xs
xsm
sm
md
lg

“น้ำฝน-ลดาวัลย์” เด็กดอยไร้ตัวตน กลายเป็นพริตตี้ เล่นเอ็มวีประเทศพม่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็กดอยที่โดนล้อเรื่องหน้าตามาโดยตลอด สู่การปฏิวัติตัวเอง จนกลายเป็นพริตตี้ พ่วงแสดงเอ็มวีประเทศพม่า พร้อมเปิดธุรกิจความงามเป็นของตัวเอง “น้ำฝน-ลดาวัลย์ หมื่นบุญตัน”

ด้วยฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างยากจน เลยต้องดิ้นรนหางานทำ บวกกับรูปลักษณ์ที่ไม่เข้าตา ทำให้ถูกล้อและไม่มีเพื่อนคบหามาตั้งแต่เด็ก แต่ทั้งหมดนั้นก็เปรียบเสมือนแรงผลักสำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กดอยคนหนึ่งไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ...

เด็กดอยแล้วไง
ทำไมต้องล้อ?

เคยถูกล้อเพียงเพราะเป็นเด็กดอย มีบ้านอยู่บนเขา อีกทั้งรูปลักษณ์ที่อ้วนดำ ทำให้เธอไม่มีเพื่อนคบมาโดยตลอด

“ตอนเด็กๆ น้ำฝนเคยโดนล้อเพราะเป็นเด็กดอย เพราะว่าบ้านน้ำฝนอยู่บนเขา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อีกอย่างตอนเด็กๆ น้ำฝนไม่ได้หน้าตาอย่างนี้นะคะ แถมยังเป็นคนอ้วนและก็ดำอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ทางบ้านยังยากจนอีก เพื่อนๆ ก็จะล้อประมาณว่า อุ๊ย! เด็กดอยมาจากดอย ก็โดนล้อมาเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งที่เขาล้อเลยก็คือ มาจากการที่เราไม่สวย

ส่วนมากเราจะไม่ค่อยมีเพื่อนที่โรงเรียน แล้วเวลาที่มาโรงเรียนเพื่อนก็จะพูดลอยๆ “เด็กดอยๆ” เพราะเราไม่สวยแล้วบ้านเราก็อยู่บนดอย ก็ไม่แน่ใจว่าเขามองเรายังไง ตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนไม่ค่อยมีคนมาคุยด้วย เพราะว่าเราเป็นเด็กดอยและไม่สวย

“ยอมรับว่าเรารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมากเลยนะคะ คือเราก็เป็นคนไทยหรือเปล่าอ่ะ เราก็เป็นคนนะ แค่บ้านเราอยู่บนดอย ทำไมจะต้องมาล้อเราอะไรขนาดนั้นด้วย ยอมรับว่ารู้สึกแย่มาก น้อยใจถึงขั้นที่ว่าทำไมเราจะต้องมาเกิดบนดอย น้อยใจในชีวิตไปหมด”

เด็กอ้วนดำในวันนั้น
สู่เส้นทางพริตตี้ในวันนี้

จากที่โดนล้อเรื่องหน้าตา อีกทั้งฐานะทางบ้านไม่สู้ดี ทำให้เด็กดอยจากอำเภอปายต้องดิ้นรนหางานทำตั้งแต่ยังเด็ก เป็นพนักงานเสิร์ฟ งานแจกใบปลิว และอีกหลายๆ งาน

“ฝนเริ่มทำงานตอนอายุประมาณ 16 ปี เรียกว่าทำงานตั้งแต่ยังเด็กเลย เพราะว่าทางบ้านเราค่อนข้างยากจนมากเลยค่ะ พ่อกับแม่มีอาชีพเป็นเกษตรกร ซึ่งพอเราเริ่มมาเรียนในเมืองแล้วต้องใช้จ่ายเยอะ ไม่มีทุน น้องคนเล็กก็ต้องเรียนหนังสือด้วย ทางบ้านไม่ค่อยมี เราก็เลยต้องดิ้นรนหารายได้ด้วยตัวเอง

“ฝนทำงานทุกอย่างเลยนะ ตั้งแต่เด็กเสิร์ฟยันแจกใบปลิว แล้วก็รับงานเอาของมาขายตามออนไลน์บ้าง หารายได้เสริมทุกอย่าง อะไรที่เป็นเงินทำหมด (ยิ้ม)

“เราได้เป็นพริตตี้จากเริ่มแรกเป็นพนักงานแนะนำสินค้า Product Consultant (PC) ให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่งก่อนค่ะ พอเริ่มผอมลง ทางบริษัทเขาก็เริ่มคัดตัวคนที่หน้าตาดี เราก็อยู่ในระดับปานกลาง ก็เลยโดนคัดไปไว้ร้านที่ค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่ซึ่งเขาจะไม่ค่อยเน้นหน้าตา แต่จะเน้นการขายมากกว่า ซึ่งฝนได้รายได้จากการเป็นพนักงานแนะนำสินค้าวันละ 350 บาท รวมกับทิปส์เล็กๆ น้อยๆ เราก็เก็บไว้ ด้วยที่ว่าเราทำงานกลางคืน แล้วเราไม่ได้ตากแดดอะไรมาก มันก็เลยทำให้ผิวเราดีขึ้น หุ่นก็เริ่มโอเคขึ้น แล้วทีนี้เราก็เริ่มที่จะถ่ายรูปไว้เพื่อที่เวลามีคนยื่นงานมาเราก็ยื่นโปรไฟล์ไป ก็ได้งานมา

 • เรียกว่าการเป็นพริตตี้ เปลี่ยนแปลงชีวิตเราเลยในตอนนั้น?

พูดง่ายๆ ว่าได้เงินเยอะเลยค่ะ แล้วก็ทำงานสบายมากด้วย อย่างน้ำฝนเคยทำงานมาทุกอย่าง อย่างร้านอาหารจะได้เงินน้อยกว่า แต่ว่าพอเป็นพริตตี้ ทำไม่กี่ชั่วโมง ได้เงินเป็นหลักพันเลย แต่จริงๆ ตอนแรกเราไม่ชอบอาชีพนี้เลยนะคะ เพราะน้ำฝนเป็นคนที่แต่งหน้าแต่งตัวไม่เป็นเลย และในวงการพริตตี้มีการแข่งขันกันสูงมาก ซึ่งเราไปอยู่ เราต้องสู้ ต้องไขว้กับผู้หญิงอีกหลายคน เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็คิดว่าเราทำงานเพื่อเงิน ไม่สนใจอะไร แต่ไม่ใช่ว่าวงการพริตตี้จะมีแย่ๆ เสมอไปนะคะ ก็จะมีพวกดีๆ ที่มาให้คำแนะนำเราบ้าง อย่างเช่นว่า ต่อไปนี้ เราต้องแต่งหน้าแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้นะ อะไรทำนองนี้ค่ะ (ยิ้ม)

 • คิดอย่างไรบ้างกับการที่มีคนมองอาชีพพริตตี้ไปในเชิงลบ

ถ้าน้ำฝนไม่ได้มาทำงานเป็นพริตตี้ น้ำฝนก็อาจจะคิดอย่างนั้นนะ แต่พอเราได้มาทำงานตรงนี้ เราก็สังเกตได้ว่างานพริตตี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างภาพลักษณ์ที่ออกไปเลยนะคะ ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและก็ขึ้นอยู่กับงานในแต่ละงานที่จะทำมากกว่า แต่เราไม่ได้มีอคติกับงานพวกนี้นะว่าคนอื่นจะมองเรายังไง น้ำฝนก็เคยโดนมองในแง่ลบนะคะ มันมีอยู่แล้วค่ะ ประมาณว่าเราเป็นพริตตี้ต้องโชว์อย่างนั้นอย่างนี้ ต้องมีเสี่ยเลี้ยงแน่นอนอะไรประมาณนี้ แต่เราไม่ใส่ใจ เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ

 • พอเริ่มเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เริ่มสวยขึ้น เรายังโดนล้ออยู่ไหมคะ

ไม่แล้วค่ะ (ตอบเร็ว) จะมีคนมาให้กำลังใจ จากเมื่อก่อนที่เราโดนล้อ ตอนนี้ก็จะมีแต่คนมาให้กำลังใจเรา แล้วก็จะถามว่าทำยังไงถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ มาขอคำปรึกษา จากคนที่เคยโดนล้อก็จะมาถามเราว่าเราผ่านจุดจุดนี้มาได้ยังไง ส่วนคนที่เคยล้อก็มาขอโทษเราว่าวันนั้นเคยพูดจาทำให้เธอลำบากใจ เปลี่ยนจากคำดูถูกมาเป็นคำชื่นชมแทน (ยิ้ม)

 • เหมือนๆ กับว่า คนเราจะต้องสวยก่อน ถึงจะเป็นที่ยอมรับในสังคม?

น้ำฝนว่าก็จำเป็นส่วนหนึ่งนะคะสำหรับบางอาชีพ อย่างเช่น พริตตี้หรือดารา นักแสดง แต่ถ้างานอื่นเรามีการศึกษาที่ดีเราก็สามารถทำงานได้โดยที่ไม่ต้องใช้ความสวยก็ได้ค่ะ และส่วนหลักๆ คือเราจะต้องมีความรู้ ความสามารถด้วย อย่างน้ำฝนเป็นคนพูดเยอะ เราก็ยังมีตรงนี้เป็นตัวกระตุ้นให้เราประสบความสำเร็จได้ คือความสวยมันก็จำเป็นในระดับหนึ่ง แต่ความสามารถเราก็จะต้องมีด้วย ที่สำคัญเลยคือการทำงาน เราจะต้องจริงจังกับงานทุกงาน ไม่ว่างานนั้นจะเล็กจะใหญ่ขนาดไหน

เป็นนางเอก MV ประเทศพม่า
สร้างแบรนด์สินค้าของตัวเอง

จากพนักงานแนะนำสินค้าให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังได้รายได้หลักร้อยไม่นานก็ถูกทาบทามสู่หนทางการเป็นพริตตี้และก้าวกระโดดมาเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอของประเทศเพื่อนบ้าน เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังมีธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามชื่อแบรนด์ว่า Aura Vite เป็นของตัวเอง นับว่าวันนี้เธอประสบความสำเร็จในชีวิตไปแล้วอีกขั้น

 • เห็นว่าได้ไปเล่นเป็นนางเอกเอ็มวีของประเทศพม่าด้วยใช่ไหมคะ

ใช่ค่ะ คือตอนนั้นที่ไปสมัครเป็น PC ก็มีพี่โปรดิวเซอร์จากบริษัทเล็กๆ ที่เขาคอยรับจัดละคร เขาก็มาดูรูปร่างหน้าตาเราว่าน่าจะใช้ได้ น่าจะมีอนาคต ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อนะคะ เราก็ทำงานเป็น PC หรือพริตตี้ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมาเรื่อยๆ จนเราตัดสินใจที่จะไปทำงานเป็นตัวประกอบกับพี่เขา ทำไปได้ 2-3 เรื่อง ก็เริ่มมีโปรไฟล์ที่ดีขึ้น ก็ได้แคสต์งานผ่านเรื่อยๆ พริตตี้โตโยต้า พริตตี้อะไรเราก็รับ แล้วพอโปรไฟล์เราดี ก็เริ่มมีงานเข้ามาเยอะขึ้น เลยมีเพื่อนของเราที่ได้ไปเล่นเอ็มวีที่พม่ามาแล้วก่อนหน้า เขามาบอกว่าพี่ที่ทำเอ็มวีของทางพม่าถามว่ามีเพื่อนสวยๆ แนะนำไหม ซึ่งเพื่อนก็แนะนำเรา แล้วพอเขาเห็นโปรไฟล์ เขาก็ให้เราลองไปแคสต์ดู และผ่าน ซึ่งจนถึงตอนนี้ มีผลงานไปแล้ว 4 เพลงค่ะ แต่เขาเพิ่งปล่อยมา 2 เพลง

• โกอินเตอร์แล้วใช่ไหม แล้วแบบนี้เราอยากจะเข้าวงการบันเทิงไหมคะ

ยังนะคะ ยังไม่โกอินเตอร์เลย (หัวเราะ) คือที่เราไปเล่นเอ็มวี ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองโกอินเตอร์อะไรนะคะ เรียกว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ อย่างหนึ่งมากกว่าค่ะ แต่จริงๆ น้ำฝนอยากเข้าวงการบันเทิงนะคะ อยากเป็นคนเบื้องหลังด้วย เพราะว่าตอนที่ไปเล่นเป็นตัวประกอบ ก็ได้เจอพี่ๆ ก็ได้ความรู้อะไรมากมายเหมือนกันค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากเข้าวงการบันเทิงค่ะ (ยิ้ม) ตอนนี้น้ำฝนก็เรียนนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาดอยู่แล้วด้วย น่าจะเอามาใช้กับสิ่งที่เราอยากทำได้ด้วย

• อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้ชีวิตก็มาถึงจุดที่ดี

จะว่าไป ชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะคะ เราไม่ได้รบกวนที่บ้าน แถมเรายังส่งเงินกลับไปให้คนที่บ้านอีก ก็เลยดีขึ้นจากเดิมมากๆ แต่ลักษณะการใช้ชีวิตของเราก็เหมือนเดิมนะคะ เป็นคนธรรมดาปกติ ไม่ได้หวือหวาอะไร เราเป็นคนเรียบง่ายอยู่แล้วค่ะ (ยิ้ม)

คิดว่าความสำเร็จของน้ำฝน หนึ่งเลยเพราะครอบครัว เพราะถ้าเราได้เงินเยอะเราก็สามารถดูแลครอบครัวได้ ไม่เดือดร้อนครอบครัว มันก็คือแรงบันดาลใจให้กับเราได้ สอง มาจากการเปรียบเทียบจากตอนที่น้ำฝนอ้วนดำเวลาที่ไปสมัครงานจะไม่ค่อยมีใครอยากรับ แต่พอเราหน้าตาดีขึ้น เราไปสมัครงานเขาก็รีบตอบรับเราเลย ซึ่งมันมีข้อเปรียบเทียบตรงนี้ด้วย ซึ่งเราสามารถลบคำสบประมาทที่ว่าเราเป็นเด็กดอยได้ เพราะถึงเราจะเป็นเด็กดอยแต่เรามาได้ถึงขนาดนี้ (ยิ้ม)

• พอเราผ่านจุดนั้นมาได้ ย้อนกลับไปมองอย่างไรบ้างคะ

ให้แง่คิดมากเลยค่ะ เพราะมันเป็นแรงกระตุ้นให้เรามาถึงจุดนี้ได้ และอีกอย่าง ใครจะมองเรายังไง มันไม่สำคัญเลยในความคิดของน้ำฝนนะ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขามอง เราเป็นคนบนดอยก็จริง แต่ว่าเราก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และตอนนี้ เราอาจจะมีอะไรที่มากกว่าคนที่เขาดูถูกเราก็ได้ค่ะ

• ในฐานะเป็นบุคคลหนึ่งที่เคยผ่านจุดที่สังคมไม่ยอมรับมาก่อน อยากให้พูดถึงคนที่ชอบมองคนอื่นเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกหน่อยค่ะ

มีคนมาถามน้ำฝนเยอะนะคะว่าเขาจะทำยังไงดี เพราะเขาก็โดนล้อ อย่างน้องๆ ที่เป็นชาวเขา เขาจะพูดไม่ค่อยชัด เข้ามาเรียนในเมือง เขาก็โดนล้อนะ คือมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วค่ะ คนเราถูกสอนมาไม่เหมือนกัน ก็เลยบอกไปว่าเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะโกรธเขาหรือว่าเราจะเกลียดเขาตอนที่เขามาล้อเรา แต่เราอย่าไปตอบโต้ เราทำให้เขาเห็นดีกว่าว่าคนที่เขามาล้อเรา แต่กลับอยู่ข้างล่างเรา เรากลับยืนสูงกว่าเขา เราจะมองเห็นเขาได้ง่ายกว่าที่เขาจะมองเห็นเราอย่างนี้ค่ะ ก็ให้กำลังใจเขาไปค่ะ เพราะเราก็เคยเจอมาก่อน

น้ำฝนว่าเราห้ามไม่ได้ว่าจะให้คนมามองเรายังไง หน้าตาดีก็ใช่ว่าเขาจะดีเสมอไป หน้าตาไม่ดีไม่ใช่ว่าเขาจะนิสัยไม่ดีอะไรแบบนี้ค่ะ คนเหมือนกัน ลองมาคุยกันก่อนดีไหม ก่อนที่จะไปดูถูกคนอื่นหรือว่าไปล้อคนอื่นโดยที่ตัวเองยังไม่ดีพอ

• วางแผนในอนาคตไว้ต่อไปอย่างไรบ้างคะ

ตอนนี้ น้ำฝนก็รับจ้างอีเวนต์ทั่วไป และถ้ามีงานแสดงอะไรติดต่อมา ก็รับค่ะ อีกส่วนหนึ่งก็คือทำธุรกิจความสวยความงาม เป็นธุรกิจของเราเลย ซึ่งเราก็ลองผิดลองถูกมาแล้วหลายครั้ง จนได้ทำขึ้นมาขายจริงๆ ชื่อผลิตภัณฑ์ Aura Vite ซึ่งเป็นรายได้เสริมไปอีกทางค่ะ (ยิ้ม)

 









 
Profile

ชื่อ สกุล : ลดาวัลย์ หมื่นบุญตัน
ชื่อเล่น : น้ำฝน
วันเกิด : 14 กรกฎาคม 2536
อายุ : 22 ปี
การศึกษา : คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทิร์น


 

 
เรื่อง : วรัญญา งามขำ, กมลชนก บุญเพ็ง

กำลังโหลดความคิดเห็น