MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอต ที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง www.manager.co.th และเฟซบุ๊ก MGROnline Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7 หรือ http://bit.ly/mgrtop7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 27 พ.ค. - 2 มิ.ย. 2560)
อันดับ 1 : "เปรี้ยว" ฆ่าหั่นศพ "น้องแอ๋ม" หนีซุกพม่า สุดท้ายไปไม่รอด
คดีสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพคนถูกยัดถังน้ำพลาสติกสีดำ นำมาฝังดินบริเวณป่าในหมู่บ้านโนนสง่า หมู่ 9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พบศพหญิงสาวลำตัวถูกหั่นแยกเป็น 2 ส่วน ใส่ไว้ในถัง 2 ใบ เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากรอยสักพบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม อายุ 22 ปี พนักงานสถานบันเทิงคลีโอพัตรา ในตัวเมืองขอนแก่น หายตัวไป จากการแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นผู้ตายขึ้นรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี บริเวณถนนหน้าเมือง ตัดกับถนนเหล่านาดี ห่างจากหอพักผู้ตาย 100 เมตร ก่อนออกไปยังถนนมิตรภาพ เมื่อตรวจสอบทะเบียนพบว่าเป็นรถเช่า นำไปสู่การออกหมายจับ นายวศิน นามพรม อายุ 22 ปี, น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ อายุ 21 ปี, น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว อายุ 24 ปี และ น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น อายุ 25 ปี ในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ
ต่อมาวันที่ 30 พ.ค. ตำรวจจับกุมนายวศินได้ที่ลาวัล เกสต์เฮาส์ ใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ในนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ระบุว่า น.ส.ปรียานุช เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกาย น.ส.วริสรา จนเสียชีวิตในรถยนต์ ก่อนซื้ออุปกรณ์ที่ร้านวัสดุก่อสร้าง และลงมือหั่นศพในที่ดินของตนเองที่ อ.เขาสวนกวาง ร่วมกับ น.ส.กวิตา สาเหตุเกิดจากความแค้นส่วนตัว ต่อมาตำรวจจับกุม น.ส.จิดารัตน์ ได้ที่ จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ยังออกหมายจับ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ง อายุ 27 ปี จากการสืบสวนพบว่าเมื่อวันที่ 25 พ.ค. น.ส.ปรียานุช, น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันทน์ ได้ทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (บอร์ดดิ้งพาส) ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย แล้วข้ามไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. โดยพบว่ามาสมัครงานที่ร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ และได้พาไปพักข้างร้าน ก่อนที่ในวันต่อมา นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือเก้า อายุ 29 ปี ซึ่งหลบหนีคดียาเสพติด รับตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ออกจากที่พักข้างร้านโอโซน ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา
กระทั่งเมื่อค่ำวันที่ 3 มิ.ย. ทางการพม่าสามารถจับกุม น.ส.ปรียานุช, น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันทน์ ได้แล้ว และประสานทางการไทยเมื่อเวลา 21.00 น. ก่อนควบคุมตัวข้ามฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้วควบคุมตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงรายทันที ปิดฉากการรอคอยผู้ต้องหาหนีอาญาแผ่นดินอันโหดเหี้ยมอำมหิต ที่ถูกจับตามองจากคนไทยทั้งประเทศ
อันดับ 2 : ฆ่าฝังดิน "สามเณรปลื้ม" วัดดังเมืองคอน ตำรวจล้างบางมาเฟีย "ไวยาวัจกร"
คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญส่งท้ายสัปดาห์ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำตัวนายเด่นชัย ภูมินิยม อายุ 36 ปี อดีตพระวัดวังตะวันตก และนายสุริยา กุศลสุข อายุ 18 ปี อดีตสามเณร ไปชี้จุดฝังศพนายศุภโชค เอกเกียรติกุล หรือปลื้ม อายุ 17 ปี อดีตสามเณร ที่หายตัวไปมานานร่วม 5 เดือน พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณลานสวนหย่อม (ลานตะเคียน) กลางวัดวังตะวันตก ถนนราชดำเนิน ต.คลัง อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช พบเป็นลานปูนซีเมนต์ มีการนำพระพุทธชินราชมาประดิษฐานข้างบน เมื่อนำรถแบ็กโฮมาขุด พบศพสามเณรศุภโชคในสภาพเน่าเปื่อยคาจีวร โดยมีเสื่อห่อศพอย่างดี มีบาดแผลแตกหลายแห่ง ก่อนหน้านี้ตำรวจได้รับแจ้งจากทางญาติว่า สามเณรศุภโชคหายตัวไปหลายเดือน น่าจะมีอันตราย จากการสืบสวนได้ข้อมูลว่า พระเด่นชัยและสามเณรสุริยา รวมทั้ง น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือบิว อายุ 40 ปี ภรรยาพระเด่นชัยน่าจะมีส่วนรู้เห็น เมื่อสอบเค้นอย่างหนักพบว่า พระเด่นชัยและสามเณรสุริยายอมรับว่าร่วมกันฆ่าสามเณรศุภโชค แล้วนำศพฝังไว้ร่วม 5 เดือน จึงทำการสึกก่อนสอบสวนเพิ่มเติม
นายเด่นชัยสารภาพว่า ตนเป็นไวยาวัจกรวัดวังตะวันตก เก็บผลประโยชน์จากการเช่าที่และอื่นๆ ภายในวัด โดยมี น.ส.ปิยฉัตรเป็นผู้ช่วยเหลือ ต่อมาเงินสด 50,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ของ น.ส.ปิยฉัตรหายไป แล้วเชื่อว่าสามเณรศุภโชคขโมยไปตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา จึงเรียกมาสอบถาม แต่สามเณรศุภโชคปฏิเสธ จึงร่วมกับสามเณรสุริยาทำร้ายร่างกายจนหมดสติถึง 2 ครั้ง ก่อนจะนำไปที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช แต่เสียชีวิตระหว่างทาง จึงนำศพกลับมาฝังร่างที่ต้นตะเคียนภายในวัด พร้อมปรับพื้นที่ให้เป็นสวนหย่อมเพื่ออำพรางซ่อนเร้นศพ ภายหลังสำนึกผิดจึงตัดสินใจบวชเป็นพระ ด้าน น.ส.ปิยฉัตรปฏิเสธเสียงแข็ง อย่างไรก็ตาม ยังพบปมที่สามเณรศุภโชคน่าจะรับรู้เรื่องผลประโยชน์ภายในวัดจนถูกฆ่าปิดปาก และพบว่า พระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ถูกใส่กุญแจขังไว้ในกุฎิมานานกว่า 2 ปี และไม่เคยรับรู้สถานะการเงินของวัด เพราะอยู่ภายใต้การควบคุมของนายเด่นชัย อย่างไรก็ตาม ตำรวจระบุว่า น.ส.ปิยฉัตร เดิมขายน้ำผลไม้ปั่นอยู่หลังวัด ภายหลังได้คบหากับนายเด่นชัย ไวยาวัจกรของวัด จนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ครอบงำผลประโยชน์ได้ทั้งหมด การจับกุมในครั้งนี้อาจเป็นการล้างบางมาเฟียในคราวไวยาวัจกรของวัดที่ฝังรากลึกมายาวนาน
อันดับ 3 : "เบนซ์ เรซซิ่ง" เข้าคุก คดีสมคบฟอกเงิน ขบวนการค้ายาเสพติด
หลังการจับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 42 ปี พ่อค้ายาบ้าชาวลาว กลางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. และขยายผลจับกุมนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย อายุ 27 ปี โดยให้การซัดทอดว่าได้ให้นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช อายุ 30 ปี หรือฉายา เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของดารานักแสดง แพท ณปภา ตันตระกูล ยืมเงิน 6 ล้านบาทเพื่อนำไปดาวน์รถหรู ลัมโบกินี กัลลาโด กระทั่งมีการค้นห้องพักและร้านเอเรีย 51 ในซอยอินทามาระ 51 ของนายอัครกิตติ์ เมื่อเช้าวันที่ 2 ก.พ. และได้เข้าชี้แจงที่มาของรถสปอร์ตคันดังกล่าว ต่อมา น.ส.ณปภา ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังนายอัครกิตติ์ โอนเงินให้ 18 ครั้ง รวม 1.98 ล้านบาท และให้ประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท วันที่ 29 พ.ค. นายอัครกิตติ์เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญา ร่วมกับ นายสรรเสริญ รสานนท์ หรือเน็ต อายุ 25 ปี และ น.ส.อังสุพร อินา หรืออุ้ม อายุ 29 ปี ในคดีฐานสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ และร่วมกันฟอกเงิน โดยอัยการคดียาเสพติด 10 ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยคำฟ้องของอัยการระบุว่า นายอัครกิตติ์, นายสรรเสริญร่วมกับ น.ส.อังสุพร เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับฝากเงินและโอนเงินค่ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคารอื่น ตามคำสั่งของนายณัฐพลหลายครั้ง สลับกับนายณัฐพลโอนเงินไปยังบัญชีของทั้งสองคนหลายครั้ง เมื่อได้รับเงินจะโอนกลับคืนไปให้นายณัฐพล และโอนไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.ณปภา หลายครั้ง นอกจากนี้ นายอัครกิตติ์ยังนำเงินที่ได้รับจากนายณัฐพลไปซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ราคาแพง โดยได้รับโอนเงินรวม 53 ครั้ง เป็นเงิน 11.07 ล้านบาท เพื่ออำพรางแหล่งที่มา ซึ่งในชั้นสอบสวนนายอัครกิตติ์ให้การปฏิเสธ ส่วนนายสรรเสริญและ น.ส.อังสุพรรับสารภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลสอบคำให้การว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฎว่าทั้งจำเลยสามให้การปฏิเสธ ก่อนจะมีคำสั่งให้นัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 7 ส.ค. จากนั้นในขั้นตอนการประกันตัว ทนายความนายอัครกิตติ์ยื่นหลักทรัพย์ 3.5 ล้านบาทขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลเห็นว่าจำเลยกระทำการเห็นแก่ตัวและไม่คำนึงถึงผลกระทบถึงบุคคลอื่น หรือต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม อีกทั้งอัยการโจทก์คัดค้าน เพราะเกรงว่าจะหลบหนี จึงยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยนายอัครกิตติ์ถูกนำตัวไปกักขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง บริเวณเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วานต่อไป
อันดับ 4 : คนกรุงระทึก! ระเบิดหวังถล่มตลาดหุ้น - ขโมยอาวุธสงครามส่งเคอรี่เอ็กซ์เพรส
แม้เหตุการณ์ลอบวางระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในวันครบรอบ 3 ปีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง จะยังไม่มีความคืบหน้า แต่ก็พบระเบิด ที่สร้างความระทึกให้คนกรุงฯ บ่อยครั้ง โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ค. สน.ห้วยขวาง ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยวางทิ้งไว้บริเวณป่าหญ้ารกร้างริมถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรม ประตู 1 พบว่ามีลักษณะเป็นท่อแป๊ปเหล็กคล้ายกับระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ วางอยู่ในตะกร้าพลาสติกสีเขียว และยังพบขดยากันยุงผูกติดอยู่กับเชื้อปะทุคล้ายกับจะใช้เป็นตัวจุดระเบิด โชคดีที่มีฝนตกลงมาเสียก่อน ทำให้ยากันยุงที่จุดไว้ดับระเบิดจึงไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่อีโอดีตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า มีเกลียวหัวท้าย ท่อโลหะ ยาว 8 นิ้ว คล้ายกับระเบิดที่ราชประสงค์ เป้าหมายคือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ถนนรัชดาภิเษก
อีกกรณีหนึ่งวันที่ 2 มิ.ย. ตำรวจ สน.บางเขน รับแจ้งพนักงานเคอรี่ เอ็กซ์เพรส สาขาบางเขน พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายระเบิดบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุไปรษณีย์ ชื่อผู้ส่งคือ นายอิสรพงษ์ พรหมบุตร ปลายทางส่งไปยังนายแม็ค อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี สอบถามพนักงานระบุว่า กล่องดังกล่าวนำมาส่งมาเมื่อวันที่ 6 พ.ค. แต่ถูกตีกลับเพราะไม่มีผู้รับ อีกทั้งติดต่อผู้รับและผู้ส่งไม่ได้ จึงส่งกลับมาที่นี่ เห็นว่าไม่มีใครมารับหลายวันแล้ว ลักษณะกล่องค่อนข้างหนัก จึงเปิดตรวจสอบดู พบกล่องยุทธภัณฑ์จึงลองเขย่าดู แต่ผู้เชี่ยวชาญพบว่าไม่ใช่ จึงรีบแจ้งตำรวจทันที ตรวจสอบพบระเบิดชนิดขว้าง เอ็ม 67 จำนวน 4 ลูก สภาพพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังพบกล่องพัสดุอีก 2 กล่อง ตรวจสอบพบระเบิดเอ็ม 67 เพิ่มอีก 2 ลูก ระเบิดลูกเกลี้ยงอีก 2 ลูก และกระสุนปืนไรเฟิล SK 100 นัด ต่อมาทหารควบคุมตัว ส.ท.อิสระพงศ์ พรหมบุตร อายุ 27 ปี สังกัดกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (ช.พัน 1 รอ.) มาสอบสวนที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) สารภาพว่าขโมยอาวุธสงครามในคลังออกมาขายตลาดมืดหลายครั้ง
อันดับ 5 : กปปส. กลับรัง ปชป. อ้างเข้าสู่เลือกตั้งตามโรดแมป "เทือก" ไม่ห้าม-ลั่นไม่กลับไป
แม้สถานการณ์ทางการเมืองยังไปไม่ถึงไหน หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครองครบรอบ 3 ปี แต่พบว่ามีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. นำโดย นายถาวร เสนเนียม, นายอิสสระ สมชัย, นายวิทยา แก้วภราดรัย, นายชุมพล จุลใส, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายเอกณัฎ พร้อมพันธุ์ และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร้านกาแฟภายในพรรค โดยนายถาวรย้ำว่า ยังไม่มีใครลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค สิ่งที่พูดคุยก็คือ จะจับมือร่วมกันเหมือนเดิมในการเดินเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งตามโรดแมป และต้องปฏิรูประเทศไทยให้ได้ พร้อมชี้แจงว่า ความเป็น กปปส. เหลือเป็นเพียงมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ถึงกระนั้น นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะอดีตรองหัวหน้าพรรค ให้ความเห็นต่อกรณีการกลับมาของ กปปส. จะทำให้เกิดภาวะหนึ่งพรรคสองแนวคิด
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ได้คุยกับกลุ่ม กปปส.แล้ว ยืนยันว่าเมื่อกลับมาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ก็จะยึดถือแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ระบุว่า มวลชนของตนเข้าใจดีว่า การเคลื่อนไหวมีทุกอาชีพ เมื่อเสร็จภารกิจก็กลับไปทำหน้าที่นักการเมืองในพรรคที่เขาสังกัด ปฏิเสธว่า กปปส. ไม่ได้ส่งคนไปยึดพรรค ใครจะกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นสิทธิและเป็นเรื่องของเขา ตนจะไม่เข้าไปกำกับหรือแทรกแซงวุ่นวาย ยืนยันว่าจะไม่กลับพรรคประชาธิปัตย์อีก อย่างไรก็ตาม การกลับมาของแกนนำ กปปส. ในครั้งนี้ ก็มีอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งยินยอม แต่บางส่วนไม่พอใจ โดยนายประมวล เอมเปีย ระบุว่า คนที่เห็นแย้งกับอุดมการณ์พรรค แล้วจะขอกลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอีกนั้นไม่สมควร
อันดับ 6 : สะเพร่า! แผงเหล็กสะพานกรุงเทพเด้งออกมา ชนแท็กซี่ตาบอด-สาหัส
สะพานกรุงเทพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นสะพานโยกเพียงแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังเปิด-ปิดให้เรือผ่านได้อยู่ แต่ก็เกิดเรื่องน่าสลดที่เกิดจากความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 พ.ค. เกิดเหตุเหล็กกั้นเปิด-ปิดสะพานชนกับรถแท็กซี่สีชมพูคาดน้ำเงิน ทะเบียน ทส 5634 กทม. ทำให้เหล็กกั้นสะพานเสียบทะลุกระจกหน้าด้านข้างคนไปด้านหลังกระจกคนขับ นายพรหมมา ขันขวา อายุ 67 ปี บาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โดยตาซ้ายได้รับการระทบกระเทือน ต้องควักตาทิ้งและนอนรักษาตัวยังไม่ได้สติ เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ทำการแจ้งสิทธิแก่ นางกัลยา แต้มเกิด ภรรยาของผู้เสียหาย พร้อมแนะนำแนวทางการขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ การขึ้นทะเบียนคนพิการ และการให้ความช่วยเหลือด้านอื่น
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท รับแจ้งจากกรมอู่ทหารเรือว่า จะมีเรือหลวงสุรินทร์ผ่านเข้ามา ไปยังกรมอู่ทหารเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ ใกล้วัดอรุณราชวราราม แต่เมื่อเกิดฝนตกหนัก การเปิด-ปิดสะพานด้วยระบบไฟฟ้าจะทำให้เสียหายได้ จึงประสานไปยังเรือหลวงสุรินทร์ พบว่าอยู่ที่บริเวณสะพานภูมิพล หากมาถึงสะพานกรุงเทพจะใช้เวลา 20 นาที ขณะนั้นนายอัมพัน เชยกุล อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท ที่รับผิดชอบการเปิด-ปิดสะพาน ได้ไปไขกุญแจแผงปิดกั้นออกมาเพื่อเตรียมพร้อม จังหวะนั้น แผงเหล็กได้เด้งออกมา ขณะที่รถแท็กซี่คันดังกล่าววิ่งมาชนจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ด้านนายอำพนเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางคอแหลม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส ก่อนอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวไปก่อนโดยไม่มีหลักทรัพย์
อันดับ 7 : มิสแกรนด์ไทยแลนด์ เวทีนี้มีแต่เรื่องราว - สาวเวทีอุทัยธานี อุบัติเหตุเสียชีวิต
การประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ที่มีนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นผู้อำนวยการประกวด เพื่อคัดเลือกสาวงามจากเวทีประกวด 77 จังหวัด เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล ในปี 2560 ได้เกิดเรื่องวุ่นขึ้นหลายเวที แต่ที่น่าเศร้าที่สุดคงจะเป็นกรณีที่ น.ส.รัตนา รามจาตุ หรือเฟี๊ยส อายุ 19 ปี มิสแกรนด์อุทัยธานี 2017 ประสบอุบัติเหตุรถยนต์โตโยต้า วีออส สีขาว ชนต้นไม้ใหญ่ในร่องกลางถนน เมื่อเช้าวันที่ 1 มิ.ย. บนถนนเพชรเกษม กม. 344 หมู่ 6 ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างเดินทางกลับจากไปเยี่ยมลุงที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อจะมาทำภารกิจกับกองประกวดที่กรุงเทพฯ สันนิษฐานว่าเกิดจากฝนตกถนนลื่น เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทางตรงระยะยาว
ก่อนหน้าที่จะเกิดข่าวเศร้าดังกล่าว เวทีการประกวดมิสแกรนด์แต่ละจังหวัดมีปัญหาตลอดเวลา แทบจะเป็นเรื่องดราม่า เริ่มจาก น.ส.วาสนา อินโฉมงาม หรือลูกวาส มิสแกรนด์สุรินทร์ 2017 ถูกสั่งปลดเพราะไปประกวดเวทีอื่นระหว่างดำรงตำแหน่งโดยพลการ, น.ส.ปุญญาพร ราชฤทธิ์ หรือน้ำหวาน มิสแกรนด์สตูล 2017 ถูกปลดเพราะไปประกวดเวทีอื่นในขณะดำรงตำแหน่ง, น.ส.เกวลี ทวดสิญจน์ หรืออาย มิสแกรนด์สมุทรสาคร 2017 ถูกปลดเพราะเกิดความไม่โปร่งใสของผู้อำนวยการประกวด และต้องจัดการประกวดใหม่ที่ศูนย์การค้าซีคอน บางแค ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากคนในจังหวัดสมุทรสาคร, น.ส.อัจจิมา โกสุมา หรือ มีน ขอสละตำแหน่งมิสแกรนด์น่าน 2017 อ้างว่า ไม่สามารถปฎิบัติตามกฎของกองได้ ก่อนที่นายณวัฒน์จะแฉกลับว่าก่อเรื่องไว้เยอะ พอไม่มีทางไปก็เลยปลดตัวเอง และ น.ส.อรอุมา วรสิริ หรือ เอมอร มิสแกรนด์สงขลา 2017 เกือบที่จะสละตำแหน่ง เพราะมีแฟนนางงามบางกลุ่มเข้าไปต่อว่าด่าทอและดูถูกเรื่องความยากจน แต่ทางกองประกวดยืนยันว่าจะทำหน้าที่ต่อไป