พรรคประชาธิปัตย์ แจงคณะกรรมาธิการรัฐสภายุโรป บอกเสียดายรัฐบาลเลือกตั้งละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่กลับเงียบ บ้านอภิสิทธิ์ยังถูกระเบิด แนะเปรียบเทียบบ้าง ระบุเวลานี้บ้านเมืองปลอดภัย ที่ผ่านมาพยายามหาทางออกแต่พรรคเพื่อไทยไม่ทำ มีส่วนร่วมทำให้เกิดการรัฐประหารขึ้น
วันนี้ (18 พ.ค.) นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) รัฐสภายุโรป ด้านความสัมพันธ์กับประเทศอาเซียน พร้อมด้วยนายมาร์ค ทาราเบลลา รองประธาน และนายเพียร์ อันโตนิโอ แปนซีรี คณะอนุกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน และคณะรวม 8 คน เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายเกียรติกล่าวว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้เล่าให้ฟังว่าในตอนนี้สถานการณ์ในประเทศไทยมีอะไรบ้างที่ทำได้ และทำไม่ได้ ในตอนนี้คณะรักษาความแห่งชาติ (คสช.) ห้ามเรื่องการประชุมพรรคการเมือง ซึ่งทางพรรคฯ ก็อยากจะเห็นกติกาตรงนี้มีความผ่อนคลายขึ้น เนื่องจากพรรคการเมืองก็ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนทุกวัน แต่ขยับตัวไม่ได้ก็เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ยังได้มีการแลกเปลี่ยนในเรื่องเนื้อหารัฐธรรมนูญ พูดคุยเรื่องสิทธิมนุษยชนว่าเป็นอย่างไร
“ทางพรรคฯ ได้กล่าวกับทาง กมธ.รัฐสภายุโรป ว่าเสียดายที่เรามีรัฐบาลเลือกตั้งที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ทางสหภาพยุโรปกลับไม่แสดงท่าทีเท่าที่ควร ตอนนี้ถ้าจะมาแสดงออกก็อยากให้ลองเทียบบรรยากาศของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้วมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในเวลานี้ก็ถือว่ามีความปลอดภัยสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับเวลานั้นที่ความปลอดภัยมีปัญหา แม้แต่บ้านของนายอภิสิทธิ์เองก็ถูกระเบิดในช่วงก่อนการรัฐประหาร เรื่องนี้ทำไมไม่มีการพูดกัน เราก็อยากเห็นเขามีความคงเส้นคงวาในการกำหนดท่าทีของสหภาพยุโรปด้วย ซึ่งทางเขาก็บอกว่าใช่ ก่อนหน้านี้เขาอาจจะไม่ได้แสดงท่าทีมาก แต่สหประชาชาติก็ได้มีท่าทีออกมาแล้วในเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย” นายเกียรติกล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังได้กล่าวว่า ก่อนการรัฐประหารนั้นนายอภิสิทธิ์ก็ได้พูดและเสนอทางออกอย่างเต็มที่ โดยมีข้อเสนอให้รัฐบาลในขณะนั้นยอมถอยเพื่อหาทางออกตามรัฐธรรมนูญในขณะนั้น แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลอยู่ไม่ทำตามนั้นก็นำมาสู่จุดนี้ ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาพรรคฯ นั้นคัดค้านเรื่องการมีรัฐประหารซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็มีส่วนร่วมทำให้เกิดการรัฐประหารขึ้น