xs
xsm
sm
md
lg

52 วัน ยอดพสกนิกรกว่า 2 ล้านคน กราบสักการะพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางรุ่งนภา เตรียมเวชวุฒิไกร อายุ 72 ปี ประธานคณะทำงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นพร้อมกับสมาชิกเหล่ากาชาด ตำบลเมืองพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น
พสกนิกรทั่วสารทิศเข้าแถวเพื่อกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ภายในพระบรมมหาราชวัง อย่างต่อเนื่อง คณะทำงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น คณะลูกเสือ ผู้บำเพ็ญประโยชน์และยุวกาชาด โรงเรียนนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดี ด้านเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก จิตอาสาเปิดให้บริการประชาชนในแถวโดยเฉพาะ ส่วนสำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 54,339 คน รวม 52 วัน มี 2,081,918 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,082,062.75 บาท รวม 52 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 165,088,553 บาท

วันนี้ (22 ธ.ค.) สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งในวันนี้ดำเนินมาเป็นวันที่ 54 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สำนักพระราชวัง เปิดประตูวิเศษไชยศรี ตั้งแต่เวลา 04.45 น. จากปกติเปิดเวลา 08.00 น. เพื่อให้พสกนิกรทุกเพศทุกวัยจากทั่วทุกสารทิศ ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ ซึ่งพสกนิกรต่างสวมใส่ชุดดำไว้ทุกข์เข้าแถวรออย่างเป็นระเบียบด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้

ด้าน นางรุ่งนภา เตรียมเวชวุฒิไกร อายุ 72 ปี ประธานคณะทำงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับสมาชิกเหล่ากาชาด ตำบลเมืองพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น จำนวน 76 คน เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในทุกๆ ด้านให้กับปวงชนชาวไทยเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท โดยเฉพาะหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พวกเราน้อมนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน มีความพอประมาณ ไม่ทำอะไรที่เกินตัว และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ซึ่งเหล่ากาชาดทุกคนก็ถือปฏิบัติ

“ที่ผ่านมา เรามีกิจกรรมถวายความอาลัยและน้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ เกือบทุกวัน เช่น ร่วมกันสวดมนต์ถวาย ปล่อยปลา ปั่นเพื่อพ่อ และไปช่วยกันเกี่ยวข้าวที่โรงเรียนพลปลูกไว้ ในโครงการหนึ่งเดียวเกี่ยวเพื่อพ่อ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในตำบลหนองแวงนางเบ้า ตำบลโคกสง่า อำเภอพล ก็มีศูนย์เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง มีเจ้าหน้าที่ไปให้ความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรี ทำไร่นาสวนผสม โดย กฟผ. ได้แบ่งที่ดินให้ชาวบ้านเข้าไปเป็นสมาชิกในการปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ แล้วจัดเป็นตลาดนัดปลอดสารพิษให้สมาชิกนำผลผลิตมาจำหน่าย ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ ส่วนโรงเรียนก็จะมีการสอนเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง ให้นักเรียนปลูกผักเสี้ยงสัตว์ด้วยเพื่อนำมาใช้ประกอบเป็นอาหารกลางวัน ถือว่าแนวทางของพระองค์มีประโยชน์มาก จึงรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น” นางรุ่งนภา กล่าว

ด้าน นายพัสกร โตเสน่ห์ อายุ 43 ปี หัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนนครไทย จังหวัดพิษณุโลก นำคณะลูกเสือ ผู้บำเพ็ญประโยชน์ และยุวกาชาด กว่า 200 คน ร่วมกันสวมชุดเครื่องแบบกิจกรรมมากราบสักการะพระบรมศพ โดยเปิดเผยว่า เราต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อลูกเสือ พระองค์ทรงทำให้กิจการลูกเสือได้ถูกรื้อฟื้นให้คืนคงสถานะเดิมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้การลูกเสือในประเทศไทยได้เริ่มต้นเคลื่อนไหวเข้มแข็งขึ้นมาใหม่ และเพื่อถวายความเคารพต่อพระองค์ท่าน ในปีนี้จึงไม่ได้จัดให้มีการเข้าค่ายลูกเสือ

นายพัสกร กล่าวว่า ในฐานะของลูกเสือ เราได้สูญเสียประมุขไป แต่สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำยังคงอยู่ ที่ผ่านมาพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในลูกเสือทั้งลูกเสือสากลและลูกเสือชาวบ้าน ทรงเข้าพระราชหฤทัยในหลักจิตวิทยาพฤติกรรมมนุษย์และจิตวิทยาสังคมอย่างลึกซึ้ง ทรงเล็งเห็นว่ากิจกรรมลูกเสือนั้นสามารถพัฒนาคนให้เป็นคนดี มีคุณธรรมเพื่อเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติได้ ทรงเป็นองค์ประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติที่พวกเราเคารพรัก และเทิดทูน การมาครั้งนี้อยากให้ลูกเสือรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ในตรงนี้ เพื่อตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคณะลูกเสือไทย

ด้าน นายก่อเกียรติ พานพรม อายุ 15 ปี และ นายสุวัชชัย วัฒนวิทย์ อายุ 15 ปี ลูกเสือที่เดินทางมาในวันนี้เปิดเผยว่า ตนรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้มีโอกาสเข้าสักการะพระบรมศพ และภูมิใจที่ได้สวมชุดลูกเสือที่มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นองค์ประธาน และตนก็เคยเห็นพระองค์ทรงเครื่องแบบลูกเสือ รู้สึกถึงความสง่างาม ตนมีความประทับใจในหลวง รัชกาลที่ ๙ ในทุกเรื่อง ทรงช่วยเหลือให้ประชาชนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยอนาคตอยากทำงานด้านการพัฒนาคนให้เป็นคนดีต่อไปด้วย

ก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 22.30 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอเข้ากราบพระบรมศพในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 54,339 คน รวม 52 วัน มี 2,081,918 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,082,062.75 บาท รวม 52 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 165,088,553 บาท
คณะลูกเสือผู้บำเพ็ญประโยชน์และยุวกาชาด โรงเรียนนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
























กำลังโหลดความคิดเห็น