xs
xsm
sm
md
lg

แฉ! แหล่งเงินวัดหลายร้อยล้าน ชนวนแก๊งเหลือบฆ่าฝังดิน “เณรปลื้ม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แฉแหล่งผลประโยชน์วัดวังตะวันตก เมืองคอน มูลค่าหลายร้อยล้าน ชนวนเหตุแก๊งอิทธิพลฆ่าฝังวัด “สามเณรปลื้ม” เผยอดีตเจ้าอาวาสยังถูกจับขัง ไม่รับรู้สถานะการเงินของวัด แถมไม่กล้าปากโป้ง พบ “ปิยฉัตร” ตัวบงการ เดิมขายน้ำปั่น แต่ได้มาบริหารจัดการวัดฐานะอู้ฟู่ มีรถหรูขับ 3 คัน ทีมสังหารเกือบ 10 คน ทั้งขุดหลุม ผสมปูน อำพรางศพ

ความคืบหน้าคดีฆ่าสามเณรปลื้ม หรือนายศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี แล้วฝังดินไว้บริเวณลานต้นตะเคียนหน้าหอไตรอินทสุวรรณ ภายในวัดวังตะวันตก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วนำพระพุทธรูปมาวางทับจุดฝังศพเพื่ออำพรางคดี โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2560 แต่เจ้าหน้าที่เพิ่งจับตัวคนร้ายได้ คือ นายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่น นายสุริยา กุศลสุข หรือสามเณรสุริยา และ น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล ผู้จัดการผลประโยชน์ของวัด โดยวานนี้(2 มิ.ย.) พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และนายตำรวจระดับสูงของ ภ.นครรีธรรมราช ได้นำตัวนายเด่นชัย นายสุริยา เข้าทำแผนประทุษกรรมและนำชี้จุดฝังศพ โดยได้นำรถแบกโฮเข้าขุดค้นและศพของสามเณรปลื้มจริง ในสภาพถูกห่อด้วยจีวรและผ้านวม และมีการเทคอนกรีตเสริมเหล็กทับบนศพก่อนกลบด้วยดิน รวมทั้งมีขวดน้ำมันก๊าด และอุปกรณ์ในการทำพิธีส่วนหนึ่งอยู่ที่ก้นหลุม

แม้นายเด่นชัย จะอ้างว่า ไม่ได้เจตนาฆ่าสามเณรปลื้ม สาเหตุที่ทำร้ายนั้นเนื่องจากสามเณรปลื้ม ได้ขโมยเงินสด และทองรูปพรรณน้ำหนัก 6 บาทไป พยายามทวงคืนแต่ไม่ได้ผล จึงทำร้ายเพื่อสั่งสอนแต่ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา แต่จากพยานแวด้อมอื่นๆ เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อตามคำกล่าวอ้างของนายเด่นชัย โดยมีประเด็นที่น่าสงสัยยิ่งกว่านั้น คือผลประโยชน์ภายในวัดวังตะวังตกที่มีคนบางกลุ่มเข้ามากอบโดยเอาไปเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจเกี่ยวโยงไปถึงพระผู้ใหญ่ในจังหวัดด้วย เมื่อสามเณรปลื้มเข้ามาล่วงรู้ จนเป็นเหตุให้ถูกฆ่าปิดปากในที่สุด

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการขุดค้นหาศพเมื่อวานที่ผ่านมา พระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก ได้ยอมรับกับ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ว่า เมื่อครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ตนเองถูกใส่กุญแจขังไว้ในกุฏิ และไม่เคยรับรู้สถานะการเงินของวัด เนื่องจากอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มผู้ต้องหาที่ฆาตกรรมสามเณรปลื้มเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น

พระเทพสิริโสภณ ยืนยันว่า ทั้ง น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล และนายเด่นชัย ภูมินิยม ไม่ได้เป็นญาติใดๆ แต่เหตุใดจึงเข้ามาควบคุมวัดได้อย่างเบ็ดเสร็จนั้น พระเทพสิริโสภณก็ไม่สามารถตอบได้

อย่างไก็ตาม ข้อมูลจาก พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นั้น นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดย พล.ต.ท.เทศา ระบุว่า วัดวังตะวันตกมีผลประโยชน์มหาศาล กลุ่มผู้ต้องหาทั้งสามีภรรยาคือ นายเด่นชัย ภูมินิยม และ น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล ครอบงำได้ทั้งหมด แม้แต่อดีตเจ้าอาวาสก็ถูกใส่กุญแจขังไว้ไม่สามารถทำอะไรได้ อยู่ในสภาพห่มผ้าเหลืองเพียงอย่างเดียว กรรมการวัดก็ไม่มี และขอเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากวาดล้างทำความสะอาดวัดครั้งใหญ่

พล.ต.ท.เทศาบอกอีกว่า อาจมีผู้ต้องหาเพิ่มในคดีนี้อีกรวมเกือบ 10 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วน เช่น ผู้ขุด จัดหาปูน ผสมปูน ช่วยกันปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ รวมทั้งต้องมีการสอบสวนพระเทพสิริโสภณ อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะเข้าข่ายข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวอีก 1 คดี

ส่วนแหล่งผลประโยชน์ของวัดที่กลุ่มผู้ต้องหาครอบครองจัดการอยู่นั้น มีทั้งรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของวัดมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เงินสดที่ไหลเข้าวัดทุกวัน วันละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท ทั้งจากการเก็บค่าแผงค้ารายวัน ค่าจอดรถรายวัน และอื่นๆ อีกหลายรายการ แต่มีรายงานว่าไม่ปรากฏอยู่ในสถานะทางบัญชีของวัด

ส่วน น.ส.ปิยฉัตรนั้น เดิมพบว่ามีอาชีพขายน้ำผลไม้ปั่นอยู่บริเวณหลังวัด และภายหลังได้มาบริหารจัดการภายในวัด ซึ่งมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยขณะนี้ใช้รถยนต์ราคาแพงอยู่ถึง 3 คัน

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้วัดวังตะวันตก มีเจ้าอาวาส คือ พระเทพปฏิภาณโสภณ และยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ภายหลังได้ถูกร้องเรียนพฤติการณ์บางอย่างจนถูกคณะสงฆ์พิจารณา และได้พ้นจากตำแหน่งไป โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช


กำลังโหลดความคิดเห็น