สมาพันธ์พนักงานไทยพีบีเอส ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมการนโยบาย ให้ตอบคำถามเรื่องซื้อหุ้นกู้เอกชนที่ สตง. ชี้ว่าไม่มีอำนาจ และตอบคำถามเรื่องกระบวนการเลือก ผอ. ที่ถูกมองว่าไม่ถูกต้อง และล็อคตัวผู้ได้รับเลือกไว้แล้ว
วันนี้ (11 ก.ค.) นายรวิษุ คำเสนาะ ประธานสมาพันธ์พนักงาน องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส ได้ยื่นเอกสารเปิดผนึกถึง นายจุมพล รอดคำดี ประธานกรรมการนโยบาย ไทยพีบีเอส เพื่อขอให้ชี้แจงตอบข้อสงสัยและแสดงความรับผิดชอบตามหลักธรรมาภิบาล ระบุว่า สืบเนื่องจากการรับสมัครบุคคลเพื่อรับการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. มาจนถึงคำแถลงชี้แจงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อตราสารหนี้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือหุ้นกู้ซีพีเอฟ และในที่สุดก็มาถึงวาระที่ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อ ส.ส.ท. ผลกระทบที่เป็นภาพทางลบต่อองค์กรของผู้เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน บุคคลภายนอก ไปจนถึงพนักงานผู้ปฏิบัติงานภายใน ส.ส.ท. วาระเหล่านั้นก็คือ
1. เอกสารแจ้งผลการตรวจสอบเบื้องต้นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในเรื่องการซื้อหุ้นกู้ซีพีเอฟ ของ ส.ส.ท. ซึ่งได้ระบุว่า การแสวงหากำไรโดยนำเงินไปลงทุนในหุ้นกู้ เป็นภารกิจนอกเหนือภารกิจหลักและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์การจัดตั้งองค์การฯ
- ในกระบวนการอนุมัติซื้อและสั่งจ่ายเงินฝากจำนวน 193,615,553.80 บาท เพื่อซื้อหุ้นกู้ซีพีเอฟ มีการปฏิบัติไม่เป็นตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงปรากฏว่า คณะกรรมการนโยบายมิได้กำหนดให้ผู้อำนวยการหรือกรรมการบริหาร มีอำนาจสั่งจ่ายเงินสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ที่บริษัทเอกชนเป็นผู้ออก ผู้อำนวยการและกรรมการบริหารจึงไม่มีอำนาจสั่งจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว
- ให้ ส.ส.ท. พิจารณาดำเนินการกรณีการซื้อหุ้นกู้ซีพีเอฟให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติฯ พ.ศ. 2551 โดยเคร่งครัด
2. ประกาศผลการคัดเลือกผู้อำนวยการ ส.ส.ท. โดยคณะกรรมการนโยบายเมื่อวันที่ 6 ก.ค. นั้น ได้ปรากฏว่า มีข้อวิพากษ์วิจารณ์และท้วงติงจากสื่อมวลชนและบุคคลภายนอกถึงกระบวนการและวิธีการสรรหา ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยที่ยังไม่ได้รับการชี้แจงจากกรรมการนโยบายอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งในอันที่จะลบข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ เหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
- กระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ที่คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกรอบที่ 1 ไว้เพียง 2 คน เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการรับสมัคร ส.ส.ท. พ.ศ. 2560 หรือไม่
- การลงมติคัดเลือกผู้ที่ผ่านการคัดสรรในรอบที่ 1 ของคณะกรรมการนโยบายที่มีเหลืออยู่ในที่ประชุมขณะนั้น ดำเนินการอย่างถูกต้องและชอบธรรมหรือไม่
- มีการวิพากษ์วิจารณ์แต่แรกแล้ว และคาดไว้ว่า ได้มีการกำหนดตัวผู้ที่จะมาเป็น ผอ. ส.ส.ท. ไว้แล้วล่วงหน้า และผลการคัดเลือกก็เป็นไปตามที่มีการคาดการณ์กันไว้และนำมาซึ่งข้อสงสัยในความโปร่งใสของ กนย.
ทั้ง 2 หัวข้อที่กล่าวมาข้างต้น เป็นปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเกี่ยวพันกัน ข้อปัญหาที่เป็นประเด็นเป็นผลมาจากการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายโดยตรง ที่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานภาพของ ส.ส.ท. ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สมาพันธ์พนักงาน ส.ส.ท. ในนามของตัวแทนพนักงานทั้งหมด มีความรู้สึกวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายชุดปัจจุบันที่ยังไม่ปรากฎอย่างชัดแจ้งถึงการมีหลักธรรมาภิบาล ปัญหาที่เกิดขึ้นและนำมาซึ่งภาพลบต่อ ส.ส.ท. เวลานี้ คือ คณะกรรมการนโยบายที่ขาดเอกภาพ มีการดำเนินงานที่ขาดประสิทธิภาพจนทำให้เกิดปัญหา เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบต่อองค์การตามมาอย่างต่อเนื่อง
สมาพันธ์พนักงาน ส.ส.ท. จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการนโยบายแสดงออกถึงหลักความโปร่งใสและตรวจสอบได้ต่อกรณีที่เกิดขึ้นคือ การสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. และกรณีการซื้อหุ้นกู้ซีพีเอฟ โดยจัดให้มีการชี้แจงและตอบข้อสงสัยที่ปรากฎอยู่ทั้งในสื่อสังคมออนไลน์ และตอบข้อสงสัยของพนักงานซึ่งควรจะต้องได้รับความกระจ่างเพราะจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งนี้ขอให้ กนย. แสดงวิธีการดำเนินงานที่ทำให้เชื่อถือได้ว่าเป็นการดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ถูกต้องตามระเบียบฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อพนักงานทุกระดับว่า กนย. ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องชอบธรรมและสามารถตอบข้อศักถามต่างๆ ได้อย่างที่ไม่มีข้อสงสัยอีก