เจ้าพระยาทิพากรวงศ์โกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) นักพงศาวดารคนสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ ได้บันทึกเหตุการณ์สนุกที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๑ ไว้เรื่องหนึ่ง เมื่อ “วังหน้า” สมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล นำทีมแฟนมวยขึ้นเวทีด้วยพระองค์เอง ยำนักมวยฝรั่งพร้อมพี่เลี้ยงที่เล่นนอกกติกาจนหมอบคาพระบาท ต่อพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งประทับทอดพระเนตรมวยคู่สำคัญนี้อยู่ด้วย
เหตุเกิดในปี พ.ศ. ๒๓๓๑ มีเรือกำปั่นสัญชาติฝรั่งเศสลำหนึ่งเข้ามาเยือนกรุงเทพฯ นายกำปั่น ๒ พี่น้องแจ้งกับพระยาพระคลังผู้ดูแลชาวต่างประเทศที่เข้ามาว่า ผู้น้องนั้นเป็นนักมวยฝีมือดี ตระเวนชกมวยพนันมาหลายเมืองแล้ว ที่แวะมาบางกอกก็เพื่อจะขอชกพนันกับนักมวยสยามบ้าง
เมื่อพระยาพระคลังกราบทูลให้ทรงทราบ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงทรงปรึกษาสมเด็จพระอนุชา ซึ่งกรมพระราชวังบวรฯได้กราบทูลว่า
“ครั้นจะไม่แต่งคนมวยออกต่อสู้ด้วยฝรั่ง ฝรั่งเป็นคนต่างประเทศก็จะดูหมิ่นว่า พระนครนี้หาคนมวยดีต่อสู้มิได้ ก็จะเสื่อมเสียพระเกียรติยศปรากฏไปในนานาประเทศ ข้าพระพุทธเจ้าจะขอรับแต่งคนมวยที่มีฝีมือออกต่อสู้กับฝรั่ง เอาชนะให้จงได้”
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเห็นชอบด้วย จึงดำรัสให้พระยาพระคลังบอกกับฝรั่งว่าจะขอรับท้าพนันชกมวย วางเดิมพันเป็นเงิน ๕๐ ชั่ง จากนั้นก็คัดเลือกได้ หมื่นผลาญ รูปร่างกำยำ ฝีมือมวยดีกว่าพวกมวยทั้งสิ้น จากวังหน้านั่นเอง ดำรัสให้เอาเชือกมาขึงเป็นสนามมวยชั่วคราวขึ้นใกล้ๆโรงละครด้านตะวันตกของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมปลูกพลับพลาที่ประทับ
เมื่อถึงวันกำหนดนัด ก็ดำรัสให้เอาน้ำมันว่านอันอยู่ยงคงกะพันชโลมทั่วทั้งตัวหมื่นผลาญ ขึ้นคอคนแห่มาสู่เวที ส่วนนักมวยฝรั่งก็ยกกันมาทั้งลำกำปั่น แห่มาเป็นขบวนใหญ่เช่นกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและกรมพระราชวังบวรฯ ประทับทอดพระเนตรอยู่ในพลับพลา พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และบรรดาข้าราชบริพารพร้อมหน้า รายการนี้นับว่าเป็นมวยคู่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่สร้างกรุงรัตนโกสินทร์มาได้ ๖ ปี
หลังจากนักมวยทั้งคู่กราบถวายบังคมกลางเวทีที่เป็นพื้นสนามแล้ว ก็เข้าโรมรันกันทันที แต่นักมวยฝรั่งที่ว่าฝีมือดีกลับไม่ได้โชว์ชั้นเชิงมวยแต่อย่างใด ตั้งหน้าตั้งตาจะล้วงจับกระดูกไหปลาร้านักมวยไทยหักลูกเดียว แต่เจอเอาน้ำมันว่านชโลมไว้ก็จับไม่ติด โดนนักมวยไทยใช้ยุทธวิธีป้องปัดและชกสกัดขณะที่ถอย ฝ่ายนายกำปั่นผู้พี่เห็นน้องชายจับนักมวยไทยไม่ได้ ซ้ำยังถูกชกอยู่ข้างเดียว จึงไปช่วยเอามือผลักหลังนักมวยไทยไว้ไม่ให้ถอยหนี...
เท่านั้นเองก็ได้เรื่อง!
กรมพระราชวังบวรฯผู้ที่พม่าให้ฉายาว่า “พระยาเสือ” ทอดพระเนตรดังนั้นก็ทรงเต้นผาง ดำรัสว่า...ชกพนันกันตัวต่อตัว ไฉนจึงช่วยกันเป็นสองคนเล่า...ว่าแล้วก็ทรงเผ่นจากพลับพลาตรงไปยังเวที ยกพระบาทถีบนายกำปั่นผู้พี่ที่เล่นตุกติกล้มลง บรรดาแฟนมวยเห็นฝรั่งเล่นนอกกติกาก่อน และเจ้านายลงพระบาทไปแล้ว ก็เลยกรูกันโดยเสด็จเข้ายำฝรั่ง ๒ พี่น้องจนหมอบคาเวทีทั้งคู่ ต้องหามกลับกำปั่น พระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานหมอนวดหมอยาไปรักษาฝรั่ง ๒ พี่น้องถึงกำปั่น จนทุเลาแล้วฝรั่งก็บอกล่ามให้กราบเรียนพระยาพระคลังช่วยกราบทูลถวายบังคมลาด้วย
จากนั้นก็ถอยกำปั่นชักใบออกทะเลไปอย่างระบม.