ประชาธิปัตย์ซัดรัฐบาลสอบตกในการอธิบายความจริงคดีจำนำข้าว ให้สังคมรับทราบ วอนทุกฝ่ายเคารพคำตัดสินศาลฎีกาฯ ชี้ นปช. ยื่นรื้อคดีสลายชุมนุมปี 53 แค่หวังผลทางการเมือง ทั้งที่คดีจบแล้ว พิจารณาซ้ำไม่ได้ เตรียมยื่นเรื่อง ผบ.ตร. แจงความคืบหน้า คดี"ณัฐวุฒิ" ยุคนเสื้อแดงล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา หลังผ่านมา 5 ปี แต่ไม่คืบ "ไก่อู" ขอประชาชนเคารพศาล อย่าใช้อารมณ์ตัดสิน "วัชระ" แฉ คนในระบอบทักษิณ พาเหรดได้ดีในยุคคสช. เตรียมทำหนังสือส่งครม. ทบทวน "สุทธิพล" นั่งอธิบดีกรมส่งเสริมท้องถิ่น ระบุหลักฐานชัด เคยระดมคนเสื้อแดงร่วมชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถาน
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง คดีรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า เป็นคดีที่ผ่านการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา โดยเป็นผลจากการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. สะท้อนถึงการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และตรงไปตรงมา ด้วยการนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงขอให้ทุกฝ่ายรอฟัง และเคารพอำนาจตุลาการ ทุกฝ่ายต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และยอมรับคำพิพากษา เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ และเห็นว่ารัฐบาลสอบตกในการอธิบายความจริงให้สังคมรับทราบ เพราะคดีนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลคสช. เนื่องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เกิดมาตั้งแต่ รัฐธรรมนูญปี 40 แต่ปล่อยให้มีการบิดเบือนความจริงว่า คดีนี้ เกิดในรัฐบาลคสช.
นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ไปยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. ให้รื้อคดีสลายชุมนุมปี 53 ว่า เป็นการกระทำที่หวังกดดันให้ป.ป.ช. หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประโยชน์ทางการเมือง เพราะป.ป.ช.เคยยกคำร้องไปแล้ว เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตนายก และ รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผบ.ทบ. ไม่ได้กระทำผิด ถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาซ้ำอีก จึงไม่สามารถกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้ จึงอยากให้นายณัฐวุฒิ ไปปรึกษาทีมกฎหมายของพรรคบ้าง เพราะพยาน หลักฐานใหม่ ที่กล่าวอ้างนั้นไม่มีเหตุผลเพียงพอ
นายราเมศ ยังเรียกร้องให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ชี้แจงความคืบหน้า ในคดีที่มีประชาชนไปแจ้งความ ดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.53 กรณีที่มีการสั่งการ ใช้ หรือจ้างวาน ให้มีการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งคดียังค้างอยู่ที่สถานีตำรวจพัทยา ผบ.ตร. ต้องออกมาชี้แจงว่า คดีมีความคืบหน้าอย่างไร เพราะบุคคลที่ไปล้มการประชุมอาเซียน ถูกศาลตัดสินจำคุกแล้ว การกระทำของนายณัฐวุฒิ ที่ยุยงส่งเสริมให้คนไปล้มการประชุมอาเซียน ก็ควรมีการดำเนินคดีด้วย โดยในสัปดาห์หน้า ตนจะยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เพื่อทวงถามความคืบหน้าด้วย
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนศาลฎีกาฯ จะอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า รัฐบาลต้องนำคำพูดของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่พูดหลังศาลมีคำพิพากษา คดีสลายชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ว่า กระบวนการยุติธรรม เชื่อได้ พึ่งได้ นำมาชี้แจงและฉายซ้ำ เพื่อให้เห็นว่าคสช. ไม่มีอำนาจแทรกแซงคดี ศาลเปิดโอกาสทั้งสองฝ่ายสืบพยานครบถ้วน แต่ละนัดไต่สวนเปิดเผย ไม่ปิดบังซ่อนเร้น การที่พรรคเพื่อไทยพยายามแสดงบทบาทเช่นนี้ ถือว่า กดดันกระบวนการยุติธรรม เอาเสียงข้างมากไปข่มขู่ การเตรียมการใดๆ ของพรรคเพื่อไทย ก็ขอให้เลิกเสีย เพราะเมื่อพี่เขย บอกว่า กระบวนการยุติธรรม เชื่อถือได้ น้องภรรยา ก็ควรจะยอมรับ และหากมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้กระทำผิด จะไปกลัวทำไม จะไปเอามวลชนมากดดันศาลฯ เพื่อประโยชน์อะไร การที่ระดมคนมาให้กำลังใจ แจกดอกไม้ให้ดอกกุหลาบสีทั้งหลาย อ้างว่าให้กำลังใจ แต่เนื้อแท้คือ การกดดัน เชื่อว่า อรหันต์ตุลาการทั้ง 9 คน ไม่ได้หวั่นไหว
"ไก่อู"ขอปชช.อย่าใช้อารมณ์ตัดสิน
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวประชาชนจะเดินทางมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มีแนวทางที่ชัดเจน เราไม่ได้จะไปทำอะไรกับผู้ที่จะมาให้กำลังใจ จะรักใครชอบใคร ไม่มีใครว่า เพียงแต่เป็นห่วงประชาชนที่จะเดินทางมาวันนั้น เพราะการตัดสินคดีเป็นกระบวนการยุติธรรมของศาล ถ้าไม่ยึดข้อกฎหมาย บ้านเมืองไปลำบาก จะผิดถูกอย่างไร เป็นเรื่องของกระบวนการ ศาลตัดสินมาแล้วก็อาจมีทั้งคนสมหวัง และไม่สมหวัง ไม่ว่าคำตัดสินจะเป็นอย่างไร ไม่อยากให้ประชาชนเอาอารมณ์มาตัดสิน
แฉลิ่วล้อทักษิณได้ดีในยุคคสช.
ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง กรณี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลายคน ออกมาตำหนิ คสช.ว่า เป็นเผด็จการทหาร ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ในยุคนี้กลับมีคนในเครือข่าย ทักษิณได้ดิบได้ดีจำนวนมาก โดยในกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ซึ่งเป็นญาติกับ นายเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผอ.สศค. ส่วนนายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ ซึ่งเคยเป็นกรรมาธิการ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สนับสนุนแนวทางของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ในขณะที่ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ซึ่งเป็นพี่น้องกับ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้เป็น ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล คสช.
นายวัชระ กล่าวด้วยว่า ทราบมาว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่กำลังจะแต่งตั้งนั้น บุคคลที่จะได้รับเลือกคือ สามีของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และยังมีคนของคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ คือ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทั้งๆ ที่ เป็นคนจัดตั้งมวลชนคนเสื้อแดง ให้พรรคเพื่อไทย และปรากฏหลักฐานว่าเคยจัดคนเสื้อแดง ร่วมชุมนุมที่เมืองทองธานี จนถึงราชมังคลากีฬาสถาน จำนวนหนึ่งพันคน ในขณะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ซึ่งตนจะทำหนังสือคัดค้าน พร้อมหลักฐานส่งถึง ครม.ทุกคนได้รับทราบถึงพฤติกรรมของ นายสุทธิพงษ์ และทบทวนการแต่งตั้งตำแหน่งนี้ใหม่ พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯสตง. ตรวจสอบการใช้งบประมาณรัฐ ในการขนคนเสื้อแดงไปชุมนุมใน ช่วงปี 2556 เหมือนกับที่ตรวจสอบการใช้งบของท้องถิ่น เรื่องการระดมคนมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีจำนำข้าวด้วย
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง คดีรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า เป็นคดีที่ผ่านการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา โดยเป็นผลจากการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. สะท้อนถึงการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และตรงไปตรงมา ด้วยการนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงขอให้ทุกฝ่ายรอฟัง และเคารพอำนาจตุลาการ ทุกฝ่ายต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และยอมรับคำพิพากษา เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ และเห็นว่ารัฐบาลสอบตกในการอธิบายความจริงให้สังคมรับทราบ เพราะคดีนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลคสช. เนื่องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เกิดมาตั้งแต่ รัฐธรรมนูญปี 40 แต่ปล่อยให้มีการบิดเบือนความจริงว่า คดีนี้ เกิดในรัฐบาลคสช.
นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ไปยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. ให้รื้อคดีสลายชุมนุมปี 53 ว่า เป็นการกระทำที่หวังกดดันให้ป.ป.ช. หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประโยชน์ทางการเมือง เพราะป.ป.ช.เคยยกคำร้องไปแล้ว เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตนายก และ รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผบ.ทบ. ไม่ได้กระทำผิด ถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาซ้ำอีก จึงไม่สามารถกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้ จึงอยากให้นายณัฐวุฒิ ไปปรึกษาทีมกฎหมายของพรรคบ้าง เพราะพยาน หลักฐานใหม่ ที่กล่าวอ้างนั้นไม่มีเหตุผลเพียงพอ
นายราเมศ ยังเรียกร้องให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ชี้แจงความคืบหน้า ในคดีที่มีประชาชนไปแจ้งความ ดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.53 กรณีที่มีการสั่งการ ใช้ หรือจ้างวาน ให้มีการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งคดียังค้างอยู่ที่สถานีตำรวจพัทยา ผบ.ตร. ต้องออกมาชี้แจงว่า คดีมีความคืบหน้าอย่างไร เพราะบุคคลที่ไปล้มการประชุมอาเซียน ถูกศาลตัดสินจำคุกแล้ว การกระทำของนายณัฐวุฒิ ที่ยุยงส่งเสริมให้คนไปล้มการประชุมอาเซียน ก็ควรมีการดำเนินคดีด้วย โดยในสัปดาห์หน้า ตนจะยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เพื่อทวงถามความคืบหน้าด้วย
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนศาลฎีกาฯ จะอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า รัฐบาลต้องนำคำพูดของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่พูดหลังศาลมีคำพิพากษา คดีสลายชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ว่า กระบวนการยุติธรรม เชื่อได้ พึ่งได้ นำมาชี้แจงและฉายซ้ำ เพื่อให้เห็นว่าคสช. ไม่มีอำนาจแทรกแซงคดี ศาลเปิดโอกาสทั้งสองฝ่ายสืบพยานครบถ้วน แต่ละนัดไต่สวนเปิดเผย ไม่ปิดบังซ่อนเร้น การที่พรรคเพื่อไทยพยายามแสดงบทบาทเช่นนี้ ถือว่า กดดันกระบวนการยุติธรรม เอาเสียงข้างมากไปข่มขู่ การเตรียมการใดๆ ของพรรคเพื่อไทย ก็ขอให้เลิกเสีย เพราะเมื่อพี่เขย บอกว่า กระบวนการยุติธรรม เชื่อถือได้ น้องภรรยา ก็ควรจะยอมรับ และหากมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้กระทำผิด จะไปกลัวทำไม จะไปเอามวลชนมากดดันศาลฯ เพื่อประโยชน์อะไร การที่ระดมคนมาให้กำลังใจ แจกดอกไม้ให้ดอกกุหลาบสีทั้งหลาย อ้างว่าให้กำลังใจ แต่เนื้อแท้คือ การกดดัน เชื่อว่า อรหันต์ตุลาการทั้ง 9 คน ไม่ได้หวั่นไหว
"ไก่อู"ขอปชช.อย่าใช้อารมณ์ตัดสิน
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวประชาชนจะเดินทางมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. มีแนวทางที่ชัดเจน เราไม่ได้จะไปทำอะไรกับผู้ที่จะมาให้กำลังใจ จะรักใครชอบใคร ไม่มีใครว่า เพียงแต่เป็นห่วงประชาชนที่จะเดินทางมาวันนั้น เพราะการตัดสินคดีเป็นกระบวนการยุติธรรมของศาล ถ้าไม่ยึดข้อกฎหมาย บ้านเมืองไปลำบาก จะผิดถูกอย่างไร เป็นเรื่องของกระบวนการ ศาลตัดสินมาแล้วก็อาจมีทั้งคนสมหวัง และไม่สมหวัง ไม่ว่าคำตัดสินจะเป็นอย่างไร ไม่อยากให้ประชาชนเอาอารมณ์มาตัดสิน
แฉลิ่วล้อทักษิณได้ดีในยุคคสช.
ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง กรณี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลายคน ออกมาตำหนิ คสช.ว่า เป็นเผด็จการทหาร ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ในยุคนี้กลับมีคนในเครือข่าย ทักษิณได้ดิบได้ดีจำนวนมาก โดยในกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ซึ่งเป็นญาติกับ นายเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผอ.สศค. ส่วนนายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ ซึ่งเคยเป็นกรรมาธิการ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สนับสนุนแนวทางของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ในขณะที่ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ซึ่งเป็นพี่น้องกับ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้เป็น ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล คสช.
นายวัชระ กล่าวด้วยว่า ทราบมาว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่กำลังจะแต่งตั้งนั้น บุคคลที่จะได้รับเลือกคือ สามีของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และยังมีคนของคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ คือ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทั้งๆ ที่ เป็นคนจัดตั้งมวลชนคนเสื้อแดง ให้พรรคเพื่อไทย และปรากฏหลักฐานว่าเคยจัดคนเสื้อแดง ร่วมชุมนุมที่เมืองทองธานี จนถึงราชมังคลากีฬาสถาน จำนวนหนึ่งพันคน ในขณะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ซึ่งตนจะทำหนังสือคัดค้าน พร้อมหลักฐานส่งถึง ครม.ทุกคนได้รับทราบถึงพฤติกรรมของ นายสุทธิพงษ์ และทบทวนการแต่งตั้งตำแหน่งนี้ใหม่ พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯสตง. ตรวจสอบการใช้งบประมาณรัฐ ในการขนคนเสื้อแดงไปชุมนุมใน ช่วงปี 2556 เหมือนกับที่ตรวจสอบการใช้งบของท้องถิ่น เรื่องการระดมคนมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีจำนำข้าวด้วย