MGR Online - กฟภ. ประกาศดันบริษัทลูกลุยธุรกิจ ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาโซลาร์รูฟท็อป เริ่มรุกติดตั้งในกลุ่มหน่วยงานราชการและสถาบันศึกษาก่อนเข้าสู่กลุ่มลูกค้าครัวเรือน ชูจุดเด่นมาตรฐานสากล “ธีระชัย” ท้วงรัฐทำธุรกิจแข่งเอกชนได้ไง ชี้อาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 75
วานนี้ (30 มิ.ย.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala ให้ความเห็นถึงกรณีข่าวที่ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ออกมาระบุว่า ทาง กฟน. เตรียมผลักดันให้บริษัทลูกเริ่มดำเนินธุรกิจรับออกแบบติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป โดยจะเริ่มจากกลุ่มราชการและสถาบันการศึกษา และจะขยายสู่กลุ่มครัวเรือน
“นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เปิดเผยว่า PEA ได้เริ่มปรับตัวเข้าสู่ยุคพลังงาน 4.0 โดยขณะนี้ทางบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PEA ได้เริ่มดำเนินธุรกิจรับออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาโซลาร์รูฟท็อปแล้ว เบื้องต้นดำเนินการในกลุ่มหน่วยงานราชการและสถาบันศึกษาก่อน แต่คาดว่าภายในปี 2560 นี้ จะเริ่มนำธุรกิจดังกล่าวเข้าสู่กลุ่มลูกค้าครัวเรือน โดยคาดว่าจะรับติดตั้งระดับ 5 - 10 กิโลวัตต์ มีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 3 - 4 แสนบาท และมีระยะเวลาคืนทุนภายใน 5 ปี
“ทั้งนี้ นายเสริมสกุล กล่าวว่า PEA หันมาสู่ธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเนื่องจากมีศักยภาพที่ทำได้ อีกทั้งทั่วโลกกำลังหันมาสู่ทิศทางพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น โดยธุรกิจที่ พีอีเอ เอ็นคอมฯ ดำเนินการนี้ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการที่มีมาตรฐานความปลอดภัยตามหลักสากล” ข้อมูลจากเว็บไซต์ศูนย์ข่าวพลังงานระบุ (อ่านเพิ่มเติม : PEA ลุยเอง ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป)
นายธีระชัย ให้ความเห็นต่อการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ว่า “ผมยังไม่สามารถตรวจสอบว่าข้อมูลนี้ว่าถูกต้องหรือไม่ แต่ถ้าถูกต้อง ผมเห็นว่าฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามรัฐทำธุรกิจแข่งขันกับประชาชน”
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในมาตรา 75 วรรคสองระบุว่า “รัฐต้องไม่ประกอบกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับเอกชน เว้นแต่กรณีที่มีความจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ การรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม การจัดให้มีสาธารณูปโภคหรือการจัดทําบริการสาธารณะ”
ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เคยออกมาให้ข้อมูลว่า ทาง กกพ. กำลังพิจารณาคิดอัตราเรียกเก็บเงินจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาจากผู้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป โดยจะเริ่มในกลุ่มโซลาร์รูฟท็อปขนาดใหญ่ก่อน โดยอ้างว่าผู้ผลิตไฟฟ้าเหล่านี้ใช้โซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ในช่วงกลางวัน ส่วนช่วงกลางคืนที่ผลิตไฟฟ้าไม่ได้ก็จะหันกลับมาใช้ไฟฟ้าจากสายส่งภาครัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้ารวมและต้นทุนค่าไฟฟ้าของประเทศ
ขณะที่ ในส่วนของกลุ่มผู้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเสรีในระดับครัวเรือน - รายย่อย นั้น กกพ. ยังไม่มีการพิจารณาเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด แต่หากในอนาคตเกิดการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเสรีจำนวนมาก จนมีผลกระทบต่อการต้องสำรองไฟฟ้าให้กับกลุ่มดังกล่าว ทาง กกพ. อาจต้องกลับมาพิจารณาเรียกเก็บเงินในกลุ่มนี้ก็เป็นได้
สำหรับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นั้น เป็นบริษัทในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2555 เพื่อสนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนให้เป็นแหล่งพลังงานหลักของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานชีวภาพและชีวมวล และเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนระดับแถวหน้าของเอเชีย เบื้องต้น บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ซึ่ง กฟภ. เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด