ผู้จัดการรายวัน360-กอร.รส.เผยวันหยุดยาว 10-11 ธ.ค. มีประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมศพมากถึง 1 แสนคน ทั้งกลางวันกลางคืน ส่วนยอดรวม 42 วัน ทะลุ 1.57 ล้านคนแล้ว มียอดถวายเงินเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล 120 ล้าน ตำรวจเปิดรับจิตอาสามอเตอร์ไซค์รับส่งคน หลังเริ่มหดหาย ด้านกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 5,000 คน แต่งชุดประจำเผ่าเข้าคิวสักการะพระบรมศพ เผยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9 ที่ช่วยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12 ธ.ค.) เป็นวันที่ 60 ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมเป็นเจ้าภาพในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ
โดยเมื่อเวลา 06.55 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 11 ธ.ค. ในการนี้คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น ธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมในพระราชพิธี รวมถึงหน่วยงานที่ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ด้วย
จากนั้นเวลา 19.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร สวดพระอภิธรรม
สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังเมื่อวานนี้ ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 43 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ บรพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เวลา 04.50 น. พสกนิกรจำนวนมาก พร้อมใจสวมใส่ชุดดำไว้ทุกข์ เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ใช้โอกาสช่วงวันหยุดยาวพากันมาเป็นหมู่คณะและครอบครัว
ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพ ทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอกตลอดเวลา และเมื่อได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย
สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 01.40 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอเข้ากราบพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมากว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 58,909 คน รวม 42 วัน มี 1,578,625 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินยอดเงิน 3,896,209.75 บาท รวม 42 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 120,631,591.25 บาท
ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอร.รส. กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดวันที่ 10-11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืนวันละกว่า 50,000 คน รวม 2 วันกว่า 1 แสนคน ซึ่งสำนักพระราชวังได้ขยายเวลา โดยเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะจนครบ
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่ต่างๆ จัดกิจกรรมทำความสะอาดพื้นที่ของตนเองเดือนละ 1 ครั้ง รวมถึงเชิญชวนให้ประชาชนร่วมทำความสะอาดบริเวณหน้าบ้าน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นการต่อยอดการทำกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์รอบสนามหลวง เมื่อวันที่ 1-2 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการจราจร (ผบก.จร.) กล่าวว่า ขณะนี้จิตอาสาให้บริการมอเตอร์ไซค์รับส่งประชาชนเริ่มลดน้อยลง และประชาชนบางคนเริ่มไม่กล้าใช้บริการ เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ทางตำรวจจึงได้จัดทำโครงการอาสาร่วมใจทำดีเพื่อพ่อ โดยจะจัดอบรมจิตอาสา และดึงบริษัทประกันภัยทำประกันอุบัติเหตุให้จิตอาสาทุกคน และจะมีการตรวจสอบการให้บริการของจิตอาสาทุกคน จากนั้นจะมีการมอบโล่เชิดชูเกียรติต่อไป
วันเดียวกันนี้ กลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองมากถึง 40 ชนเผ่า อาทิ กะเหรี่ยง ม้ง มูเซอ อาข่า ดาราอาง คะฉิ่น เป็นต้น ประมาณ 5,000 คน ได้แต่งกายด้วยชุดประจำเผ่า และเดินเท้าจากสวนสราญรมย์ไปยังท้องสนามหลวง เพื่อเข้าแถวตามลำดับคิว เพื่อเข้าไปสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยจากการสอบถาม หลายคนรู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมากรุงเทพฯ และทราบดีว่าอาจต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงจึงจะได้เข้ากราบพระบรมศพ แต่ทุกคนก็ตั้งใจด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานแนวทางทำกินและอาชีพ ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ห่างไกลด้อยโอกาส มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจนทุกวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12 ธ.ค.) เป็นวันที่ 60 ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมเป็นเจ้าภาพในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ
โดยเมื่อเวลา 06.55 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 11 ธ.ค. ในการนี้คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น ธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมในพระราชพิธี รวมถึงหน่วยงานที่ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ด้วย
จากนั้นเวลา 19.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร สวดพระอภิธรรม
สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังเมื่อวานนี้ ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 43 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ บรพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เวลา 04.50 น. พสกนิกรจำนวนมาก พร้อมใจสวมใส่ชุดดำไว้ทุกข์ เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ใช้โอกาสช่วงวันหยุดยาวพากันมาเป็นหมู่คณะและครอบครัว
ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพ ทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอกตลอดเวลา และเมื่อได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย
สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 01.40 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอเข้ากราบพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมากว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 58,909 คน รวม 42 วัน มี 1,578,625 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินยอดเงิน 3,896,209.75 บาท รวม 42 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 120,631,591.25 บาท
ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอร.รส. กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดวันที่ 10-11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืนวันละกว่า 50,000 คน รวม 2 วันกว่า 1 แสนคน ซึ่งสำนักพระราชวังได้ขยายเวลา โดยเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะจนครบ
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่ต่างๆ จัดกิจกรรมทำความสะอาดพื้นที่ของตนเองเดือนละ 1 ครั้ง รวมถึงเชิญชวนให้ประชาชนร่วมทำความสะอาดบริเวณหน้าบ้าน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นการต่อยอดการทำกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์รอบสนามหลวง เมื่อวันที่ 1-2 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการจราจร (ผบก.จร.) กล่าวว่า ขณะนี้จิตอาสาให้บริการมอเตอร์ไซค์รับส่งประชาชนเริ่มลดน้อยลง และประชาชนบางคนเริ่มไม่กล้าใช้บริการ เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ทางตำรวจจึงได้จัดทำโครงการอาสาร่วมใจทำดีเพื่อพ่อ โดยจะจัดอบรมจิตอาสา และดึงบริษัทประกันภัยทำประกันอุบัติเหตุให้จิตอาสาทุกคน และจะมีการตรวจสอบการให้บริการของจิตอาสาทุกคน จากนั้นจะมีการมอบโล่เชิดชูเกียรติต่อไป
วันเดียวกันนี้ กลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองมากถึง 40 ชนเผ่า อาทิ กะเหรี่ยง ม้ง มูเซอ อาข่า ดาราอาง คะฉิ่น เป็นต้น ประมาณ 5,000 คน ได้แต่งกายด้วยชุดประจำเผ่า และเดินเท้าจากสวนสราญรมย์ไปยังท้องสนามหลวง เพื่อเข้าแถวตามลำดับคิว เพื่อเข้าไปสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยจากการสอบถาม หลายคนรู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมากรุงเทพฯ และทราบดีว่าอาจต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงจึงจะได้เข้ากราบพระบรมศพ แต่ทุกคนก็ตั้งใจด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานแนวทางทำกินและอาชีพ ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ห่างไกลด้อยโอกาส มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจนทุกวันนี้