xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรไม่หวั่นฝนโปรยปราย ต่อคิวสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางน้อยหน่า อิ่มสมบูรณ์ อายุ 63 ปี  และนางโอเลี้ยง แสงสาลี อายุ 54 ปี  พร้อมเพื่อนชาวจังหวัดจันทบุรี
ช่วงเช้ามีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย แต่ประชาชนยังคงพร้อมใจกันกางร่มและต่อแถวเพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดรวมประชาชนสักการะพระบรมศพ วานนี้ 53,166 คน

วันนี้ (16 ธ.ค.) สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งในวันนี้ดำเนินมาเป็นวันที่ 60 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ในเวลา 04.50 น. ก่อนเปลี่ยนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน เวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูวิเศษไชยศรี

แม้ช่วงเช้ามีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย แต่ประชาชนยังคงพร้อมใจกันกางร่มและต่อแถวเพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังกางร่มขนาดใหญ่ไว้รองรับประชาชนบริเวณด้านทิศตะวันออกของพระที่นั่งดุสิต ซึ่งเป็นทางเข้าของประชาชนที่มากราบสักการะด้วย

ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอกตลอดเวลา และเมื่อได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙ แล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

ด้าน นางน้อยหน่า อิ่มสมบูรณ์ อายุ 63 ปี อาชีพทำสวนและค้าขาย ชาวตำบลท่าหลวง อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี และ นางโอเลี้ยง แสงสาลี อายุ 54 ปี ชาวตำบลเกาะขวาง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้าน ร่วมกันกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันนี้ ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ชาวจังหวัดจันทบุรี ก็ได้ไปร่วมกันจุดเทียนถวายความอาลัยและระลึกถึงพระองค์ที่คลองภักดีรำไพ ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริ ที่พระองค์ทรงให้จัดสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2552 และภายหลังจากมีคลองแห่งนี้แล้วเมืองจันทบุรีก็ไม่มีปัญหาน้ำท่วมอีกเลย ความเจริญก็เข้าไปกลายเป็นสถานที่พักผ่อนและทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพทั้งเป็นที่ปั่นจักรยานออกกำลังกายของประชาชนในระแวกใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมี อ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระองค์ ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาสัตว์น้ำและป่าชายเลน ที่เปิดให้ประชาชนและนักเรียนนักศึกษาเข้าไปศึกษาหาความรู้ด้วย

“พวกเราจะหมุนเวียนกันเดินทางมาเข้ากราบสักการะพระบรมศพของพระองค์ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวจันทบุรี พวกเรารักพระองค์ท่านมากตื้นตันใจ พระองค์คอยช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนั้นก็ได้ แต่พระองค์ก็ยอมเหนื่อยเพื่อประชาชนทั้งประเทศ พวกเราจึงรักพระองค์ท่านมาก ท่านเป็นเทวดามาโปรด ก็ขอให้พระองค์เสด็จสู่สรวงสวรรค์ชั้นสูงสุด พวกเราก็จะขอทำความดีตามรอยพระองค์ ยึดหลักพอเพียง ปลูกทุกอย่าง ซื้อให้น้อย รู้จักกินรู้จักใช้ ถ้าทุกคนอยู่อย่างพอเพียงก็ไม่ต้องโกง ประเทศไทยก็อยู่รอด” ชาวจันทบุรี ร่วมกันกล่าว

ด้าน นายดิเรก ไมทอง ข้าราชการครูบำนาญ อายุ 81 ปี เดินทางมากับเพื่อนบ้านจากอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกร้อยกว่าคน แม้ต้องใช้เวลารอนานกว่า 5 ชม. เพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ เผยความรู้สึกทั้งน้ำตาคลอเบ้า ว่า ซาบซึ้ง และตื้นใจมากจนน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ทรงเป็นพ่อของคนไทยทั้งแผ่นดิน ตัวเองเป็นข้าราชการครูถือว่าเป็นข้ารองพระบาทโดยตรง ที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่ของตัวเองโดยยึดพระราชดำรัสของพระองค์ที่เป็นข้าแผ่นดินต้องไม่ลืมหน้าที่ จำได้ว่าประมาณปีพุทธศักราช 2538 ได้เข้ามารับพระราชทานรางวัลข้าราชการอาวุโสดีเด่นในพระบรมมหาราชวัง ภาคภูมิใจมาก หลังจากเกษียณออกมาแล้วก็ยังดำเนินชีวิตตามท่านสอนโดยยึดหลักการใช้ชีวิตเรียบง่าย มัธยัสถ์ มีเวลาว่างก็ปลูกพืชผักไว้กินเอง แล้วยังส่งต่อคำสอนถึงลูกหลานด้วย

ด้าน สำนักพระราชวัง สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 01.05 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอเข้ากราบพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 53,166 คน รวม 46 วัน มี 1,778,131คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินยอดเงิน 4,657,280.25 บาท รวม 46 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 138,422,603.75 บาท
นายดิเรก ไมทอง ข้าราชการครูบำนาญ อายุ 81 ปี





































กำลังโหลดความคิดเห็น