MGR Online - “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดี DSI ให้การปฏิเสธ สู้คดีอายัดบัญชี กปปส. ชุมนุมปี 56 โดยมิชอบ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดตรวจหลักฐาน 20 เม.ย. นี้ “สุเทพ” ยืนยันไม่รับตำแหน่งทางการเมือง
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดพร้อมสอบคำให้การจำเลยและกำหนดวันนัดพิจารณา คดีหมายเลขดำ อท.101-103 และ อท.214/2559 รวม 4 สำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน ที่ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตเลขาธิการ กปปส., นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส., นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำ พธม. แนวร่วม กปปส., นายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งเคยร่วม กปปส. และ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก อดีตแนวร่วม พธม. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “นายธาริต เพ็งดิษฐ์” อายุ 60 ปี อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีที่ นายธาริต ขณะดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีดีเอสไอ แล้วระหว่างนั้นในปี 2556 ได้ทำการอายัดบัญชีของแกนนำ กปปส. ในกรณีถูกกล่าวหากระทำผิดอาญาคดีชุมนุมทางการเมืองโดยมิชอบ ไม่ตรวจสอบแต่ละบัญชีให้รอบคอบว่าเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่ โดยโจทก์เห็นว่าเป็นการอายัดบัญชีแบบเหวี่ยงแห
โดยคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2561 ให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าคดีมีมูล
โดยในวันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. โจทก์ ก็เดินทางมาพร้อมกับ นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เพื่อร่วมกระบวนพิจารณา ส่วน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ จำเลย ก็เดินทางมาศาลพร้อมสอบคำให้การจำเลย ทั้งนี้ นายธาริต อดีตอธิบดีดีเอสไอ จำเลย ให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี ศาลจึงกำหนดนัดตรวจหลักฐานคดีในวันที่ 20 เม.ย. นี้ เวลา 10.00 น.
ด้าน นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เปิดเผยว่า เมื่อสอบคำให้การจำเลยแล้ว ศาลก็กำหนดให้โจทก์ และ จำเลย นำสืบพยานรวม 15 นัด เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค. ต่อเนื่องถึงเดือน พ.ย. นี้ โดยเริ่มพยานโจทก์นัดแรก วันที่ 31 ก.ค. นี้
ภายหลัง นายสุเทพ อดีตเลขาธิการ กปปส. ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย ในคดีที่ตนร่วมกับแกนนำ กปปส. ฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ สมัยเป็นอธิบดีดีเอสไอ ทำการอายัดบัญชีเงินของ กปปส. โดยปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนั้น กปปส. กำลังชุมนุมต่อสู้คัดค้านร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ทั้งที่รัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครองไว้ โดยสั่งอายัดบัญชีพวกตนในฐานะแกนนำอย่างเหวี่ยงแหทุกคน โดยไม่ได้ตรวจสอบว่าบัญชีมีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ไม่ถูกกฎหมายหรือไม่อย่างไร และลุแก่อำนาจออกหมายเรียกพวกตนในข้อหาเป็นกบฏ ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นยังไม่มีคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กฎหมายกำหนด
พร้อมให้สัมภาษณ์กล่าวหาว่าพวกตนเป็นกบฏ ทำให้เสียหาย ทั้งๆ ที่พวกตนต่อสู้ด้วยความสงบปราศจากอาวุธ ทำหน้าที่ของประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม สำหรับการดำเนินคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ออกแบบไว้ในกระบวนการยุติธรรมนั้น ใช้วิธีการไต่สวนถือว่าทันสมัย สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนกรณีที่แนวร่วม กปปส. เตรียมตั้งพรรคมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปฯ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพูดชัดเจนแล้วว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ไม่รับตำแหน่งหน้าที่ในทางการเมืองใดๆ ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีใดๆ และจะไม่เข้าเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใด แต่ตนเข้าใจดีว่าตอนนี้เป็นกระแส สื่อก็อยากได้คำตอบอย่างอื่น ซึ่งตนไปตอบแทนไม่ได้ ตนเป็นคนรับใช้ประชาชน กปปส. มาชุมนุมต่อสู้คัดค้านร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ต่อสู้เพื่อต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อสู้เพื่อคัดค้านการเลือกตั้งโดยไม่มีการปฏิรูปประเทศ และต่อสู้เพื่อการปฏิรูปประเทศ ซึ่งมันจบลงแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ตนขอชี้แจงประเด็นนี้ให้ชัดเจนด้วยว่า กปปส. ไม่ใช่องค์กรถาวร เมื่อเสร็จภารกิจ พี่น้องประชาชนมาต่อสู้ด้วยกันเสร็จก็กลับไปที่ตั้งเดิมของตัวเอง เป็นเกษตรกรก็กลับไปทำเกษตร เป็นพ่อค้าก็กลับไปค้าขาย เป็นข้าราชการก็กลับไปราชการ ที่เป็นนักการเมืองก็กลับพรรคการเมืองของตัวเอง
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ที่ตนต้องย้ำเพราะว่ามีบางคนไปวิพากษ์วิจารณ์ว่า กปปส. อาจจะตั้งพรรคการเมือง จริงๆ ไม่ใช่ เราได้ตกลงกันแล้วว่าบรรดาคนที่เป็นนักการเมือง มาจากพรรคการเมืองไหนก็กลับพรรคการเมืองของตัวเอง แกนนำที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็กลับไปพรรคประชาธิปัตย์ บางคนที่มาจากพรรคการเมืองอื่น ก็กลับพรรคของเขา ตนลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ตัดสินใจมาร่วมสู้กับประชาชน และตนจะไม่กลับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ตอนนี้เขากำลังมีการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่กัน ใครคิดที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ก็เป็นสิทธิ กปปส. ไม่ตั้งพรรคการเมือง จบภารกิจไปแล้ว การตั้งพรรคการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
“ส่วนผมเองก็ดูว่าประชาชนทั้งหลายเขาคิดอย่างไร แล้วผมก็มีความคิดของผม แต่ผมไม่ต้องการออกมาชี้นำประชาชน เป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนที่เขาจะคิดอ่านดำเนินการ แล้วก็ถึงเวลาว่าผมตัดสินใจอย่างไรผมก็จะดูสถานการณ์ ดูความตั้งใจของบรรดาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า จะเป็นสมาชิกพรรคมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปฯ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะเป็นสมาชิกได้อย่างไร พรรคยังไม่ตั้งเลย แต่ส่วนตัวพร้อมหากประชาชนมาชวน มาคุยกับตน ตนก็พร้อมให้คำแนะนำ ตนมีความคิด มีประสบการณ์ มีกำลัง มีหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะประชาชน เป็นคนไทยมีหน้าที่ต้องทำเพื่อพระมหากษัตริย์ ศาสนา ประเทศไทย ตนมีอิสระเสรีที่จะมีความคิดเหมือนประชาชน ถ้าประชาชนตั้งใจ ตนก็พร้อมรับใช้ประชาชนตามกำลังความสามารถ