เพราะความรักความชอบตัวการ์ตูนและของเล่นจากหนังเรื่องต่างๆ ที่ประทับใจ จนกลายมาเป็นของสะสมนับแสนชิ้น ถึงขั้นต้องสร้างพิพิธภัณฑ์ไว้เก็บ พร้อมแบ่งปันความสุขแก่ผู้อื่นที่ชื่นชอบ ด้วย “ตูนนี่ ทอย มิวเซียม”
สมพร โพธิ์อยู่ และภรรยา เจ้าของอาณาจักรพิพิธภัณฑ์ของเล่น "ตูนนี่ ทอย มิวเซียม" (TOONEY TOY MUSEUM) ที่ถ้ากินเนสส์บุ๊กมาเห็น อาจจะรีบจดสถิติก็ได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพราะพิพิธภัณฑ์ของเล่นแห่งนี้ได้รวบรวมของสะสมจากการ์ตูนและภาพยนตร์แสนกว่าชิ้นมาตั้งไว้ให้คนได้เยี่ยมชม

• คุณสมพรมาหลงรักการสะสมของเล่นพวกนี้ตอนไหนอย่างไรคะ
ย้อนให้ฟังนิดหน่อยครับว่า ในวัยเด็ก ผมไม่ค่อยมีของเล่นอะไร ส่วนใหญ่ก็ทำขึ้นมาเองแบบเด็กชนบท แต่เมื่อผมมีครอบครัว และภรรยาก็ชอบตุ๊กตามาก เขาบอกเสมอว่า Love me love my doll รักเค้าก็ต้องรักตุ๊กตาของเล่นด้วยนะ (หัวเราะ) ก็เลยอยู่กับตุ๊กตามานานและชอบสะสมของเล่นพวกตุ๊กตามิกกี้เมาส์ เพราะรู้สึกว่าสวยดีครับ และมีความสุข หายเครียดเมื่อเห็นเขา จนมีลูกชายก็เริ่มซื้อของเล่นให้ลูกชาย แล้วก็เห็นพัฒนาการของลูกๆ เมื่อเขาได้ของเล่น รู้สึกเหมือนเขามีความสุข พลอยทำให้เรามีความสุขไปด้วย และรู้สึกว่าเด็กมีพัฒนาการเรื่องความคิดสร้างสรรค์ดี เราก็เลยสนุกกับของเล่นไปด้วย จากหนึ่งชิ้นก็กลายเป็นร้อยชิ้นพันชิ้น จนปัจจุบันมีแสนกว่าชิ้น บอกเขาว่าทุกชิ้นมีคุณค่า ลูกเล่นแล้วต้องเก็บรักษาใว้ให้ดี ทุกที่ที่เราไปเที่ยวก็เก็บอดีตมันไว้ด้วยของเล่นที่ซื้อกลับมา กลายเป็นว่าครอบครัวเราไปที่ใหนจะต้องเอาของเล่นตุ๊กตาจากทั่วโลกกลับมาด้วยทุกครั้ง แม้แต่การไปดูหนังทุกครั้ง เราก็จะเก็บแก้วเครื่องดื่มที่ทำเป็นที่ระลึกไว้ทุกเรื่องครับ
ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เราตามหาและซื้อตลอดครับ แต่เราไม่ตามแบบทุรนทุรายที่จะต้องได้มานะครับ คือเจอก็ซื้อ ไม่เจอก็ไม่เป็นไร ไม่มีเงินก็หยุดซื้อ เราหาความสุขตั้งแต่ตอนซื้อ ลูกชายคนเล็กเขาชอบหุ่นกันดั้ม เวลามีเทศกาลที่ญี่ปุ่นหรือในไทย เราก็จะไปเที่ยวหาซื้อ ลูกคนกลางเขาชอบพวกการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน แต่เราจะสอนทุกคนว่าของพวกนี้มีคุณค่าและสวยงาม กว่าจะถูกออกแบบผลิตมาแต่ละชิ้น มันต้องผ่านนักออกแบบ การสะสมต้องทำอย่างดี อย่าเล่นให้เสียหาย และอีกอย่างการที่เราบริโภคหรือสัมผัสของเล่นเหล่านี้ทำให้ลูกๆ ได้ซึมซับไปในตัว เป็นการเสริมมุมคิดทางการทำงานในอนาคตได้ อย่าลืมว่าโลกในอนาคตแข่งขันกันด้วยความคิดสร้างสรรค์ครับ ในของเล่นมีศาสตร์หลายด้านผสมผสานอยู่ เช่น เรื่องสตาร์วอร์ส มันเป็นเรื่องในอนาคตที่หลายอย่างเกิดขึ้นได้จริง ยานพาหนะ อาวุธ หุ่นยนต์ มันเป็นจินตนาการอนาคต



• แล้วมาเริ่มทำ “ตูนนี่ ทอย มิวเซียม” ตอนไหนคะ
คือก่อนหน้านั้น เราโชว์ใว้ที่บ้านครับ แบบเป็นสิ่งประดับบ้าน แต่ก็มีเพื่อนลูกๆ มาชมบ่อย และมีอยู่ครั้งหนึ่ง มีผู้ใหญ่และเด็กมาชมแล้ว ดูเขาอึ้งและไม่ยอมกลับบ้าน ดูแบบมีความสุข เราก็เลยคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้คนทั่วไปได้จริงๆ ไม่ใช่แต่ครอบครัวของเราเท่านั้นที่ชอบ และคงมีเด็กและผู้ใหญ่อีกเป็นล้านคนที่ชอบ แต่ไม่มีโอกาสซื้อได้มากขนาดนี้ เพราะต้องใช้เวลากว่ายี่สิบปี เราก็เลยคิดว่าควรจะเปิดให้ชมทั่วไปและกระจายความสุขจะดีกว่า เราก็มีความสุขเพิ่มขึ้นอีกที่เห็นคนอื่นมีความสุข ผมก็เลยเริ่มสร้างและเปิดเมื่อ 19 กรกฎาคม 2557 ครับ
• อยากให้ช่วยเล่าสักหน่อยค่ะ ถึงของเล่นที่นำมาแสดงภายในพิพิธภัณฑ์นี้
ของสะสมที่เรามี เป็นสิ่งที่เรารักและหวงมากครับ เราจะจัดเป็นระเบียบและอยู่ในห้องแอร์ทั้งหมด ภายในพื้นที่ 800 ตร.ม. เราจะแบ่งเป็นโซนๆ ครับ มีตั้งแต่โซนหุ่นยนต์ครบทุกปีตั้งแต่ปี 1980 จนยุคปัจจุบันหุ่นกันดั้มเรามีเป็นหมื่นชิ้นครับ และมีโซนมิกกี้เมาส์ที่เราสะสมใว้ 8,000 กว่าชิ้น ที่สถิติโลกคือ 6,000 กว่าชิ้นที่กินเนสส์บุ๊กบันทึกไว้ของชาวสหรัฐฯ แต่ของเรายังไม่ได้บันทึกเป็นทางการซึ่งมีมากกว่าเขาเสียอีก นอกจากนั้นก็มีโซนตุ๊กตาเจ้าหญิง โซนสตาร์วอร์สและหนังดังๆ เช่น ไอรอนแมน กัปตันอเมริกา หนังพวกชูเปอร์ฮีโร่ทั้งหมดครับ และโซนกิจกรรมวาดรูปที่ให้เด็กวาดลงจอคอมพิวเตอร์ กิจกรรมเราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทุกเพศทุกวัย ที่นี่นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังมีส่วนของคาเฟ่ที่ขายเครื่องดื่ม กาแฟ โกโก้ ชา น้ำอัดลม ไว้บริการ และยังมีส่วนของ Toy Shop ร้านขายของที่ระลึก ลิมิเต็ด อิดิชัน ให้แฟนๆ ของเล่นได้นำติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วยครับ



• ทราบว่าคุณสมพรเคยไปชมพิพิธภัณฑ์ของเล่นในต่างประเทศมาแล้วหลายที่ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ
ในย่านเอเชียเรา ก็มีที่สิงคโปร์ครับ แต่ก็เป็นตึกแถว 4 ชั้น ห้องเดียว เขาจะสะสมของเก่ามาก แต่พวกร่วมสมัย สู้เราไม่ได้ครับ ที่ปีนังก็ธรรมดามากครับ เหมือนโกดังของเล่นมากกว่า ที่นี่มีคนจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกงมาบ่อยครับ เขาก็ไม่คิดว่าที่เมืองไทยจะดีขนาดนี้ จำนวนชิ้นเราและภาพรวมเราไม่แพ้ใครในย่านนี้ครับ คือของเราหลากหลายและร่วมสมัยมากกว่าครับ
• คุณสมพรมีแผนที่จะพัฒนาพิพิธภัณฑ์ “ตูนนี่ ทอย มิวเซียม” อย่างไรบ้างคะ
ความตั้งใจจริงๆ ของเราไม่ได้คิดเรื่องธุรกิจเป็นหลัก เพราะเรามีงานอื่นอยู่แล้ว แต่เราอยากให้ที่นี่เป็นมิวเซียมที่อยู่คู่เมืองไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนที่มาเมืองไทยต้องมาดู และภูมิใจที่ได้สร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มอีกแห่ง อนาคตของเราจะขยายไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบครับ เพราะที่ผ่านมา เราเอาเงินค่าชมไปซื้อของสะสมและขยายพื้นที่เรื่อยๆ ในอนาคตแอบคิดใว้ในใจนะครับว่าเราจะต้องติดอันดับโลกเรื่อง Toy Museum ให้ได้ครับ คือต้องมี Tooney Toy Museum ในแผนที่โลกครับ การทำมิวเซียมต้องใช้เวลามาก เพราะบางอย่างเรามีเงิน แต่ไม่สามารถซื้อของสะสมได้ แต่ครอบครัวเราก็จะปลูกฝังให้ทุกคนรักและหวงแหนในการสร้างงานมิวเซียมนี้ต่อไปเรื่อยๆ ครับ และมีคนไทยใจดีหลายท่านครับที่เอาของเล่นมาให้เราสะสม


• เห็นว่า “ตูนนี่ ทอย มิวเซียม” ได้เข้าร่วมกับบัตรมิวสพาส (MUSE PASS) ด้วยใช่ไหมคะ
บัตรมิวสพาสที่ตูนนี่ได้เข้าร่วมเป็นน้องใหม่ในปีนี้ เป็นบัตรที่น่าสนใจ เพราะว่าผลตอบรับจากท่านผู้ชมรู้สึกชอบและแฮปปี้มากที่นำบัตรมิวสพาสมาขาย เพราะแนวโน้มตอนนี้ คนที่เที่ยวจะเป็นกลุ่มครอบครัวที่ทุกเสาร์อาทิตย์จะต้องออกจากบ้านและเบื่อการเที่ยวห้าง แต่ถ้ามีบัตรมิวสพาสใบเดียวที่ขายในราคา 199 บาท เท่านั้นก็สามารถเที่ยวได้ถึง 40 กว่าแห่ง ทำให้รู้สึกคุ้มค่า ในส่วนของ ตูนนี่ ทอย มิวเซียม เองก็มีลูกค้ากลุ่มนี้มาเพิ่ม เป็นการแชร์ลูกค้าจากมิวเซียมอื่นและลูกค้าจากตูนนี่ก็ได้แชร์ลูกค้าไปที่อื่นด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันอีกทางหนึ่งด้วย มีลูกค้าหลายท่านพูดถึงมิวเซียมในเมืองไทยว่าเราน่าจะมีบัตรมิวสพาสนี้ตั้งนานแล้ว สิทธิพิเศษก็น่าจะขยายเพิ่มขึ้นต่อไปอีก แต่เท่าที่มี 40 กว่าแห่งในราคา 199 บาท ลูกค้าก็ชอบแล้ว แต่ก็ยังมีหลายท่านที่ยังไม่ทราบว่ามีบัตรมิวสพาสขายอยู่ แต่เชื่อว่าแนวโน้มในปีนี้และปีต่อๆ ไป ถ้าโครงการบัตรมิวสพาสยังคงอยู่ เชื่อว่ายอดขายคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การเข้าร่วมของเราในปีแรกรู้สึกโอเคเลย เพราะได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และลูกค้าก็ยินดีที่จะไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์อื่นๆ อีกด้วย



• สุดท้าย คุณสมพรอยากฝากอะไรถึงผู้ที่สนใจจะมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทยบ้างคะ
อยากเรียนว่า ยังมีชาวต่างชาติที่บินมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทย ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าเครื่องบินก็ยังมาชม อย่างที่ตูนนี่ ทอย มิวเซียม คนฮ่องกง จีน คนญี่ปุ่น และคนสิงคโปร์ก็ยังบินมาชมและมีโปรแกรมเที่ยวที่อื่นๆ อยู่ เราคนไทยเองตอนนี้ที่มิวเซียมหลายแห่ง เช่น มิวเซียมสยาม, ตูนนี่ ทอย มิวเซียม, พิพิธภัณฑ์ริบลีส์, พิพิธภัณฑ์ที่ศิริราช ฯลฯ เป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่เหมือนที่ใดในโลก ค่าเข้าชม 199 บาท ท่านพาลูกพาหลานมาชมถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะว่าการมาชมมิวเซียมในปัจจุบันจะไม่เหมือนในอดีต มิวเซียมปัจจุบันถูกยกระดับขึ้นมาในการโชว์สิ่งที่น่าสนใจ ไอเดีย เป็นแหล่งสร้างสรรค์จินตนาการให้กับผู้ชม เพราะฉะนั้น การพาลูกพาหลานมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทย เป็นอะไรที่ได้ประโยชน์ครับ






สมพร โพธิ์อยู่ และภรรยา เจ้าของอาณาจักรพิพิธภัณฑ์ของเล่น "ตูนนี่ ทอย มิวเซียม" (TOONEY TOY MUSEUM) ที่ถ้ากินเนสส์บุ๊กมาเห็น อาจจะรีบจดสถิติก็ได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพราะพิพิธภัณฑ์ของเล่นแห่งนี้ได้รวบรวมของสะสมจากการ์ตูนและภาพยนตร์แสนกว่าชิ้นมาตั้งไว้ให้คนได้เยี่ยมชม
• คุณสมพรมาหลงรักการสะสมของเล่นพวกนี้ตอนไหนอย่างไรคะ
ย้อนให้ฟังนิดหน่อยครับว่า ในวัยเด็ก ผมไม่ค่อยมีของเล่นอะไร ส่วนใหญ่ก็ทำขึ้นมาเองแบบเด็กชนบท แต่เมื่อผมมีครอบครัว และภรรยาก็ชอบตุ๊กตามาก เขาบอกเสมอว่า Love me love my doll รักเค้าก็ต้องรักตุ๊กตาของเล่นด้วยนะ (หัวเราะ) ก็เลยอยู่กับตุ๊กตามานานและชอบสะสมของเล่นพวกตุ๊กตามิกกี้เมาส์ เพราะรู้สึกว่าสวยดีครับ และมีความสุข หายเครียดเมื่อเห็นเขา จนมีลูกชายก็เริ่มซื้อของเล่นให้ลูกชาย แล้วก็เห็นพัฒนาการของลูกๆ เมื่อเขาได้ของเล่น รู้สึกเหมือนเขามีความสุข พลอยทำให้เรามีความสุขไปด้วย และรู้สึกว่าเด็กมีพัฒนาการเรื่องความคิดสร้างสรรค์ดี เราก็เลยสนุกกับของเล่นไปด้วย จากหนึ่งชิ้นก็กลายเป็นร้อยชิ้นพันชิ้น จนปัจจุบันมีแสนกว่าชิ้น บอกเขาว่าทุกชิ้นมีคุณค่า ลูกเล่นแล้วต้องเก็บรักษาใว้ให้ดี ทุกที่ที่เราไปเที่ยวก็เก็บอดีตมันไว้ด้วยของเล่นที่ซื้อกลับมา กลายเป็นว่าครอบครัวเราไปที่ใหนจะต้องเอาของเล่นตุ๊กตาจากทั่วโลกกลับมาด้วยทุกครั้ง แม้แต่การไปดูหนังทุกครั้ง เราก็จะเก็บแก้วเครื่องดื่มที่ทำเป็นที่ระลึกไว้ทุกเรื่องครับ
ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เราตามหาและซื้อตลอดครับ แต่เราไม่ตามแบบทุรนทุรายที่จะต้องได้มานะครับ คือเจอก็ซื้อ ไม่เจอก็ไม่เป็นไร ไม่มีเงินก็หยุดซื้อ เราหาความสุขตั้งแต่ตอนซื้อ ลูกชายคนเล็กเขาชอบหุ่นกันดั้ม เวลามีเทศกาลที่ญี่ปุ่นหรือในไทย เราก็จะไปเที่ยวหาซื้อ ลูกคนกลางเขาชอบพวกการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน แต่เราจะสอนทุกคนว่าของพวกนี้มีคุณค่าและสวยงาม กว่าจะถูกออกแบบผลิตมาแต่ละชิ้น มันต้องผ่านนักออกแบบ การสะสมต้องทำอย่างดี อย่าเล่นให้เสียหาย และอีกอย่างการที่เราบริโภคหรือสัมผัสของเล่นเหล่านี้ทำให้ลูกๆ ได้ซึมซับไปในตัว เป็นการเสริมมุมคิดทางการทำงานในอนาคตได้ อย่าลืมว่าโลกในอนาคตแข่งขันกันด้วยความคิดสร้างสรรค์ครับ ในของเล่นมีศาสตร์หลายด้านผสมผสานอยู่ เช่น เรื่องสตาร์วอร์ส มันเป็นเรื่องในอนาคตที่หลายอย่างเกิดขึ้นได้จริง ยานพาหนะ อาวุธ หุ่นยนต์ มันเป็นจินตนาการอนาคต
• แล้วมาเริ่มทำ “ตูนนี่ ทอย มิวเซียม” ตอนไหนคะ
คือก่อนหน้านั้น เราโชว์ใว้ที่บ้านครับ แบบเป็นสิ่งประดับบ้าน แต่ก็มีเพื่อนลูกๆ มาชมบ่อย และมีอยู่ครั้งหนึ่ง มีผู้ใหญ่และเด็กมาชมแล้ว ดูเขาอึ้งและไม่ยอมกลับบ้าน ดูแบบมีความสุข เราก็เลยคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้คนทั่วไปได้จริงๆ ไม่ใช่แต่ครอบครัวของเราเท่านั้นที่ชอบ และคงมีเด็กและผู้ใหญ่อีกเป็นล้านคนที่ชอบ แต่ไม่มีโอกาสซื้อได้มากขนาดนี้ เพราะต้องใช้เวลากว่ายี่สิบปี เราก็เลยคิดว่าควรจะเปิดให้ชมทั่วไปและกระจายความสุขจะดีกว่า เราก็มีความสุขเพิ่มขึ้นอีกที่เห็นคนอื่นมีความสุข ผมก็เลยเริ่มสร้างและเปิดเมื่อ 19 กรกฎาคม 2557 ครับ
• อยากให้ช่วยเล่าสักหน่อยค่ะ ถึงของเล่นที่นำมาแสดงภายในพิพิธภัณฑ์นี้
ของสะสมที่เรามี เป็นสิ่งที่เรารักและหวงมากครับ เราจะจัดเป็นระเบียบและอยู่ในห้องแอร์ทั้งหมด ภายในพื้นที่ 800 ตร.ม. เราจะแบ่งเป็นโซนๆ ครับ มีตั้งแต่โซนหุ่นยนต์ครบทุกปีตั้งแต่ปี 1980 จนยุคปัจจุบันหุ่นกันดั้มเรามีเป็นหมื่นชิ้นครับ และมีโซนมิกกี้เมาส์ที่เราสะสมใว้ 8,000 กว่าชิ้น ที่สถิติโลกคือ 6,000 กว่าชิ้นที่กินเนสส์บุ๊กบันทึกไว้ของชาวสหรัฐฯ แต่ของเรายังไม่ได้บันทึกเป็นทางการซึ่งมีมากกว่าเขาเสียอีก นอกจากนั้นก็มีโซนตุ๊กตาเจ้าหญิง โซนสตาร์วอร์สและหนังดังๆ เช่น ไอรอนแมน กัปตันอเมริกา หนังพวกชูเปอร์ฮีโร่ทั้งหมดครับ และโซนกิจกรรมวาดรูปที่ให้เด็กวาดลงจอคอมพิวเตอร์ กิจกรรมเราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทุกเพศทุกวัย ที่นี่นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังมีส่วนของคาเฟ่ที่ขายเครื่องดื่ม กาแฟ โกโก้ ชา น้ำอัดลม ไว้บริการ และยังมีส่วนของ Toy Shop ร้านขายของที่ระลึก ลิมิเต็ด อิดิชัน ให้แฟนๆ ของเล่นได้นำติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วยครับ
• ทราบว่าคุณสมพรเคยไปชมพิพิธภัณฑ์ของเล่นในต่างประเทศมาแล้วหลายที่ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ
ในย่านเอเชียเรา ก็มีที่สิงคโปร์ครับ แต่ก็เป็นตึกแถว 4 ชั้น ห้องเดียว เขาจะสะสมของเก่ามาก แต่พวกร่วมสมัย สู้เราไม่ได้ครับ ที่ปีนังก็ธรรมดามากครับ เหมือนโกดังของเล่นมากกว่า ที่นี่มีคนจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกงมาบ่อยครับ เขาก็ไม่คิดว่าที่เมืองไทยจะดีขนาดนี้ จำนวนชิ้นเราและภาพรวมเราไม่แพ้ใครในย่านนี้ครับ คือของเราหลากหลายและร่วมสมัยมากกว่าครับ
• คุณสมพรมีแผนที่จะพัฒนาพิพิธภัณฑ์ “ตูนนี่ ทอย มิวเซียม” อย่างไรบ้างคะ
ความตั้งใจจริงๆ ของเราไม่ได้คิดเรื่องธุรกิจเป็นหลัก เพราะเรามีงานอื่นอยู่แล้ว แต่เราอยากให้ที่นี่เป็นมิวเซียมที่อยู่คู่เมืองไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนที่มาเมืองไทยต้องมาดู และภูมิใจที่ได้สร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มอีกแห่ง อนาคตของเราจะขยายไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบครับ เพราะที่ผ่านมา เราเอาเงินค่าชมไปซื้อของสะสมและขยายพื้นที่เรื่อยๆ ในอนาคตแอบคิดใว้ในใจนะครับว่าเราจะต้องติดอันดับโลกเรื่อง Toy Museum ให้ได้ครับ คือต้องมี Tooney Toy Museum ในแผนที่โลกครับ การทำมิวเซียมต้องใช้เวลามาก เพราะบางอย่างเรามีเงิน แต่ไม่สามารถซื้อของสะสมได้ แต่ครอบครัวเราก็จะปลูกฝังให้ทุกคนรักและหวงแหนในการสร้างงานมิวเซียมนี้ต่อไปเรื่อยๆ ครับ และมีคนไทยใจดีหลายท่านครับที่เอาของเล่นมาให้เราสะสม
• เห็นว่า “ตูนนี่ ทอย มิวเซียม” ได้เข้าร่วมกับบัตรมิวสพาส (MUSE PASS) ด้วยใช่ไหมคะ
บัตรมิวสพาสที่ตูนนี่ได้เข้าร่วมเป็นน้องใหม่ในปีนี้ เป็นบัตรที่น่าสนใจ เพราะว่าผลตอบรับจากท่านผู้ชมรู้สึกชอบและแฮปปี้มากที่นำบัตรมิวสพาสมาขาย เพราะแนวโน้มตอนนี้ คนที่เที่ยวจะเป็นกลุ่มครอบครัวที่ทุกเสาร์อาทิตย์จะต้องออกจากบ้านและเบื่อการเที่ยวห้าง แต่ถ้ามีบัตรมิวสพาสใบเดียวที่ขายในราคา 199 บาท เท่านั้นก็สามารถเที่ยวได้ถึง 40 กว่าแห่ง ทำให้รู้สึกคุ้มค่า ในส่วนของ ตูนนี่ ทอย มิวเซียม เองก็มีลูกค้ากลุ่มนี้มาเพิ่ม เป็นการแชร์ลูกค้าจากมิวเซียมอื่นและลูกค้าจากตูนนี่ก็ได้แชร์ลูกค้าไปที่อื่นด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันอีกทางหนึ่งด้วย มีลูกค้าหลายท่านพูดถึงมิวเซียมในเมืองไทยว่าเราน่าจะมีบัตรมิวสพาสนี้ตั้งนานแล้ว สิทธิพิเศษก็น่าจะขยายเพิ่มขึ้นต่อไปอีก แต่เท่าที่มี 40 กว่าแห่งในราคา 199 บาท ลูกค้าก็ชอบแล้ว แต่ก็ยังมีหลายท่านที่ยังไม่ทราบว่ามีบัตรมิวสพาสขายอยู่ แต่เชื่อว่าแนวโน้มในปีนี้และปีต่อๆ ไป ถ้าโครงการบัตรมิวสพาสยังคงอยู่ เชื่อว่ายอดขายคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การเข้าร่วมของเราในปีแรกรู้สึกโอเคเลย เพราะได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และลูกค้าก็ยินดีที่จะไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์อื่นๆ อีกด้วย
• สุดท้าย คุณสมพรอยากฝากอะไรถึงผู้ที่สนใจจะมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทยบ้างคะ
อยากเรียนว่า ยังมีชาวต่างชาติที่บินมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทย ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าเครื่องบินก็ยังมาชม อย่างที่ตูนนี่ ทอย มิวเซียม คนฮ่องกง จีน คนญี่ปุ่น และคนสิงคโปร์ก็ยังบินมาชมและมีโปรแกรมเที่ยวที่อื่นๆ อยู่ เราคนไทยเองตอนนี้ที่มิวเซียมหลายแห่ง เช่น มิวเซียมสยาม, ตูนนี่ ทอย มิวเซียม, พิพิธภัณฑ์ริบลีส์, พิพิธภัณฑ์ที่ศิริราช ฯลฯ เป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่เหมือนที่ใดในโลก ค่าเข้าชม 199 บาท ท่านพาลูกพาหลานมาชมถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะว่าการมาชมมิวเซียมในปัจจุบันจะไม่เหมือนในอดีต มิวเซียมปัจจุบันถูกยกระดับขึ้นมาในการโชว์สิ่งที่น่าสนใจ ไอเดีย เป็นแหล่งสร้างสรรค์จินตนาการให้กับผู้ชม เพราะฉะนั้น การพาลูกพาหลานมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทย เป็นอะไรที่ได้ประโยชน์ครับ
ตูนนี่ ทอย มิวเซียม ตั้งอยู่ที่ซอยศรีสมาน 8 ตำบลบ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เปิดเฉพาะวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. แต่ถ้าวันธรรมดามีผู้สนใจจะจัดคณะเข้าชมก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ รวมทั้งการถ่ายภาพพรีเวิดดิ้งหรือโฆษณา เบอร์โทร. 08-6626-9521, 08-0289-6055 หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 0-2961-8597-8 (10.00-18.00) เว็บไซต์ : /http://www.tooneymuseum.com/ หรือ facebook : /tooneymuseum/ |