“บัวแก้ว” ย้ำขอตรวจข้อมูลหนังสือรัฐสภายุโรปเชิญ “ยิ่งลักษณ์” บินแสดงความเห็นการเมืองก่อน ปูดอียูเตือนล็อบบี้ถี่ รับ “คุณ” (Khun) ในหนังสือเชิญไม่ผิด แสดงถึงความคุ้นเคย รองโฆษกรัฐฯ เชื่อเป็นเรื่องส่วนตัว แต่รัฐบาลยังไม่ได้ตรวจสอบหนังสือจริงหรือปลอม หากอดีตนายกฯ ขออนุญาต คสช.ไปคงค้องตรวจสอบพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของเอกสาร “ปึ้ง”การันตี “ปู” ไปประเทศได้ประโยชน์ สังคมออนไลน์-อดีตนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามอดีตนายกฯ โพสต์-แชร์กระหึ่ม อ้างคนเชิญประวัติมีกลิ่น!
วันนี้ (24 พ.ย.) มีรายงานว่า ภายหลังสังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตการใช้คำว่า “คุณ” ในหนังสือเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองของรัฐสภาสหภาพยุโรป วานนี้ (23 พ.ย.) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เข้าใจว่าทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คงมีความคิดเห็นในเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยังไม่เห็นหนังสือ ทราบเพียงแต่ข่าวจากสื่อมวลชน ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเรื่องดังกล่าวมาจากฝ่ายใด ใครเป็นคนเชิญ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนทราบผ่านสื่อว่ามีการล็อบบี้รัฐสภายุโรปหลายเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การล็อบบี้หลายเรื่อง รวมถึงเรื่องหนังสือเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า มีอยู่หลายเรื่อง คงจะไม่พลาดที่จะรวมเรื่องนี้ ซึ่งทางรัฐสภาอียูเขาบอกตนมา ต่อข้อถามว่าจะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ว่าหนังสือดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ต้องดูก่อน ตอนนี้ตนได้ยินแต่ข่าว แต่ข่าวที่ได้ยินและทราบมาก่อนหน้านี้คือมีการล็อบบี้ทางรัฐสภาอียู จึงขอโอกาสไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน เพราะขณะนี้ทราบแต่สื่อทั่วไป แต่ขณะเดียวกัน เราก็มีข้อมูลว่ามีการล็อบบี้เท่านั้นเอง
เมื่อถามถึงข้อสังเกตจากบางฝ่ายถึงคำนำหน้าชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในหนังสือที่ใช้คำว่า “คุณ” (Khun) แทนที่จะใช้คำว่า Miss นายดอนกล่าวว่า ถ้าใช้คำว่า “Khun” แสดงว่าคุ้นเคยกัน รู้ถึงวัฒนธรรมไทยซึ่งไม่ได้ผิดอะไรเพราะเป็นคำสุภาพ เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่าคนเขียนรับรู้ว่าเป็นคำที่ใช้ในบ้านเมืองของเรา
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบาลยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นหนังสือจริงหรือปลอม และยังไม่ดำเนินการใดๆ แต่ถ้าหากขออนุญาตไปเข้าร่วมก็ต้องตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของเอกสาร อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นหนังสือเชิญเป็นการส่วนตัวแต่หากเรื่องที่พูดเกี่ยวข้องกับประเทศชาติคงต้องพิจารณา อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องการล็อบบี้ รับทราบผ่านสื่อเท่านั้น
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่รัฐสภายุโรปได้ส่งหนังสือเชิญอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ไปร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นประโยชน์และเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศไทย เพราะจะเป็นการช่วยยืนยันให้ประชาคมยุโรปได้เห็นว่าประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง กำลังอยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญที่สุดรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนขั้นพื้นฐาน กล่าวคือไม่ได้ห้ามการเดินทางออกนอกประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังถือได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เพราะคดีความยังไม่ถึงที่สุด แสดงว่าประเทศไทยขณะนี้ยังพอจะมีหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมเหลืออยู่บ้าง ถ้าหัวหน้า คสช.จะรีบฉวยโอกาสนี้ประกาศให้ประชาคมยุโรปได้ทราบว่าไทยเราจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงจะอนุญาตให้นักศึกษาและประชาชนทำกิจกรรมด้านประชาธิปไตยได้ตามปกติ และจะไม่มีการควบคุมตัวผู้เห็นต่างทางการเมืองอีกต่อไป เชื่อได้ว่าภาพลักษณ์ของไทยจะดีขึ้นในสายตาของโลกประชาธิปไตยอย่างแน่นอน
“อยากจะฝากถึงหัวหน้า คสช.ด้วยว่า พวกที่ออกมาพยายามกล่าวหาว่าอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะฉกฉวยโอกาสหนีคดีนั้น ผมอยากเรียนท่านหัวหน้า คสช.ครับว่า ท่านยิ่งลักษณ์ท่านยืนหยัดต่อสู้คดีมาโดยตลอด ไปศาลทุกครั้ง มีความกล้าหาญยิ่งกว่าผู้ชายอกสามศอกหลายๆ คน และท่านยิ่งลักษณ์ดีกว่าคนบางคนบางจำพวกที่ชอบพูดจาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ชอบพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น และคิดว่าคนอื่นจะมีกมลสันดานเหมือนตัวเอง และที่สำคัญที่สุดท่านอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็คงจะไม่ไปพูดให้ร้ายต่อประเทศชาติตนเองให้คนอื่นเขาฟังอย่างแน่นอน เพราะการที่เคยเป็นผู้นำประเทศนั้นด้วยวุฒิภาวะ และประสบการณ์ที่ผ่านๆ มา ท่านยิ่งลักษณ์เป็นสุภาพสตรีที่มีหัวจิตหัวใจดีงามกว่าผู้ชายหลายๆ คนครับ จึงหวังว่าหัวหน้า คสช.จะได้พิจารณาและหนังสือเชิญที่เขาไม่ได้กำหนดหรือเจาะจงวันเชิญ เพราะเขารู้และเข้าใจครับว่าท่านยิ่งลักษณ์จะต้องขออนุญาตการเดินทางจากศาลและต้องมีนัดที่จะต้องไปศาลและต้องขออนุญาตการเดินทางจาก คสช.อีกด้วย ทำให้เขาต้องทำหนังสือเชิญแบบเปิดเอาไว้”
“หนังสือเชิญก็ลงนามโดยประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และประธานคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐสภายุโรป ไม่ใช่เป็นหนังสือเชิญจากใครก็ไม่รู้ที่มีพวกจิตใจต่ำพยายามจะอวดรู้และกล่าวหาเขา ขอให้หัวหน้า คสช. สบายใจได้ว่าถ้าเขาได้ฟังเรื่องราวต่างๆ จากท่านยิ่งลักษณ์ รัฐสภายุโรปเขาก็จะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ในประเทศไทยเราได้ดีขึ้นและ คสช.ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรในเมื่อท่านประยุทธ์ ก็ไปพูดในเวทีโลกอยู่ตลอดเวลาว่าจะเดินตาม roadmap จะมีรัฐธรรมนูญที่เป็นที่ยอมรับของสากลและจะมีการเลือกตั้งกลางปี 60 ก็ควรอนุญาตให้ท่านยิ่งลักษณ์เดินทางได้”
มีรายงานว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาในสังคมออนไลน์ได้มีการตั้งข้อสังเกตถึงจดหมายดังกล่าวว่า มีการเลือกใช้คำที่ค่อนข้างแปลก โดยส่วนใหญ่ตั้งประเด็นว่าจดหมายดังกล่าวนั้นเป็นฉบับจริงและออกมาอย่างเป็นทางการหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การปลอมขึ้นมาเพื่อสร้างกระแสทางการเมือง อาทิ จดหมายจั่วหัววันที่ 7 ตุลาคม 2015 แต่ทำไมถึงเพิ่งเป็นข่าวช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังมีใช้คำทับศัพท์ว่า “คุณ” (Khun) ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่ควรใช้ในหนังสือทางการ และยังไม่ระบุว่าวันนัดหมายที่แน่ชัด พบกับใครก็ยังไม่ทราบ ทั้งยังมีการลงนามกำกับท้ายจดหมายถึง 2 ชื่อ “แต่กลับไม่ระบุตำแหน่ง” มาด้วยว่าเป็นใคร แต่ที่ทราบแน่ชัดประการแรก คือ ทั้งสองชื่อไม่ใช่ประธานรัฐสภายุโรป (Mr. Martin Schulz) หรือเลขาธิการรัฐสภายุโรปแน่ (Mr.Klaus Welle) ดังนั้นจึงสรุปไม่ได้ว่าใครเชิญ
ขณะที่สังคมออนไลน์อย่างแฟนเพจ “ล้านชื่อต้านล้างผิด” และเฟซบุ๊กของนายสมชาย แสวงการ รวมถึง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์และแชร์ข้อความเดียวกันว่า บุคคลที่เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ “Elmar Brok” ซึ่งเป็น ส.ส.ยุโรปธรรมดา มีตำแหน่งแค่ประธานกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ และที่สำคัญคือ จดหมายดังกล่าวยัง “ทำในนามส่วนตัว” มิใช่ในนามรัฐสภายุโรป หรือในนามกรรมาธิการฯ เพราะใช้หัวจดหมายของ ส.ส.ทั่วไป ซ้ำยังตั้งใจไม่ลงตำแหน่งตัวเองเพื่อให้ไม่เป็นทางการ แต่ฝ่ายเพื่อไทยเอามาหลอกประชาชนว่าเป็นหนังสือเชิญของรัฐสภายุโรป
ทั้งนี้ Elmar Brok ยังมีประวัติฉาวโฉ่มากจนเป็นที่กล่าวขานในสภายุโรป โดยเฉพาะเป็นนักล็อบบี้ตัวยงให้กับ Bertelsmann สื่อยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี และเคยถูกกรรมาธิการของรัฐสภายุโรปตรวจสอบเนื่องจากใช้เส้นสายในการปิดกั้นไม่ให้นักข่าว Lutz Mukke ขุดคุ้ยและตีพิมพ์พฤติกรรมอันเสื่อมเสียของตัวเอง แต่ที่ฉาวโฉ่และดังไปทั่วโลก คือ เมื่อกลุ่มสิทธิสตรี (FEMEN) ซึ่งเคลื่อนไหวในการรณรงค์ต่อต้านการขายบริการของโสเภณีในประเทศยูเครน ออกมาเปิดโปงว่า Elmar Brok ใช้บริการโสเภณีที่ประเทศยูเครนบ่อยครั้ง แถมยังพูดให้ผู้หญิงยูเครนเสียหาย โดยคราวนี้กลุ่มสตรี FEMEN เปลือยหน้าอกประท้วงและมีการปะทะกับ Elamar Brok และตะโกนเรียกร้อง “ยูเครนไม่ใช่สถานบริการทางเพศ”