“เรืองไกร” ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบรัฐชงร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ส่อมิชอบด้วยกฎหมาย หลังพบ ครม.เห็นชอบก่อนที่รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขจะมีผลบังคับใช้ จี้รีบเช็กก่อน สนช.พิจารณาวาระ 3 พฤหัสฯ นี้ แนะรัฐดึงกฎหมายกลับมาทำให้ถูกก่อนยื่นใหม่
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา เข้ายื่นคำร้องต่อนายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจการเสนอร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติของคณะรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 (ฉบับที่ 2) หรือไม่
โดยนายเรืองไกรกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าขณะที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยกร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติฯ โดยอาศัยฐานของรัฐธรรมนูญ 2557 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 2 มาตรา 39/1 วรรคห้า เป็นหลักในการเสนอกฎหมาย และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติวันที่ 15 มี.ค. รวมทั้งเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติในช่วงเย็นวันเดียวกัน เวลานั้นรัฐธรรมนูญ 2557 (ฉบับที่ 2) ยังไม่มีผลบังคับใช้ โดยรัฐธรรมนูญ 2557 (ฉบับที่ 2) มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 22 มี.ค.และมีบัญญัติให้มีผลใช้บังคับในวันถัดไปคือวันที่ 23 มี.ค. ดังนั้น การยกร่างกฎหมายดังกล่าวและคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนที่รัฐธรรมนูญจะมีผลใช้บังคับจึงเป็นกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ผู้ตรวจการดำเนินการเร่งตรวจสอบ เพราะขณะนี้กฎหมายดังกล่าว สนช.จะมีการพิจารณาในวาระ 3 ในวันที่ 7 เม.ย
“เรื่องนี้เป็นพระราชอำนาจ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีรู้เรื่องนี้ดี เคยพูดต่อหน้านายมีชัย ฤชุพันธุ์ เมื่อครั้งเป็นประธานวุฒิสภา กรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยทักษิณ เมื่อ พ.ย. 2550 ไว้ว่าดำเนินการไม่ได้อย่างไร อยากให้ย้อนกลับไปอ่านบันทึกการประชุมดู เรื่องนี้ผู้ตรวจฯ อาจต้องทำเร็วว่าทางแก้ไขจะทำอย่างไร เพราะ สนช.จะมีการพิจารณาวาระ 3 ในวันที่ 7 เม.ย. จะทำเหมือน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ สนช.คว่ำเสียแล้วนับหนึ่งใหม่ หรือถ้าโหวตในวาระ 3 นายกรัฐมนตรีต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูลภายใน 20 วันเป็นเรื่องมิบังควรหรือไม่ ผมเห็นว่าทางออกที่ดีกว่า รัฐบาลอาจจะดึงร่างกฎหมายดังกล่าวกลับมาดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนซึ่งก็อาจจะทำให้กระบวนการประชามติล่าช้าไปบ้าง” เรืองไกรกล่าว
