xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรซาบซึ้ง กราบสักการะพระบรมศพ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เบื้องหน้าพระบรมโกศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางรุ่งทิพย์ เหมหาญ อายุ 41 ปี พร้อมครอบครัว เด็กหญิงชญานิศ เหมหาญ อายุ 6 ขวบ นางจำเนียร ชัยลังกา อายุ 64 ปี และ นางธัญญารัตน์ ปรารมภ์ อายุ 37 ปี เดินทางมาจาก จังหวัดพะเยา
ประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลกราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ อย่างเนืองแน่น ครอบครัวชาวพะเยา เผยตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ จึงไม่รู้สึกเหนื่อยล้าที่ต้องเดินทางไกล ด้านสองพี่น้องจากพัทลุง เผยเป็นบุญ ที่อยู่ในต่างจังหวัดห่างไกล แล้วมีโอกาสได้เข้าไปกราบสักการะในหลวงรัชกาลที่ ๙ คุณป้าวัย 60 ปี จากข่อนแก่น ตั้งใจทำตามคำสอนของพ่อหลวง

วันนี้ (4 พ.ย.) ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา พสกนิกรยังคงเดินทางเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กันอย่างเนืองแน่น

ด้าน นางรุ่งทิพย์ เหมหาญ อายุ 41 ปี พร้อมครอบครัว เด็กหญิงชญานิศ เหมหาญ อายุ 6 ขวบ นางจำเนียร ชัยลังกา อายุ 64 ปี และ นางธัญญารัตน์ ปรารมภ์ อายุ 37 ปี เดินทางมาจากจังหวัดพะเยา พร้อมคณะ 750 คน เผยว่า พอรู้ว่าจะมีการพาชาวบ้านมากราบพระบรมศพ ที่บ้านก็ตระเตรียมชุดผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นผ้าของจังหวัดพะเยา ที่ดูสุภาพเรียบร้อยมาใส่ ส่วนชุดของลูกสาวใช้ผ้าถุงคุณยายเอามาตัดใหม่เป็นชุดไทยสวยๆ ใส่สบายตัว โดยเดินทางมาตั้งแต่เวลาห้าโมงเย็นของวันที่ 3 พฤศจิกายน มาถึง กรุงเทพฯเข้าแถวรอสักการะประมาณ 05.00 น. ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย คงเพราะใจนึกถึงแต่จะมาหาพระองค์ท่านให้ได้ พอได้เข้าไปด้านในพระที่นั่ง รู้สึกทั้งเศร้า และตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ที่เปิดโอกาสให้พสกนิกรคนธรรมดาได้เข้าไปกราบสักการะในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้ใกล้ชิดขนาดนี้

“ลูกสาวยังเล็กมากเขาอาจยังไม่รู้ว่าในหลวงองค์นี้ทำอะไรให้เราบ้าง แต่บอกเขาตลอดตั้งแต่จำความได้ว่าคนในรูปนี้ คือ พระเจ้าอยู่หัวนะ เขาจะคอยถามว่าในหลวงอยู่ที่ไหน วันนี้พามาเขาก็ถามว่าพระองค์อยู่ที่ไหน เราชี้บอกว่าตอนนี้ท่านอยู่ในนี้นะ ในพระบรมโกศ และชี้มาที่หัวใจเราว่าท่านก็อยู่ในนี้ด้วย อย่างน้อยลูกก็ได้รู้ว่าตัวเองเกิดในรัชกาลที่ ๙ ในอนาคตจะพยายามเล่าเรื่องราวของพระองค์ท่านให้ลูกเข้าใจ ปฏิบัติตนอย่างพอเพียงเป็นตัวอย่าง สอนให้ลูกนำไปใช้ เมื่อก่อนเราทำงานกรุงเทพฯ มา 20 กว่าปี พอกลับไปอยู่บ้านเกิดพะเยา 4 ปี เราเข้าใจคำว่าพอเพียงที่ทรงคอยสอนคนไทยมากๆ ตอนนี้อยู่บ้าน ทำไร่ ปลูกผักเล็กน้อยๆ พอมีพอกิน มีความสุขมากกว่าตื่นเช้า ฝ่ารถติดไปทำงานหาเงินให้ได้เยอะหลายเท่า” นางรุ่งทิพย์ กล่าว

ด้านสองพี่น้องจากจังหวัดพัทลุง นางสาวกนกวรรณ จันหวดี อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหานโพธิ์พิทยาคม จังหวัดพัทลุง และพี่สาว นางสาวปิยะนุช จันหวดี อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า ทราบว่า สำนักพระราชวังเปิดให้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ แต่ไม่คิดว่าจะได้กราบใกล้มากขนาดนั้น ได้หยุดมองพระบรมโกศ นับว่าเป็นบุญของพวกเราที่อยู่ในต่างจังหวัดห่างไกล โดยมารดาที่อยู่จังหวัดพัทลุง ก็อยากจะมากราบสักการะพระบรมศพมาก แต่ไม่สบายเดินทางมาไม่ได้

นางสาวกนกวรรณ บอกด้วยว่า พวกเราเกิดมาก็เห็นพระองค์ท่านทรงงานแล้ว เสด็จฯ ไปในทุกที่ที่มีราษฎรของพระองค์ท่านอยู่ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ลำบากตามถิ่นทุรกันดาร ประทับใจในเรื่องของความประหยัด ที่พระองค์ทรงใช้ยาสีพระทนต์จนหมดหลอด โดยครอบครัวเราได้ดำเนินตามรอยพระองค์ท่านในด้านเศรษฐกิจพอเพียง จัดสรรพื้นที่การเกษตรด้วยการปลูกผักแบบผสมผสาน กินเอง แจกจ่าย เหลือก็นำไปขาย

ขณะที่ นางประทอง ม่วงเพชร อายุ 60 ปี พสกนิกรที่เดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเดินทางมากราบสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระบรมโกศ เผยพร้อมน้ำตาคลอว่า รักพระองค์ท่านมาก รักจนไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกอย่างไรดี ทุกครั้งที่มองพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระองค์ท่านที่มีอยู่ที่บ้าน น้ำตาไหลตลอด นึกถึงตอนที่พระองค์ท่านลุยน้ำ ลุยโคลน เพื่อไปช่วยเหลือประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ภาพแบบนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว ในวันที่ 13 ตุลาคม ที่รู้ข่าวทรงสวรรคต ร้องไห้แบบไม่อายใคร ด้วยความโศกเศร้า กินไม่ได้ นอนไม่หลับ วันนี้จึงตั้งใจมาสักการะท่านด้วยใจตั้งมั่น และจะทำตามคำสอนของพ่อหลวงด้วยการคิดดี ทำดี และจะสอนลูกให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง
สองพี่น้องจาก จังหวัดพัทลุง นางสาวกนกวรรณ จันหวดี และ นางสาวปิยะนุช จันหวดี
นางประทอง ม่วงเพชร อายุ 60 ปี พสกนิกรที่เดินทางมาจาก จังหวัดขอนแก่น
กำลังโหลดความคิดเห็น