กลุ่มชาติพันธุ์ และ ชนเผ่าพื้นเมือง กว่า 4,000 คน จากจังหวัดต่างๆ รวม 41 ชนเผ่า เดินทางมาร่วมกราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ชาวชนเผ่าอาข่าได้ร่วมทำพิธีส่งดวงพระวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ตามความเชื่อของคนพื้นเมือง
วันนี้ (12 ธ.ค.) เวลา 18.00 น. กลุ่มชาติพันธุ์ และ ชนเผ่าพื้นเมืองกว่า 4,000 คน จากจังหวัดต่างๆ รวม 41 ชนเผ่า อาทิ กะเหรี่ยง ม้ง ละโห่ อีก้อ ลีซอ เดินทางมาร่วมกราบถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
นายสา อูแม อายุ 58 ปี ชาวอาข่าดอยแม่ยาว ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย กล่าวด้วยสีหน้าอ่อนล้า ว่า วันนี้ดีใจมาก เพราะในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง คือ การได้เข้ากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนี้แม้ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า ตั้งแต่ตอน 04.00 น. จนขณะนี้เกือบ 18.00 น. แต่ใจยังคงอดทน เฝ้ารอเพื่อให้เข้ามายังพระบรมมหาราชวังให้ได้
“ลุงเดินทางมาไกลจากบนดอยแม่ยาว พวกเราชาวอาข่าอยู่บนเขาบนดอยต่างปลูกผัก ปลูกข้าวโพด และปลูกข้าว เป็นอาชีพหลักอยู่อย่างพอเพียง ไม่ต้องดิ้นรนออกไปหาซื้อกินที่ไหน หลังจากที่ทราบข่าวในหลวง รัชกาลที่ ๙ สวรรคต ตอนนั้นกว่าจะรู้ก็หลายวันแล้ว ซึ่งก็รู้จากพ่อหลวง หรือ ผู้ใหญ่บ้านบนดอย เรียกทุกคนประชุม จากนั้นก็บอกว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคตแล้ว ลุงจำได้ว่าในขณะนั้น ทุกคนต่างร้องไห้กัน รวมถึงลุงด้วย ทั้งนี้ ลุงอยากบอกว่าแม้พวกเราจะอยู่บนดอย ไกลจากตัวเมือง แต่พวกเราก็อยู่ในผืนแผ่นดินประเทศไทย และรักในหลวงไม่แพ้กับคนไทยทุกคน” นายสา กล่าว
ส่วน นายสมชาย บัญชาพล ชาวชนเผ่าอาข่า ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า วันนี้ได้พาลูกบ้านจำนวน 150 คน เดินทางมาร่วมกับชนเผ่าอีก 41 ชนเผ่า ซึ่งเดินทางมาจากกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ ประมาณ 5,000 คน เพื่อร่วมพิธีส่งดวงพระวิญญาณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่สรวงสวรรค์ ตามความเชื่อของชนเผ่าพื้นเมืองที่สวนสราญรมย์ ข้างวัดพระแก้ว เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ที่ผ่านมา ก่อนมาเข้าคิวที่ท้องสนามหลวง เพื่อรอเข้ากราบสักการะพระบรมศพ และได้เข้ากราบสักการะเวลาประมาณ 17.30 น.
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ชาวอาข่าได้รับการส่งเสริมอาชีพ เช่น เลี้ยงแพะ ปลูกพืชทำการเกษตร ทำให้พวกเรามีที่อยู่ที่กินไม่เดือดร้อน และมีบัตรประชาชนสามารถไปประกอบอาชีพได้ไม่เฉพาะในประเทศไทย ยังสามารถเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ ทำให้ชาวบ้านมีฐานะดีขึ้น
“ก่อนหน้านี้ เราต้องอยู่อย่างยากลำบาก เพราะไม่มีสิ่งระบุตัวตนแน่ชัด พ่อผมเล่าว่าตอนนั้นในหลวงเสด็จฯมาแล้วรับรู้ปัญหานี้ จึงพระราชทานเหรียญที่ระลึกแสดงความเป็นชนชาติไทยให้ทุกคน บนเหรียญเขียนว่าที่ระลึกสำหรับชาวเขา พร้อมเลขรหัสระบุจำนวนคนที่เท่าไร ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว ลูกหลานได้รับตกทอดมาเป็นมรดกเท่านั้น กลายเป็นของหายาก และสร้างความภาคภูมิใจของเรา สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ทุกคนตั้งใจมา เพราะด้วยความรักที่มีให้ต่อในหลวง รัชกาลที่ ๙ อย่างแท้จริง เพราะ 70 ปีที่ผ่านมา ท่านไม่เคยพักผ่อน พระองค์ท่านไม่เคยแบ่งแยกว่าพวกเราเป็นชนเผ่า ที่พวกเรามีอาชีพ มีทุกอย่างเหมือนคนไทย เพราะบารมีของในหลวง รัชกาลที่ ๙ พวกเราจึงรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจึงเดินทางมาร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” นายสมชายกล่าว