วานนี้ (17พ.ค.) คณะผู้แทนรัฐสภายุโรป นำโดย นายเวอร์เนอร์ แลงเก้น ประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภายุโรปด้านความสัมพันธ์กับประเทศอาเซียน พร้อมด้วย นายมาร์ค ทาราเบลล่า รองประธาน และ นายเพียร์ อันโตนิโอ แปนซีรี คณะอนุกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน และคณะรวม 8 คน ได้เข้าพบ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ
จากนั้น เวลา 15.00 น. ทางคณะได้เดินทางไปพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในไทย โดยทางคณะได้สอบถามว่าเหตุใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงไม่ได้เดินทางไปพูดคุยตามคำเชิญก่อนหน้านี้ เรื่องการไล่ล่านักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไร และการแสดงความคิดเห็นของนักศึกษา ต่อร่างรัฐธรรมนูญ ถือว่ากระทำผิดกฎหมายอย่างไร โดยทั้งหมดขอให้ส่งเป็นเอกสารประกอบการชี้แจงด้วย ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะรวบรวมข่าวสารในช่วงที่ออกมาส่งไปให้ทางคณะกรรมาธิการด้วย
ขณะที่ในวันนี้ ( 18 พ.ค.) ทางคณะจะเดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ที่พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มเอ็นจีโอ ในประเทศไทย จากนั้น นายเวอร์เนอร์ จะแถลงข่าวการเดินทางมาประเทศไทยในครั้งนี้ด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ ศาลทหารกรุงเทพ ตุลาการทหาร ได้นัด นางรินดา ปฤชาบุตร หรือ หลิน อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา116 ทำให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และ มาตรา 348 ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ มาฟังคำสั่งศาล ที่ทางศาลทหารได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลอาญา ให้พิจารณาขอบเขตอำนาจศาลในคดีดังกล่าว ว่าขึ้นอยู่กับศาลใด และทางศาลทหารก็ได้สั่งจำหน่ายคดีนี้แล้ว เพราะศาลอาญาได้พิจารณาว่า คดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจของศาลอาญา ศาลทหารจึงได้นัด มาฟังคำสั่งศาลทหารว่า ให้จำหน่ายคดีออกไป
ด้านน.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นดุลพินิจของทางศาลทหาร ที่เห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทธรรมดาด้วยการโฆษณา ไม่ได้เกี่ยวกับคดีความมั่นคง น่าที่จะส่งไปศาลพลเรือน ทางศาลทมหาร จึงได้ยื่นเรื่องดังกล่าวไปให้ศาลอาญาพิจารณา กระทั่งศาลอาญามีดุลพินิจดังกล่าว ซึ่งต่อไปศาลทหารมีคำสั่งจำหน่ายคดีแล้ว ก็จะส่งสำนวนไปที่พนักงานสอบสวน หลังจากนั้นทำสำนวนใหม่เสร็จ ก็ส่งต่อไปยังอัยการพลเรือน เพื่อดำเนินคดีการไปตามขบวนการยุติธรรมปกติต่อไป
จากนั้น เวลา 15.00 น. ทางคณะได้เดินทางไปพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในไทย โดยทางคณะได้สอบถามว่าเหตุใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงไม่ได้เดินทางไปพูดคุยตามคำเชิญก่อนหน้านี้ เรื่องการไล่ล่านักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไร และการแสดงความคิดเห็นของนักศึกษา ต่อร่างรัฐธรรมนูญ ถือว่ากระทำผิดกฎหมายอย่างไร โดยทั้งหมดขอให้ส่งเป็นเอกสารประกอบการชี้แจงด้วย ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะรวบรวมข่าวสารในช่วงที่ออกมาส่งไปให้ทางคณะกรรมาธิการด้วย
ขณะที่ในวันนี้ ( 18 พ.ค.) ทางคณะจะเดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ที่พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มเอ็นจีโอ ในประเทศไทย จากนั้น นายเวอร์เนอร์ จะแถลงข่าวการเดินทางมาประเทศไทยในครั้งนี้ด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ ศาลทหารกรุงเทพ ตุลาการทหาร ได้นัด นางรินดา ปฤชาบุตร หรือ หลิน อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา116 ทำให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และ มาตรา 348 ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ มาฟังคำสั่งศาล ที่ทางศาลทหารได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลอาญา ให้พิจารณาขอบเขตอำนาจศาลในคดีดังกล่าว ว่าขึ้นอยู่กับศาลใด และทางศาลทหารก็ได้สั่งจำหน่ายคดีนี้แล้ว เพราะศาลอาญาได้พิจารณาว่า คดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจของศาลอาญา ศาลทหารจึงได้นัด มาฟังคำสั่งศาลทหารว่า ให้จำหน่ายคดีออกไป
ด้านน.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นดุลพินิจของทางศาลทหาร ที่เห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทธรรมดาด้วยการโฆษณา ไม่ได้เกี่ยวกับคดีความมั่นคง น่าที่จะส่งไปศาลพลเรือน ทางศาลทมหาร จึงได้ยื่นเรื่องดังกล่าวไปให้ศาลอาญาพิจารณา กระทั่งศาลอาญามีดุลพินิจดังกล่าว ซึ่งต่อไปศาลทหารมีคำสั่งจำหน่ายคดีแล้ว ก็จะส่งสำนวนไปที่พนักงานสอบสวน หลังจากนั้นทำสำนวนใหม่เสร็จ ก็ส่งต่อไปยังอัยการพลเรือน เพื่อดำเนินคดีการไปตามขบวนการยุติธรรมปกติต่อไป