อ่างทอง - สมาชิกสภาเทศบาลตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี แต่งชุดข้าราชการ พร้อมเพื่อน 2 คน เดินเท้าจากศาลหลักเมืองสิงห์บุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระบรมมหาราชวัง ขณะที่ 2 สาวชาวกำแพงเพชร ที่ปั่นจักรยานเข้ากรุง กับคุณตาวัย 74 ปี ชาวสวนพิจิตร ที่เดินเท้าเดินทางถึงอ่างทองมุ่งหน้าเข้าอยุธยา เพื่อไปกราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่พระบรมมหาราชวังแล้ว
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (8 พ.ย.) นายเชนทร์ คนชาน อายุ 30 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี และนายวิชชุกรณ์ อ่อนธุรี อายุ 25 ปี ประชาชนอยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ที่ 2 ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้ร่วมกันออกเดินทางโดยการเดินเท้าออกจากศาลหลักเมืองจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ มุ่งหน้าสู่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย ผ่านอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เข้าสู่อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) จะเข้าสู่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ทันกำหนดการในวันที่ 10 พ.ย.ที่จะถึงนี้
นายเชนทร์ กล่าวว่า ตนและเพื่อนถือว่าเป็นคนไทยที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตนและเพื่อนจึงได้ชวนกันเดินเท้าเริ่มต้นจากศาลหลักเมืองจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อมุ่งหน้าไปที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อกราบถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ
ส่วนเหตุผลที่ตนใส่ชุดข้าราชการเดินครั้งนี้ เพราะเคยอ่านพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตรัสไว้แก่ข้าราชการว่า “ข้าราชการนั้นให้ตั้งใจทำงาน ยึดถือประโยชน์ของงานของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดประโยชน์ส่วนตัวเห็นแก่บำเหน็จบำนาญเห็นแก่ความชอบ ถ้าเราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมทำงานเพื่อประชาชนแล้ว ประเทศของเราก็จะพัฒนาต่อไป และอยู่อย่างสงบสุข”
“ที่ผมใส่ชุดข้าราชการเดินในครั้งนี้เพื่อให้เห็นว่าผมและเพื่อนใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่วันในชุดข้าราชการยังรู้สึกเหนื่อย และอ่อนล้ามาก แต่พระองค์ท่านใส่ชุดข้าราชการทรงเสด็จพระราชดำเนินไปในถิ่นทุรกันดาร ทรงตรากตรำพระวรกายเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยมากว่า 70 ปี ที่ทรงครองราชย์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผมยังไม่ได้เศษเสี้ยวของพระองค์ท่านแม้แต่น้อย ซึ่งผมจะขอทำความดี และจะขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป”
คุณตาวัย 74 ชาวสวนพิจิตร กับ 2 สาวชาวกำแพงเพชรเดินเท้าถึงอ่างทองแล้ว
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.30 น. นายพลอย บุญเพชร์ อายุ 74 ปี ชาวสวนบ้านเลขที่ 30 หมู่ 16 ตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย น.ส.เยาวเรศ ศรีนุสิทธิ์ อายุ 58 ปี ชาวบ้านเลขที่ 79 ถนนร่วมมิตร ตำบลในเมือง อำเภอกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร และ น.ส.สีนวน น้ำจันทร์ อายุ 57 ปี ชาวบ้านเลขที่ 92 ถนนร่วมมิตร ตำบลในเมือง อำเภอกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางผ่านจังหวัดอ่างทอง มุ่งหน้าสู่จังหวัดอยุธยาแล้ว เพื่อไปถวายสักการะ และแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง โดยมีทหารรักษาความสงบอำเภอไชโย ให้การดูแลระหว่างผ่านเส้นทาง
นายพลอย กล่าวว่า ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงออกเดินทางด้วยเท้าจากอำเภอโพธิ์ประทับช้าง เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และกราบพระบรมศพ ที่พระบรมมหาราชวัง และมาพบกับ น.ส.เยาวเรศ และ น.ส.สีนวน 2 สาวชาวจังหวัดกำแพงเพชร ที่ปั่นจักรยานมาระหว่างทาง จึงได้ร่วมเดินทางมาด้วย
ส่วน น.ส.เยาวเรศ และ น.ส.สีนวน กล่าวว่า ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น จึงอยากจะเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่พระบรมมหาราชวัง จึงได้เริ่มปั่นจักรยานจากจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมาด้วยกัน 2 คน เพื่อเข้ากรุงเทพฯ และมาพบกับ นายพลอย ที่บริเวณจังหวัดอ่างทอง จึงได้ร่วมเดินทางมาพร้อมกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ไปกราบสักการะพระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่พระบรมมหาราชวัง ที่กรุงเทพฯ เพื่อถวายสักการะ และแสดงความอาลัย