วานนี้ (18 พ.ค.) นายอิสรา สุนทรวัฒน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณี นายเวอร์เนอร์ แลงเกน สมาชิกสภายุโรป ประธานกลุ่มความสัมพันธ์กับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน และคณะอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนของสภายุโรป (อียู) พร้อมทูตอียูประจำประเทศไทย ได้นำสมาชิกสภาอียูพร้อมคณะ เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ได้คุยถึงสถานการณ์ของไทย โดยนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า การเมืองไทยมั่นคงในระดับหนึ่ง และคงเป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้ คือจะมีการเลือกตั้งในปี 60 แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำประชามติร่างรธน. ซึ่งน่าจะเปิดเวที หรือช่องทางในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนได้มากกว่าที่เป็นอยู่ และเข้าใจในจุดยืนของสภาสหภาพยุโรปต่อรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่การยุติบทบาททุกด้านไม่ใช่ทางแก้ อย่างน้อยควรให้มีการดำเนินการในกรณีเอฟทีเอ ระหว่างไทยกับอียู ที่ต้องชะงักไป ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย
ส่วนข้อกังวลของตัวแทนอียู ในเรื่องการเลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ขออย่ามองแค่มุมเดียว คือ ต้องเลือกตั้ง แต่หากเลือกตั้งมีรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งแล้ว ปัญหาเดิมวกกลับมาอีก พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่เห็นด้วย เพราะส่วนหนึ่งปัญหามาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ใช้อำนาจ จึงขอให้ดูบริบทของสังคมไทยด้วย อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือ หากร่างรธน.นี้ ไม่ผ่านประชามติแล้ว ยังไม่ทราบว่า รัฐบาลจะใช้รธน.ฉบับใด หรือร่างใหม่ คือไม่รู้อะไรเลย
ส่วนประเด็นที่ตัวแทนส.ส.อียู ถามว่า พรรคประชาธืปัตย์ สามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่นั้น ในฐานะนักการเมือง นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับใคร แต่พรรคประชาธิปัตย์ ขอเรื่องเดียวคือ หากพรรคเพื่อไทยก้าวข้ามผลประโยชน์ของตระกลูชินวัตรได้ รวมถึงการนิรโทษกรรมช่วยพวกพ้อง ไม่ว่าจะเอาใครมาเป็นหัวหน้าพรรค การทำงานทางการเมือง จะราบรื่นขึ้น ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ เคยได้ผ่านกฎหมายหลายฉบับร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย แต่ฉบับที่ไม่ผ่านคือ กฎหมายนิรโทษกรรม
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี คณะกรรมาธิการรัฐสภายุโรป และอนุกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เป็นไร ก็เขาอยากมาพบก็ให้พบ จะให้ทำอย่างไร ก็ว่าไปในทางการเมือง
"คุณยิ่งลักษณ์ ก็ต้องรู้ว่าในภาพรวมของประเทศเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของท่านที่จะต้องตอบให้กับทางสภาอียู ที่ผ่านมาเราก็ทำทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นก็เกิดจากความขัดแย้ง ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ก็คงไม่เกิดขึ้นแบบนี้หรอก คงไม่มีปัญหาอะไร ก็ว่ากันไป และก็จะพบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะด้วย ก็ให้เขาตอบกันไป ก็ดีแล้ว แต่เขาไม่ได้มาพบกับคสช. ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของทางการเมือง" พล.อ.ประวิตรกล่าว แล้ว่าไม่ห่วงว่าจะมีการบิดเบือนข้อมูล เพราะความจริงเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายก็เห็นอยู่ แต่ถ้าเขาต้องการถามรัฐบาล หรือ คสช. ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีข้อมูลพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว
ส่วนข้อกังวลของตัวแทนอียู ในเรื่องการเลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ขออย่ามองแค่มุมเดียว คือ ต้องเลือกตั้ง แต่หากเลือกตั้งมีรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งแล้ว ปัญหาเดิมวกกลับมาอีก พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่เห็นด้วย เพราะส่วนหนึ่งปัญหามาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ใช้อำนาจ จึงขอให้ดูบริบทของสังคมไทยด้วย อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือ หากร่างรธน.นี้ ไม่ผ่านประชามติแล้ว ยังไม่ทราบว่า รัฐบาลจะใช้รธน.ฉบับใด หรือร่างใหม่ คือไม่รู้อะไรเลย
ส่วนประเด็นที่ตัวแทนส.ส.อียู ถามว่า พรรคประชาธืปัตย์ สามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่นั้น ในฐานะนักการเมือง นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับใคร แต่พรรคประชาธิปัตย์ ขอเรื่องเดียวคือ หากพรรคเพื่อไทยก้าวข้ามผลประโยชน์ของตระกลูชินวัตรได้ รวมถึงการนิรโทษกรรมช่วยพวกพ้อง ไม่ว่าจะเอาใครมาเป็นหัวหน้าพรรค การทำงานทางการเมือง จะราบรื่นขึ้น ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ เคยได้ผ่านกฎหมายหลายฉบับร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย แต่ฉบับที่ไม่ผ่านคือ กฎหมายนิรโทษกรรม
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี คณะกรรมาธิการรัฐสภายุโรป และอนุกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เป็นไร ก็เขาอยากมาพบก็ให้พบ จะให้ทำอย่างไร ก็ว่าไปในทางการเมือง
"คุณยิ่งลักษณ์ ก็ต้องรู้ว่าในภาพรวมของประเทศเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของท่านที่จะต้องตอบให้กับทางสภาอียู ที่ผ่านมาเราก็ทำทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นก็เกิดจากความขัดแย้ง ถ้าไม่มีความขัดแย้ง ก็คงไม่เกิดขึ้นแบบนี้หรอก คงไม่มีปัญหาอะไร ก็ว่ากันไป และก็จะพบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะด้วย ก็ให้เขาตอบกันไป ก็ดีแล้ว แต่เขาไม่ได้มาพบกับคสช. ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของทางการเมือง" พล.อ.ประวิตรกล่าว แล้ว่าไม่ห่วงว่าจะมีการบิดเบือนข้อมูล เพราะความจริงเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายก็เห็นอยู่ แต่ถ้าเขาต้องการถามรัฐบาล หรือ คสช. ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีข้อมูลพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว
