พสกนิกรจำนวนมาก ทั้งใน กทม. และจากต่างจังหวัด พร้อมใจใส่ชุดดำไว้ทุกข์เดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 44
วันนี้ (13 ธ.ค.) บรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งในวันนี้ดำเนินมาเป็นวันที่ 44 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เวลา 04.50 น.
พสกนิกรจำนวนมากพร้อมใจสวมใส่ชุดดำไว้ทุกข์ เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พากันมาเป็นหมู่คณะและครอบครัว ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ
นางถนอมศรี ขวัญนาคม วัย 56 ปี เดินทางมาจาก จ.นราธิวาส โดยเช่ารถตู้มาพร้อมกับญาติและเพื่อนบ้านรวม 13 คน เผยว่า ออกเดินทางมาตั้งแต่ตี 3 วันที่ 11 ธันวาคม แล้วมาพักที่บ้านญาติกระทั่งตี 4 วันนี้จึงมาต่อแถวเข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้เข้ากราบสักการะประมาณ 9 โมงเช้า ซึ่งถือว่าไม่นานนัก
“บ้านของพวกเราอยู่ใกล้พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านและสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่นราธิวาส จึงมีโอกาสได้รับเสด็จฯหลายครั้ง ประทับใจพระองค์ท่านมาก เพราะบ้านเราอยู่ไกลถึงใต้สุดของประเทศ แต่พระองค์ท่านก็ไปถึงทุกตรอกซอกซอย วันนี้จึงตั้งใจจะมากราบพระองค์ท่านให้ได้ ตอนได้ขึ้นไปบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันจนน้ำตาไหล ความเหนื่อยหายไปจนหมดกลายเป็นความปลื้มปีติเข้ามาแทน พร้อมอธิษฐานขอให้พระองค์ไปสู่นิพพาน ส่วนตัวเองจะขอน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ตลอดไป โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่ทำมาตลอดด้วยการปลูกผักปลอดสารเคมีไว้กินเองทั้งที่บ้านและที่สวน” นางถนอมศรี ตัวแทนคณะเดินทางจากปลายด้ามขวาน กล่าวด้วยความซาบซึ้ง
นางน้อย ส่งศิริพร อายุ 85 ปี พสกนิกรที่เดินทางมาจาก อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ มาสักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙ เล่าย้อนให้ฟังว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมายังนครสวรรค์หลายครั้ง โดยตนได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ ในหลายๆ ครั้ง ซึ่งมีครั้งหนึ่งตนจำได้ว่า ในหลวง ร.๙ เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชโอรสและพระราชธิดา ตนยังจำได้ดี ตอนนั้นมีชาวนครสวรรค์มาเฝ้ารับเสด็จฯ จำนวนมาก ในหลวง ร.๙ ทรงแย้มพระโอษฐ์แก่ราษฎร และมีรับสั่งต่างๆ นานา สร้างความปีติแก่พวกเราชาวนครสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง
นางน้อย กล่าวด้วยว่า การเดินทางมาครั้งนี้ตนก็มาด้วยความคิดถึงพระองค์ท่าน อยากมากราบใกล้ๆ อยากเห็นพระบรมโกศ ได้เห็นแล้วก็ปลาบปลื้มและตื้นตันใจ สวยงามสมพระเกียรติ ตนอายุมากแล้ว ได้มาถึงที่แห่งนี้ก็นับว่าเป็นบุญมาก ได้เห็นราชประเพณีโบราณ ซึ่งทำให้ตนนึกถึงว่าสมัยพ่อตนท่านเล่าให้ฟังว่าได้มากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ในหลวง ร.๘ ตนในฐานะลูกก็ได้มากราบพระบรมศพ ในหลวง ร.๙ และตนก็อยากจะเห็นพระเมรุมาศ แต่รู้ตัวว่าแก่แล้ว ไม่รู้จะอยู่ได้นานอีกเท่าไหร่ ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อยากมาเห็นสักครั้ง