาม นายธนาธร จะเป็นเจ้าของพรรคคนเดียวหรือเปล่า แม้เจ้าตัวบอกว่าไม่ แต่ต้องประกาศวิธีบริหารจัดการพรรคเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่เห็นว่าจะทำยังไง เหมือนตอนนายทักษิณ ตอนนั้นก็เป็นคนรุ่นใหม่ สุดท้ายก็ครอบงำพรรค เพราะทุนหนามาก นายธนาธรต้องบอกกับประชาชนว่าจะไม่เป็นแบบทักษิณ

นายพิภพ ยังกล่าวว่า ตอนนี้พรรคการเมืองที่น่าสนใจนอกจากอนาคตใหม่ ก็มีพรรคพลังธรรมใหม่ ประชาธิปัตย์ และกำลังดูพรรค กปปส. ว่า จะออกมาอย่างไร เพราะจุดอ่อนของ กปปส. คือ นายสุเทพเป็นนักการเมืองเก่า และพลาดตรงที่เคยชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นจุดขาย ถึงตอนนี้คงกลับตัวก็ไม่ได้

ส่วนพรรคเพื่อไทยไม่สดแล้วในตอนนี้ แนวทางของนายธนาธร คล้ายกับว่าต้องสู้คู่กันไปกับขบวนการของทักษิณ แทนที่จะเป็นเนื้อเดียวกันแต่นี่แยกออกมา ไม่รู้ว่ามีการตกลงทางยุทธศาสตร์กันหรือเปล่า เพื่อดึงคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่ และคนกรุงเทพฯ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ไม่เชื่อมโยงกับเพื่อไทย คือ ฉีกตัวออกมาสร้างอนาคตใหม่จริงๆ ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่พรรคสาขาทักษิณ

นายพิภพ กล่าวต่อว่า แล้วคำว่าไพร่หมื่นล้านหมายความว่าอย่างไร ถ้าตีความคือการยกระดับคนที่เสียเปรียบในสังคมให้ขึ้นมาเป็นคนชั้นกลางใหม่ คนจนให้ขึ้นมาเป็นคนชั้นกลาง ต้องบอกมาว่าจะจัดการปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างไร ถ้าเจตนาหมายความถึงอย่างนี้รับได้

นายพิภพ กล่าวด้วยว่า พรรคอนาคตใหม่ จะส่งแรงกระแทกไปยังประชาธิปัตย์สูงมาก ประชาธิปัตย์ยังเป็นทางออกของคนชั้นกลาง ของคนที่ต่อสู้กับทักษิณอยู่ แต่ถ้าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้วางยุทธศาสตร์ร่วมกับเพื่อไทย ก็กระแทกเพื่อไทยด้วย ตนถึงตั้งคำถามว่านายธนาธรยังไม่พูดเรื่องคอร์รัปชัน พลังงาน ปฏิรูปที่ดิน ปฏิรูปภาษี ทุนผูกขาด การศึกษา ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมากในการช่วยแก้ความเหลื่อมล้ำ


คำต่อคำ

เติมศักดิ์- สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการคนเคาะข่าว วันนี้วันพุธที่ 28 มีนาคม 2561 วันนี้เราคุยกันเรื่อง มองพรรคอนาคตใหม่และโอกาสของทางเลือกใหม่ๆ ของการเมืองไทย ณ ขณะนี้ เราจะสนทนากับอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย อาจารย์ พิภพ ธงไชย ครับ สวัสดีครับ อาจารย์พิภพ ครับ

พิภพ- ครับ สวัสดีครับ

เติมศักดิ์- ผมเริ่มจากเฟซบุ๊กของอาจารย์ พิภพ เมื่อ 21 มีนาคม อาจารย์พิภพนำคำพูดของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แห่งพรรคอนาคตใหม่ ที่บอกว่าตอนนี้การเมืองเป็นเรื่องป้ายสีและการเมืองเรื่องป้ายสีต้องเลิกเสียที การเมืองเรื่องป้ายสีของ ธนาธร ก็ขยายความอย่างนี้ครับ ธนาธร บอกว่า ตอนที่ทำลายคุณ ทักษิณ ก็ทำลายแบบป้ายสี พอเถอะหยุดสาดหยุดใส่ร้ายป้ายสี แล้วเดินไปข้างหน้า คุยกันเรื่องอนาคต อาจารย์ พิภพ นำมาเขียนและบอกว่า ธนาธร ต้องแยกจริง แยกเท็จ ให้ออก เรื่องประวัติศาสตร์การเมืองของทักษิณ ไม่อย่างนั้น ธนาธร จะกลายเป็นนักป้ายสีซ้อนป้ายสีเสียเอง นี้คือที่มาที่ผมชวนอาจารย์พิภพมานั่งคุยตรงนี้นะครับว่า นักป้ายสีซ้อนป้ายสีที่อาจารย์พูดถึง ขยายความสักนิดครับ

พิภพ- คือ หมายความว่าไปกล่าวหาว่าคนที่ต่อสู้กับเรื่องทักษิณว่าเป็นป้ายสี ก็คือไปป้ายสีคนที่ไปต่อสู้เรื่องทักษิณว่าไปป้ายสี ผมก็เลยใช้คำว่าป้ายสีพร้อมป้ายสี ประเด็นที่ผมบอกว่าคุณ ธนาธร จะต้องแยกให้ออกระหว่างบทบาทของคุณ ทักษิณ แล้วผมก็ท้าวความไปถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องคดีซุกหุ้น ท้าวความไปถึงตอนนั้น ถามหน่อยว่าคดีซุกหุ้นมันเป็นเรื่องป้ายสีเหรอ ทั้งๆที่ผลออกมาคนกังขาไปทั่วเมือง ว่าคุณทักษิณ หลุดได้อย่างไร เพราะว่ารัฐธรรมนูญที่ผมถือมาฉบับ 2540 ได้กำหนดไว้ว่านักการเมืองจะต้องไม่มีหุ้นถ้าจำไม่ผิดก็ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหุ้นนั้นเกินกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ก็จะต้องเอาภาษาอังกฤษเขาเรียกไปฟรีซไปแช่แข็งแล้วในรัฐธรรมนูญยังเขียนด้วยว่าหน้าที่แช่แข็ง ปปช. จะดูแลจัดการให้ก็คือมีตั้งบริษัทขึ้นมาหรือไปหาบริษัทขึ้นมาที่จะไปดูแลหุ้นของคุณ ทักษิณ พูดกันง่ายๆ แต่ปรากฏว่าคุณ ทักษิณ ไม่เอาหุ้นเข้าไปฟรีซ คำว่าฟรีซก็คือว่าไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงด้วยเพราะอะไร เพราะตัวเองอยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถจะขายหุ้นในท้องตลาดหรือซื้อหุ้นในท้องตลาดได้ นี้คือกรณีแล้วผมก็ยกตัวอย่างว่า กรณี อลัน กรีนสแปน ซึ่งเป็นผู้ว่าการธนาคารชาติของสหรัฐอเมริกา ทันทีที่เขารับตำแหน่ง หุ้น เขาจะต้องเข้าไปฟรีซ เขาไม่ได้บอกให้ขายหุ้นทิ้ง หรือยึดหุ้นแต่ว่าหุ้นยังเป็นของคุณ ทักษิณ อยู่ เป็นของ อลัน กรีนสแปน อยู่ นี้คือประเด็นอย่างนี้ แล้วผลปรากฏว่าคุณ ทักษิณ ใช้วิธีเลี่ยงกฎหมายคือเอาหุ้นไปที่เขาเรียกว่าซุกหุ้น ต้องถามคุณ ธนาธร ว่า กรณีอย่างนี้ คุณ ธนาธร เห็นว่านักการเมืองควรทำไหม แล้วนี้เป็นการใส่ร้ายป้ายสีหรือเปล่าแล้วเรื่องที่เกิดก่อนยุคพันธมิตรด้วย ยุคการเคลื่อนไหวพันธมิตร เรื่องที่เริ่มต้นวันที่คุณทักษิณ ได้รับคะแนนเสียงมาตั้งรัฐบาลเป็นพรรคเดียวในตอนนั้นด้วย แล้ว ครป. คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งผมเป็นประธานอยู่ ได้ประกาษออกมาว่า เป็นคำวินิจฉัยสีเทา จริงๆเดิมทีเราใช้คำว่าวินิจฉัยดำนะ แต่เห็นว่าจะมากไปเอาแค่สีเทา แล้วก็เลขาต่อมาคือคุณ ภูมิธรรม เป็นเลขาของคุณ ทักษิณ ถึงกับโทรมาคุยกับผมว่าทำไมพี่แถลงอย่างนั้น ตอนนั้นชอบพอกันแล้วตอนนั้นผมก็ไม่มีอะไรกับคุณ ทักษิณ เพราะว่าก่อนหน้าคุณ ทักษิณ ตั้งพรรคการเมือง ตั้งพรรคการเมืองแล้วก่อนหน้าคุณ ทักษิณ จะเป็นนายกรัฐมนตรี คุณ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ยังเชิญผมไปพูดให้คุณทักษิณฟังเรื่องการศึกษาก็ไม่มีอะไรกัน เพราะฉะนั้นผมก็วิจารณ์ในฐานะเป็นประธาน ครป. ก็วิจารณ์ด้วยความผิดปกติทางกฎหมาย เพราะงั้นถามหน่อยถ้าคุณ ธนาธร ยกตัวอย่างเรื่องนี้ นี้มันเป้นการป้ายสีเหรอ 2 ในคำแถลงของพันธมิตร อันนี้ผมไม่ได้เขียน ในคำแถลงของพันธมิตรแล้วคุณทักษิณไปฟ้องหมิ่นประมาท แล้วคุณทักษิณก็สู่จนกระทั่ง 3 ศาล แล้วแพ้เราหมด 4 ฉบับ นี้เป็นการป้ายสีเหรอ งั้นคุณ ธนาธร จะต้องไปดูรายละเอียดในคำแถลงของพันธมิตรที่กล่าวหาคุณทักษิณ แล้วว่าอะไรจริงอะไรเท็จแยกมา แต่ศาลได้วินิจฉัยแล้วว่ามันเป็นความจริง แล้วคุณ ธนาธร จะมี เควสชั่น มาร์ค กับ หรือว่าคำถามต่อศาลยุติธรรม มีได้นะครับ คำถามต่อศาลยุติธรรม เหมือนเรามี เควสชั่น มาร์ค คำถามต่อศาลรัฐธรรมนูญเรื่องกรณีซุกหุ้นได้แต่โดยสามัญชน คุณ ธนาธร ในฐานะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ก็ต้องแยกเรื่องตรงนี้ให้ออก อย่าไปกล่าวหาว่าคนที่เขาต่อสู้เรื่องคุณทักษิณ นั้นเป็นการป้ายสีคุณ ทักษิณ

เติมศักดิ์- ครับ ถ้าคุณ ธนาธร แยกประวัติศาสตร์ช่วงนี้ไม่ออก จะเป็นอย่างไรครับสำหรับอนาคต

พิภพ- จะเป็นยังไง ก็คือคุณ ธนาธร ก็มองไม่เห็นว่า การเมือง สภาพการเมืองของสังคมไทย ซึ่งคุณ ธนาธร ตั้งพรรคชื่อ อนาคตใหม่ อะไรรึที่เป็นปมปัญหาของการเมืองไทยสิ่งหนึ่งที่ผมอ่านจากคำแถลงของ 2 ผู้นำของพรรคนี้คือ คุณ ธนาธร กับ อาจารย์ ปิยบุตร ก็กล่าวหาเรื่องทหารหนึ่งละ ซึ่งอันนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันว่าการรัฐประหารซึ่งมีถึง 13 ครั้ง อาจจะตีความได้ว่าเป็นขบวนการที่มันทำให้ประชาธิปไตยแบบการเลือกตั้งมันไม่สามารถเดินไปข้างหน้าและเกิดการเรียนรู้ของประชาชนในการเรียนถูกผิดในการลงคะแนนเสียงได้ แต่ถามหน่อยว่าคุณ ธนาธร ในฐานะเป็น นายทุนใหญ่ที่เรียกตัวเองว่าไพร่หมื่นล้าน มองไม่เห็นเลยหรือว่ากลุ่มทุนเป็นตัวการสำคัญในการทำให้การเมืองไทยมันไม่พัฒนา ที่เราเรียกว่า ทุนสามานย์ ถ้าคุณ ธนาธร กับทีมไม่พูดเรื่องนี้เลย เรื่องทุนสามานย์ แล้วยอมรับไหมว่า ทุนสามานย์เป็นตัวการสำคัญ ตัวการหนึ่งในการพัฒนาประเทศทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะในนั้นคุณ ธนาธร พูดถึงความเหลื่อมล้ำ บอกอยากจะแก้ความเหลื่อมล้ำซึ่งผมเห็นด้วย ในเรื่องทหารผมก็เห็นด้วย แต่ก็ต้องแยกให้ถูกให้เป็นว่ามันไม่ใช่ทหารเท่านั้นมันมีเรื่องของทุนด้วย

เติมศักดิ์- คุณ ธนาธร บอกว่า เขาจะพยายามทำให้การรัฐประหารครั้งนี้ โดย พลเอกประยุทธ์ เป็นรัฐประหารครั้งสุดท้าย และบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องบอกว่าทหารต้องออกจากการเมืองไทย เพื่อป้องกันการรัฐประหาร ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต้องลดอำนาจทหารและลงนามรองรับสัตยาบันของศาลอาญาระหว่างประเทศ นี้คือวาทะกรรมของคุณ ธนาธร อาจารย์มองยังไงครับ

พิภพ- อันนี้ผมก็เห็นด้วยนะแล้วทุกคนก็เห็นด้วยในเรื่องว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจึงจะไม่มีรัฐประหาร แล้วรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ก็ออกแบบไว้ ว่าให้ประชาชนสามารถที่จะต่อต้านการรัฐประหารได้ แต่ในโลกของความเป็นจริง คุณ ธนาธร จะทำอย่างไร ในเมื่อทหารดำรงมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วเป็นสถาบันที่มีระบบระเบียบและการบริหารจัดการที่ต่อเนื่องกันมาแล้วก็มีบทบาททางการเมืองอยู่เราจะทำอย่างไร เหมือนทุน เราเอาทุนออกจากการเมืองไม่ได้ แต่เราจะจัดการบริหารทุนให้มีอิทธิพลทางการเมืองแค่ไหน ประเด็นของผมก็คือว่าในความเป็นจริงมีหลายองค์กรหลายสถาบันที่มีความเกี่ยวข้องในทางการเมือง ถึงแม้ในระบบประชาธิปไตยอาจจะบอกว่าราชการไม่ควรเกี่ยวข้องกับการเมือง ทหารไม่ควรเกี่ยวข้องกับการเมือง ตำรวจไม่ควรเกี่ยวข้องกับทางการเมือง แต่สิ่งที่เราต้องการเรียกร้องมากที่สุด คำว่าไม่ควรเกี่ยวข้องทางการเมือง คือไม่ใช่เข้ามายึดอำนาจ แล้วก็เปลี่ยนแปลงรัฐบาลแล้วก็ฉีกรัฐธรรมนูญแต่คุณ ธนาธร ต้องบอกว่า แล้วจะให้เกี่ยวข้องทางการเมืองแค่ไหน นี้สิผมอยากจะได้คำตอบ

เติมศักดิ์- คือ จะกันเขาออกจากเวทีการเมืองไปเลยมันก็ในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้

พิภพ- ผมว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เหมือนเราจะกันประชาชนออกจากเวทีการเมืองสมัยหนึ่ง มักจะมีคำของนักการเมืองบอกว่าเมื่อคุณเลือกตั้งแล้วคุณก็กลับไปอยู่บ้าน คุณไม่ต้องมาตั้งกลุ่ม ตั้งอะไรเป็น NGO เป็นองค์กรภาคประชาชนแล้วก็เคลื่อนไหวตรวจสอบรัฐในเรื่องโครงการใหญ่ๆ ของรัฐและอำนาจของรัฐที่ใช้ไปในทางที่ผิด

เติมศักดิ์- ประชาชนถูกกีดกันออกไปจากเวทีตรงนี้

พิภพ- ถูกกันออกไป แต่วันนี้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ 2540, 2550, 2560 บอกว่าประชาชนมีสิทธิ์ที่จะมาเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนเพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ กลับไปที่ทหาร ทหาร เราจะจัดให้ทหารมีอำนาจในการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลอย่างไร การให้ข้าราชการพลเรือนมีอำนาจในการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลอย่างไร แล้วเราก็ตั้ง ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 40 เราก็ตั้งองค์กรอิสระขึ้นมามากมายที่จะให้องค์กรอิสระเหล่านี้ได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐตั้งแต่องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ปปช. ศาลปกครอง แล้วมามีอะไรอีกหลายอย่างเลย เพราะฉะนั้นคุณ ธนาธร เป็นคนรุ่นใหม่เราจะต้องมาจัดสมดุลทางการเมืองกันใหม่ในการตรวจสอบในแต่ละเรื่องในแต่ละจุดแล้วเราเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข สถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่ในฐานะอย่างไร ซึ่งรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ชัดเจนว่าอยู่ในฐานะแล้วก็คานอำนาจกับรัฐบาลได้ในการที่จะเสนอกฎหมายใดๆ ที่จะให้ลงพระปรมาภิไธย พระมหากษัตริย์ทรงลงหรือไม่ลงก็ได้หน่วงเหนี่ยวไว้ได้แล้วก็ให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาใหม่ สภาทั้งสภาเพราะฉะนั้นการจัดสมดุลทางอำนาจทางการเมืองผมว่ามันมีการจัดกันอยู่ แต่เพียงแต่ว่ามันไม่มีประสิทธิภาพในบางองค์กร คุณ ธนาธร จะต้องบอกกับสังคมไทยว่า ที่ไม่มีประสิทธิภาพมันเพราะอะไร ผมเริ่มต้นทุน ในฐานะคุณ ธนาธร

เติมศักดิ์- ถ้าแค่บอกว่าทำให้การรัฐประหารครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนี้มันแค่เรื่องปลายเหตุ รัฐประหารมันแค่ปลายเหตุแต่มันมีสาเหตุที่ออกมาก่อนหน้านั้นก่อนจะมีการรัฐประหารที่เราต้องแก้ใช่ไหมครับ

พิภพ- จะพูดอย่างนั้นก็ได้ แต่บางคนก็บอกว่านักวิชาการบอกว่า รัฐประหารเป็นต้นเหตุ ทีนี้เราลองมาจินตนาการดู ถ้าเราไม่มีการรัฐประหารเลย เราจะให้ทหารมีบทบาทอย่างไร ผมยกตัวอย่างที่เราเผชิญหน้าสมัยพันธมิตร ตอนที่พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ทำรัฐประหาร เราก็ตั้งคำถามว่าวันนั้นควรทำ จำเป็นต้องทำรัฐประหารไหม เพราะวันนั้นพันธมิตรบอกว่าจะไปรอรับคุณ ทักษิณ ซึ่งบินมาจากองค์การสหประชาชาติที่ สนามบินดอนเมือง ทหารตัดสินใจทำรัฐประหารเกรงว่าจะเป็นการ

เติมศักดิ์- เผชิญหน้า

พิภพ- ปะทะกัน ทีนี้ทหารก็มีอำนาจในการประกาศกฎอัยการศึก ในการเลือกดูแลเรื่องพระราชบัญญัติความมั่นคง ถามหน่อยว่าทหารจะใช้กฎหมายที่มีอยู่หรือคุณ ธนาธร จะปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ให้ทหารสามารถจะคานอำนาจกับนักการเมืองได้แค่ไหน อันนี้น่าคิด ถ้าวันนั้นพลเอก สนธิ ในฐานะแม่ทัพบก ประกาศกฎอัยการศึกมันจะยับยั้งทำให้รัฐบาลไม่สามารถปฎิบัติราชการได้ในระดับหนึ่งแล้วไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศ อะไรอย่างนี้ต้องเอามาคุยกัน ยกตัวอย่างอย่างนี้เป็นต้น แต่จุดอ่อนก็คือว่าเราให้นักการเมืองคุมทหาร เราให้นักการเมืองสามารถแทรกแซงทหารในการย้ายทหารได้และในการปลดผู้บัญชาการทหารบกได้ ถ้าการประกาศกฎอัยการศึกนั้นผ่านไปแล้วก็สามารถปลดได้ ความสมดุลเรื่องพวกนี้มันละเอียดอ่อนมาก ที่ผมพูดอย่างนี้คือหมายความว่าผมยอมรับพลังอำนาจในสังคมไม่ได้ทหารเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าพรรค อนาคตใหม่ จะมาดู ก็ต้องมาดูว่าพลังอำนาจในสังคมมันมีอะไรบ้าง ตั้งแต่ศาสนาคณะสงฆ์ วัฒนธรรม สถาบันต่างๆ เช่น สถาบันข้าราชการก็ดี สถาบันทหารก็ดี เราจะจัดสมดุลทางอำนาจใหม่อย่างไร ดูจากสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยไม่ใช่หยิบอเมริกามา หยิบยุโรปมา หรือฝรั่งเศสมา ไม่ใช่ ผมว่าอันนี้สิผมอยากจะฟัง พรรค อนาคตใหม่

เติมศักดิ์- ทำไมอาจารย์ถึงอยากฟังจากพรรคอนาคตใหม่

พิภพ- เพราะ พรรคอนาคตใหม่ บอกตัวเองจะกำหนดอนาคตใหม่ เหมือนเราตั้งพรรคการเมืองใหม่ตอนนั้น คนก็อยากฟัง แต่ตอนนั้นพรรคการเมืองใหม่ชูเรื่องปฏิรูป พอเอ่ยคำว่า ปฏิรูป ผมไม่เห็นคำนี้จากปากของทีมงานคณะผู้ก่อตั้งของพรรค อนาคตใหม่ เลย เรื่องปฏิรูป แต่ที่จริงในพรรคอนาคตใหม่ มีคนที่เป็นสนใจเรื่องการศึกษาอยู่คนหนึ่งซึ่งผมเคยเชิญมาออกรายการ ออกที่ NEWS1 ด้วย เรื่องการศึกษาฟินแลนด์ แต่เขายังไม่เคยพูดมิติเรื่องการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ อันนี้ผมคิดว่าพรรคอนาคตใหม่ จะต้องในแต่ละเรื่อง

เติมศักดิ์- เพราะคุณพยายามเสนอตัวเองว่าเป็นทางเลือกใหม่ อนาคตใหม่

พิภพ- อนาคตใหม่ แล้วเรื่องพลังงาน ผมไม่เห็นพูด เรื่องทุนผูกขาด ใช่ไหมครับ อันเนี่ย แล้วปัญหานี้ เรื่องปฏิรูปที่ดิน เรื่องเก็บภาษีที่ก้าวหน้า เราอาจต้องบอกว่าใจเย็นๆ ก่อน จะคอยดูให้เขาค่อยๆ ออกมา ในเรื่องนโยบายต่างๆ เหล่านี้ เพราะโพลใช้คำว่าความเหลื่อมล้ำ อยากจะลดความเหลื่อมล้ำขึ้นมา เพราะความเหลื่อมล้ำมันเกี่ยวข้องกับหลายเรื่องเลยนะ ผมอยากฟัง

เติมศักดิ์- แสดงว่าอาจารย์ไม่ได้ด่วนตัดสินว่าเห็นการพูดจาของอนาคตใหม่แล้ว นี่มันโมเดลปฏิวัติฝรั่งเศส ขืนเป็นอย่างนี้นองเลือดอีกแน่ ไม่ด่วนตัดสินขนาดนั้นใช่ไหมครับ

พิภพ- ขอให้เขาพูด ก็ไม่สามารถทำให้เกิดได้ ผมไม่เคยวิตกกังวล เพราะใครไม่สามารถไปกำหนดว่าการเกิดนองเลือดหรือไม่นองเลือดได้หรอกมันหลายเรื่อง

เติมศักดิ์- อาจารย์ต้องยอมรับว่า ทันทีที่มีพรรคอนาคตใหม่ บางทีที่มีการประกาศวาทกรรมจากพรรคอนาคตใหม่ มันก็ ไอ้การเมืองแบบอนุรักษ์ ก้าวหน้า วาทกรรมนี้มันกลับมาอีก อาจารย์มองเรื่องนี้ยังไง

พิภพ- ผมคิดว่ามันจะเกิดการปรับตัวนะ ผมยกตัวอย่างเช่น เราเอาพรรคประชาธิปัตย์วางไว้ตรงไหน เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมหรือเปล่า

เติมศักดิ์- หรือเปล่า

พิภพ - 2.ถ้าประชาธิปัตย์ยอมรับว่าตัวเองเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม จะปรับตัวเองพรรคอนุรักษ์นิยมที่ก้าวหน้าไหม ผมว่าพรรคอนาคตใหม่จะกระแทกตรงนี้ กระแทก เพราะมีหนุ่มสาวเท่านั้นในพรรคอนาคตใหม่ ผมดูแล้วหลายคนประวัติก็สะอาด แล้วก็เป็นนักเคลื่อนไหวต่อสู้ในเรื่องที่ตัวเองถนัดอยู่ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีคนรุ่นใหม่ ใช่ไหมครับ คนรุ่นพออยู่สนุก พอสูงกว่านักเมืองเก่า แต่พรรคอนาคตใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่ล้วนๆ เลย ไม่มีผสมกับนักเมืองเก่าเลย เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ต้องขยับตัวแล้ว เขามีคนหนุ่มเยอะหลายคน ได้ข่าวว่าบางคนไปโต้กับคุณธนาธรก็สามารถที่จะสู้กันได้ ด้วยเสมอหรืออาจเหมือนกันด้วย

แต่ปัญหาที่เราจะต้องถามต่อไปว่า ทำไมคนหนุ่มในพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่แสดงบทบาท แม้กระทั่งคุณอภิสิทธิ์เอง ก็ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ความเป็นในการระบบบริหารจัดการของพรรคประชาธิปัตย์หรือเปล่า ความเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่มีอยู่บ้างและมีบารมีในพรรคประชาธิปัตย์มากไปหรือเปล่า เพราะฉะนั้นกลับมาพรรคอนาคตใหม่

เติมศักดิ์- คือหมายความว่าพรรคอนาคตใหม่จะเป็นตัวกระตุ้นให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องประกาศตัวเองให้ชัดใช่ไหมครับ ว่าคุณคือใครกันแน่ เสรีนิยมประชาธิปัตย์อะไรก็ว่ามา จะอนุรักษ์นิยมก็ได้

พิภพ- ใช่ จะบริหารจัดการพรรคอย่างไร พรรคอนาคตใหม่บอกว่าจะบริหารจัดการแบบใหม่ ปัญหาที่ผมจะถามต่อหลังจากพูดพรรคประชาธิปัตย์แล้ว คุณธนาธรจะกลายเป็นเจ้าของพรรคคนเดียวหรือเปล่า ซึ่งคุณธนาธรปฏิเสธว่าจะไม่

เติมศักดิ์- ก็ยังบอกอย่างนั้น

เติมศักดิ์- แต่ก็บอกว่าวิธีการบริหารจัดการทำยังไง สมัยพรรคการเมืองใหม่ เราทำชัดเจนว่าจะไม่เป็นของคุณสนธิ หรือแกนนำ แต่จะเป็นของมวลพันธมิตรใช่ไหมครับ แล้วก็อาจจะใช้ทำแบบอเมริกาด้วยมี Primary Vote ในหลายเรื่อง อันนี้ผมยังไม่เห็น ยังไม่เห็นคุณธนาธรว่าจะมีการสร้างกลไกของพรรคที่ทำให้คุณธนาธรไม่กลายเป็ฯคนกำหนดพรรคคนเดียว

เติมศักดิ์- หรือครอบงำพรรคอยู่คนเดียว

พิภพ- เหมือนคุณทักษิณ คุณทักษิณตอนนั้นก็ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ แล้วเป็นนักการเมืองใหม่ แต่สุดท้ายคุณทักษิณก็เป็นคนครอบงำพรรค เพราะความที่มีทุนหนามาก

เติมศักดิ์- นี่คือสิ่งที่ธนาธรต้องสรุปบทเรียนใช่ไหมครับ

พิภพ- ต้องบอกกับประชาชนว่าคุณธนาธรจะไม่เป็นแบบนคุณทักษิณ คุณธนาธรจะไม่เป็นแบบคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ อย่าลืมถ้าคุณอภิสิทธิ์ คุณทักษิณ ในสมัยนู้น ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่หมด ถ้าว่าในความเห็น วันนี้คุณธนาธรโดดเด่นออกมา เรามีพรรคการเมืองอีกพรรคการเมืองน่าสนใจ คือ พรรคพลังธรรมใหม่

เติมศักดิ์- ที่คุณหมอระวีไปจดแทน

พิภพ- ใช่ ก็กำลังบอกกับสังคมบอกว่าตัวเองจะใหม่ยังไง ก็ประกาศตัวมาแล้ว เพราะแะนั้นตอนนี้สำหรับผมพรรคที่น่าสนใจก็มี พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ และก็พรรคพลังธรรมใหม่ และก็กำลังดูพรรค กปปส. ว่าจะออกมายังไง

เติมศักดิ์- มีแน่ใช่ไหมครับอาจารย์

พิภพ- ผมคิดว่ามีแน่ แต่ว่าจะออกมายังไง เพราะจุดอ่อนของพรรค กปปส. คือ คุณสุเทพเป็นนักการเมืองเก่า ถึงแม้จะมีคนใหม่ ในการเป็นผู้นำมวลมหาประชาชนก็ตาม แต่รูปแบบในการบริหารจัดการและการนำพรรค และการจัดการพรรค เรายังไม่เห็น แต่ก็ถือว่าเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งมีความตื่นตัวทางการเมืองสูงปละมหาศาล ถึงแม้ว่าในชนชั้นกลางนั้น ที่ออกมาเป็นมวลชน กปปส. อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปัตย์ ส่วนหนึ่งของพันธมิตร และส่วนหนึ่งใหม่ๆ เข้ามาใหม่ ไม่เป็นทั้งประชาธิปัตย์และพันธมิตร ก็มีมาก ที่นี้ปัญหาของคุณสุเทพพลั่งปากไปแล้วว่าจะไม่ทำทางการเมือง จะจัดการเรื่องนี้ยังไง แล้วคนรุ่นใหม่ที่เคยอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ แล้วมาอยู่รวมกับ กปปส. หรือจะกลับไปประชาธิปัตย์ หรือจะอยู่กับที่นี่ แล้วจะอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นคนชนชั้นกลางใหม่ใน กปปส. และสร้างพรรคการเมืองใหม่ ได้หรือไม่ อันนี้ผมอยากเห็น

เติมศักดิ์- ในการที่คุณสุเทพประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จะทำยังไง โจทย์นี้ใช่ไหมครับ ระหว่างความเป็นคนรุ่นใหม่กับความเป็นชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

พิภพ- อันนี้คุณสุเทพพลาด พลาดเลย สำหรับความเห็นของผม พลาดเลย โดยไปคิดเมื่อปีสองปีที่แล้ว ว่าการชู พล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้พรรคเกิด

เติมศักดิ์- เป็นจุดขาย

พิภพ- เป็นจุดขาย แต่ว่าอันนี้ผมถือว่าพลาดและคงปรับตัวไม่ได้

เติมศักดิ์- อาจารย์พูดถึงอนาคตใหม่ ประชาธิปัตย์ พลังธรรมใหม่ กปปส. แล้วเพื่อไทยอยู่ตรงไหนครับ อาจารย์ครับ ในสมการนี้

พิภพ- เพื่อไทยเรายังไม่เห็น เรายังไม่เห็นว่า ก็มีคนหนุ่มคนสวยเยอะนะในเพื่อไทย แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นคนไม่หนุ่มไม่สวย และไม่สดแล้ว ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ปัญหาว่าคนหนุ่มคนสวยในพรรคเพื่อไทยมีไหม คือที่จริงกลุ่มคนแบบพวกคุณธนาธร ซึ่งเขาต่อสู้ ถ้าพูดกันไป ก็คล้ายกันว่าคู่ไปกับกระบวนการของคุณทักษิณ ใช่ไหม

เติมศักดิ์- ใช่

พิภพ- คู่กันไป แต่แทนที่จะไปกลายเป็นเนื้อเดียวกัน กับแยกออกมา ผมก็ไม่รู้ว่ามีการตกลงทางเชิงยุทธศาสตร์ด้วยหรือเปล่า ว่าต้องสร้างพรรคเพื่อจะเรียกเสียงคนรุ่นใหม่และคนที่มารวมชุมนุมของมวลมหาประชาชนและของพันธมิตร เอามาสันบสนุน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ

เติมศักดิ์- โดยเฉพาะกรุงเทพฯ

พิภพ- ใช่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เพราะว่ากรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทยยังเอาชนะไม่ได้ ในอดีตที่ผ่านมา มีพรรคประชาธิปัตย์ แต่เพื่อไทยไปชนะอีสาน ไปชนะเหนือ ใต้ยังชนะไม่ได้ พรรคอนาคตใหม่ถ้าบริสุทธิ์ใจและไม่มีความเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย ก็จะแสดงฉีกตัวออกมา มาสร้างอนาคตใหม่จริงๆ แต่ถ้าต่อไปประชาชนพิสูจน์ว่าไม่ใช่ ถือว่าเสร็จแล้ว ถือว่าจะเสร็จแล้ว

เติมศักดิ์- ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าตัวเองไม่ใช่สาขาของพรรคทักษิณ

พิภพ- ใช่ ต้องพิสูจน์ตัวเอง แล้วต้องพิสูจน์ตัวเองว่าตัวเองใช้คำว่าไพร่หมื่นล้าน หมายความว่ายังไง ไพร่หมื่นล้าน

เติมศักดิ์- ทำไมอาจารย์ถึงสนใจตรงนี้

พิภพ- ใช่ ผมสนใจตรงนี้ว่าหมายความว่ายังไง ไพร่ แล้วมีเงินตั้งหมื่นล้าน และความเป็นไพร่มันหมายความว่ายังไง จะทำการเมืองแบบไพร่ ถ้าเป็นตีความผมก็คือทำการเมืองยกระดับ คนที่เสียเปรียบให้กับสังคมให้ขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกัน คือง่ายๆ ถ้าตีความผมกลายเป็นชนชั้นกลางใหม่

เติมศักดิ์- เป็นชนชั้นกลางใหม่

พิภพ- ใหม่ เพราะว่าชนชั้นกลางใหม่มันต้องเกิดจากคนจน ถูกไหมครับ คนจนเราได้สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้สำเร็จ คนพวกนี้ก็จะยืนอ้าปาก ยืนได้ วิถีชีวิตก็จะกลายเป็นไป ไม่เป็นวิถีชีวิตแบบคนจน ก็จะเป็นวิถีชีวิตแบบชนชั้นกลาง

เติมศักดิ์- ถ้าคำว่า ไพร่ ถ้าวาทกรรมนี้เจตนาหมายถึงการยกระดับคนที่เคยเสียเปรียบทางสังคม อย่างนี้รับได้

พิภพ- รับได้ แต่จะต้องบอกมาว่าจะจัดความไอ้เสียเปรียบนั้นยังไง ซึ่งผมพูดตอนต้นว่าถ้ายังไม่แตะเรื่องทุน ไม่แตะเรื่องการผูกขาด ไม่แตะเรื่องการปฏิรูปที่ดิน ไม่แตะเรื่องภาษี ใช่ไหมครับ ถามหน่อยว่าจะลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร ถ้าลดความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ไพร่จะยกตัวเองขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางใหม่ได้อย่างไร และชนชั้นกลางมันก็มีหลายชั้นอีก ถ้าเป็นชนชั้นกลางระดับล่างจะทำยังไง เอาระดับล่างก็คือระดับที่พอมีเงินเดือน แล้วก็ต้องผ่อนส่งบ้าน 15 ปี หรือ 20 ปี

เติมศักดิ์- คือหมายความว่าจะจัดตัวเองหรือโพซิชั่นตัวเอง เป็นฝ่ายก้าวหน้า คุณต้องตอบคำถามพวกนี้ให้ได้ ว่าไอ้ที่ก้าวหน้า ก้าวหน้าขนาดนี้อย่างนี้หรือเปล่า หรือกล้าแตะต้องเรื่องราวแบบนี้หรือเปล่า

พิภพ- ใช่ แล้วเรื่องแรงงาน คุณธนาธรก็ถูกโจมตีเรื่องนี้ ใช่ไหมครับ เอาเรื่องแรงงานในฐานะที่ตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจและมีคนงานเป็นจำนวนมาก ตัวเองจะบทบาทของแรงงานให้มีส่วนรวมในระบอบประชาธิปไตยและมีส่วนรวมในระบอบทุนอย่างไร

เติมศักดิ์- ผมสนใจที่อาจารย์พูดก่อนเข้ารายการบอกว่าจริงๆ พรรคอนาคตใหม่แรงกระแทกมันจะไปที่พรรคประชาธิปัตย์สูงมาก อาจารย์คิดอย่างนั้นใช่ไหมครับ

พิภพ- ใช่ เพราะประชาธิปัตย์ยังเป็นทางออกของคนชนชั้นกลางอยู่ ของคนที่ต่อสู้กับคุณทักษิณอยู่ ถึงแม้เราจะไม่มีความสุขกับคุณอภิสิทธิ์อยุ่บ้าง ถูกไหมครับ ไม่มีความสุขอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในหลายเรื่องก็ตาม แต่มันก็ยังไม่มี แต่พรรคอนาคตใหม่ ถ้ามองแบบยุทธศาสตร์เมื่อสักครู่นี้ ถ้าเป็นวางยุทธศาสตร์ร่วมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่ ผมไม่ใช่คำว่านอมินี วางยุทธศาสตร์ร่วม ก็คือชิงความใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่เป็นชนชั้นกลางใหม่ มากำหนดอนาคตประเทศไทย มันจะไปกระแทกพรรคเพื่อไทยด้วยนะถ้าไม่เป็นนอมินีกัน ถูกไหม มันจะไปกระแทกด้วย

เติมศักดิ์- ไม่ใช่ในเรื่องแค่ฐานเสียงใช่ไหมครับ แต่กระแทกในเรื่องของนโยบาย

พิภพ- ใช่ นโยบายและแนวคิด เพราะแะนั้นวันนี้ผมถึงตั้งคำถามว่า พรรคอนาคตใหม่ยังไม่พูดเรื่องคอรัปชัน

เติมศักดิ์- 1.ยังไม่พูดเรื่องคอรัปชัน

พิภพ- ยังไม่พูดเรื่องพลังงาน ยังไม่พูดเรื่องปฏิรูปที่ดิน ปฏิรูปภาษี ยังไม่พูดถึงทุนผูกขาด ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ยังไม่พูดการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นตัวสำคัญ เราพูดกันมากเรื่องการศึกษาทำให้คนไทยไม่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพลเมืองได้ จากชาวบ้านธรรมดาให้มาเป็นพลเมืองอย่างที่เยอรมันทำ ทำยังไงให้ชาวบ้านธรรมดาที่นิยมฮิตเลอร์ปรับเปลี่ยนวิธีคิดว่า ไม่ใช่แหล่ะ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นพลเมือง และปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปเศรษฐกิจ

เติมศักดิ์- น่าสนใจ สุดท้ายครับ อาจารย์ครับ อยากให้อาจารย์ฝากไว้หน่อยว่าจากนี้จนถึงการเลือกตั้ง ไอ้ภาพการต่อสู้ชิงมวลชนระหว่างฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ สนับสนุน คสช. จะพรรคใดก็แล้วแต่กับฝ่ายที่เลือกตัวเองว่าเป็นฝ่ายก้าวหน้า ไม่จำเป็นต้องเป็นอนาคตใหม่ ประชาธิปัตย์อาจจะก้าวหน้าก็ได้ การช่วงชิงมวลชนในช่วงนี้มันจะแหลมคมแค่ไหนครับ

พิภพ- แหลมคมแน่นอน แล้วมันมีตัวแปรช่วงชิงมวลชน มันทำให้ไม่เกิดอนาคตใหม่ที่แท้จริง เพราะในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ในเรื่อง ส.ว. ซึ่งเป็นตัวกำหนดนายกรัฐมนตรี

เติมศักดิ์- เป็นมรดกจาก คสช.

พิภพ- ใช่ แล้วในการจังหวะที่จะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองเหล่านี้ได้บอกกับสังคมว่าตัวเองคิดอย่างไร คุณประยุทธ์ คณะทหาร ก็ยังทอดไม่เปิดโอกาสให้พวกนี้ได้เคลื่อนไหวทางการเมือง ใช่ไหมครับ เพราะว่าคุณประยุทธ์ก็กลัว เนื่องจากว่าตัวเองไม่สามารถทำปฏิรูปได้สำเร็จในสมัยตัว เพราะฉะนั้นมองออกว่าการเมืองมันจะยอดไปแบบเดิม อันนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องความผิดของคนไทยเลย เป็นความผิดของคุณประยุทธ์และคณะทหารอย่างเต็มตัวเลยนะ ไม่สามารถปฏิรูปตำรวจได้ ไม่สามารถข้าราชการได้ ก็ยอมรับว่าการทุจริตคอรัปชันมันสืบเนื่องมาสามสี่รัฐบาลย้อนหลังไป แต่คุณประยุทธ์จะปฏิรูปข้าราชการยังไงที่ไม่ให้เกิดการทุจริตคอรัปชันในอนาคต ไม่ปฏิรูปตำรวจ การกระจายอำนาจคุณประยุทธ์ก็คลุมเครือ ว่าจะกระจายหรือไม่กระจาย แต่ทำให้คนนอกมองว่าเป็นศูนย์รวมอำนาจ

เติมศักดิ์- ทั้งๆ ที่มีมาตรา 44 อยู่ในมือยังทำไม่ได้เลย ปฏิรูป

พิภพ- วิธีคิดเท่านั้น แล้วถ้าวิธีคิดมันไม่ไป ต่อให้มีอำนาจ ก็ไม่รู้จักใช้อำนาจในการจัดการนั้น

เติมศักดิ์- ผมฝากไว้เรื่องหนึ่งนะครับอาจารย์ ไว้มาต่อยอดกันโอกาสนะครับอาจารย์ มีนักวิชาการบอกว่ารัฐบาลที่ดีต่อการปฏิรูป คือรัฐบาลที่รอมชอมกัน ประชาธิปัตย์ก็ต้องรอมชอมกับฝ่ายหนึ่ง หรืออนาคตใหม่ก็ต้องรอมชอมกับอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อไทยก็ต้องรอมชอมกับอีกฝ่ายหนึ่ง ทหารก็ต้องรอมชอมกับอีกฝ่ายหนึ่ง อาจารย์ทิ้งหน่อยไหมครับ

พิภพ - ผมคิดว่าถ้าทำอย่างนั้นจะไม่เกิดการปฎิรูป แต่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ไม่ใช่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง และเราก็รอมชอมมาตลาดนะ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย มันก็ไม่เกิดการปฏิรูป 2475 มันรอมชอมเพระารอมชอมไม่ใช่หรือ จึงไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้ ใช่ไหมครับ ปัญหามันก็คาราคาซังมาจนถึงวันนี้ ทหารก็กลับมา

เติมศักดิ์- เพราะฉะนั้นรัฐบาลที่ดีต่อการปฏิรูป ต้องไม่ใช่รัฐบาลรอมชอม แบบรอมชอม

พิภพ- ไม่ใช่รัฐบาลรอมชอม แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ความรุนแรงจนกระทั่งเกิดการนองเลือดที่กลัวกัน ว่าจะกลับไปเป็นแบบฝรั่งเศส เพราะนั้นไม่รอมชอม

เติมศักดิ์- โอกาสหน้าขยายกันต่อครับอาจารย์ ขอบคุณมากครับอาจารย์พิภพ คนเคาะข่าวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น