xs
xsm
sm
md
lg

ว่ากันว่าเธอคือ “อั้ม 2” เดือน-พฤษภา สาวน่ารักผู้มาพร้อมพักตร์แบบอั้ม-พัชราภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 


เขาว่ากันว่า เธอหน้าตาเหมือนซูเปอร์สตาร์ระดับประเทศ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” ถึงกับขนานนามเธอว่าเป็น “อั้ม 2” และจากความเหมือนดังกล่าวนี้ ก็ส่งผลให้งานอีเวนต์ต่างๆ นานา หรือกระทั่งโฆษณาสินค้าต้องการตัวเธอ ซึ่งแว่วๆ ว่า ตัวเลขระดับหกหลักนั่นคือค่าตัวที่เธอได้รับ

อันที่จริง จากคำบอกเล่าของเธอ “เดือน-พฤษภา อุดมศิริกุล” ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแห่งแวดวงดาราบ้านเรา เพราะไม่เพียงจะเข้าวงการมาตั้งแต่เด็กๆ และมีผลงานจำนวนมาก ครั้งหนึ่ง เธอยังเคยได้ถ่ายโฆษณาภาพนิ่งคู่กับพระเอกขวัญใจมหาชนอย่างเคน ธีรเดช ด้วย

เดือน-พฤษภา เป็นใครจริงๆ?
เธอมาเพื่อจะเหมือน “อั้ม” จริงไหม?
เธอรู้สึกนึกคิดอย่างไรกับยุคสมัยที่ภาพลักษณ์ความสวยกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของชีวิต?
และอีกหลากหลายแง่มุม ที่จะทำให้เรารู้จักเธอดียิ่งขึ้น
“อั้ม 2” เขาว่ากันอย่างนั้น...


• ก่อนอื่นขอเริ่มต้นถามก่อนว่าเข้าวงการบันเทิงมาได้อย่างไรคะ

เดือนเริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ (ยิ้ม) น่าจะช่วงตอนเรียนชั้นมัธยมแต่จำไม่ได้ว่าเรียนชั้นอะไร ซึ่งเดือนบังเอิญเจอโมเดลลิ่งซึ่งเขาก็มาชวนให้ไปถ่ายภาพ ถ่ายโปรไฟล์ เป็นอารมณ์เหมือนกับเด็กๆ ทั่วไปเลยค่ะ (ยิ้ม)

ตอนนั้นเดือนจะอยู่ในสายโฆษณาเป็นส่วนใหญ่ จะมีแว้บๆ เล่นโฆษณาตัวนั้น ตัวนี้ จะไม่ได้อยู่ในสายละครเลยค่ะ ส่วนตัวเดือนคิดว่างานโฆษณามันเป็นอะไรที่เข้าถึงง่าย โฆษณาแรกๆ เลยจะเป็นโฆษณาภาพนิ่งค่ะถ่ายกับพี่เคน ธีรเดช

ส่วนเรื่องละครเดือนไม่ได้เซ็นสัญญากับช่องไหนเลยค่ะจะเล่นอยู่กับทั้งสามช่องเลยตอนนี้ มีช่อง 3 (สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3), ช่อง 7 (สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7), ค่ายเอ็กแซ็กท์

อย่างช่อง 7 (สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7) เราเองรู้จักกับพี่ผู้จัดซึ่งพี่เขาก็ให้โอกาสเรียกเราไปแคสติ้ง ส่วนของทางค่ายเอ็กแซ็กท์พี่ทีมงานก็บังเอิญมาเจอเราทางอินสตาแกรมเราก็มีโอกาสได้ไปแคสติ้งเช่นเดียวกันค่ะ

• แล้วส่วนตัวได้ไปสมัครหรือประกวดอะไรเพื่อที่จะผลักดันตัวเองหรือว่าทางบ้านสนับสนุนให้เข้าวงการบ้างหรือเปล่า

เด็กๆ มีค่ะ (ตอบเร็ว) เดือนเคยไปประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ (Miss Teen Thailand) ประกวดเซเว่นทีน (Seventeen) ประกวดแบบตามวัยเพราะส่วนตัวเราชอบอยู่แล้วด้วย (ยิ้ม)

ส่วนคุณพ่อแม่คุณแม่ก็ไม่ได้ผลักดันนะคะเพราะท่านก็เป็นคนธรรมดา ไม่ได้มีเส้นสายในวงการบันเทิงเลย แต่ถ้าเราอยากจะทำอะไรเขาก็จะสนับสนุนนะคะ พาไปส่ง ไปประกวด ซึ่งคุณพ่อกับคุณแม่เขาก็ดีใจนะคะที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักมาตั้งแต่เด็ก

• แสดงว่างานในวงการบันเทิงคือความใฝ่ฝันของเรามาตั้งแต่เด็ก

เดือนใฝ่ฝันที่จะเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็กแล้วนะคะ เราชอบทำกิจกรรม ชอบเต้นมาก แต่จริงๆ แล้วความฝันของเดือนมีหลายอย่างนะ อย่างจิตแพทย์เดือนก็อยากเป็น (หัวเราะ) ซึ่งพอมานึกอีกทีเดือนคิดว่าความสามารถของเราน่าจะมาทางด้านนี้มากกว่า เราชอบร้องรำทำเพลง เราชอบการแสดง เราชอบดูหนัง ดูละคร

ถ้ามีโอกาสนอกจากงานละคร เดือนก็อยากจะเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวนะคะเพราะเราจะได้ไปลอง ไปทำอะไรใหม่ๆ

• ถ้าบอกว่างานในวงการบันเทิงคือส่วนหนึ่งของความฝันมาตั้งแต่ยังเด็ก ตรงนี้เราเลือกเรียนมาทางสายไหนคะ

เดือนจบนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาดมาค่ะ ซึ่งตัวโทเดือนจะเลือกเรียนการแสดง แต่จะพูดไปแล้วอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเราก็จะได้เรียนตัวแอคติ้งค่อนข้างน้อยเพราะส่วนใหญ่เขาจะเน้นไปทางโปรดักชั่นมากกว่า อย่างการแสดงเดือนไม่ได้ไปเรียนเพิ่มนะคะจะเน้นเรียนที่มหาวิทยาลัยนิดๆ หน่อยๆ ซึ่งเราก็จะได้เรียนอยู่ประมาณ 1-2 ตัว ตอนนี้ถ้ามีโอกาสเดือนก็อยากจะเรียนการแสดงนะคะ (ยิ้ม)

• จบมาทางสาขาสื่อสารการตลาด ถามตามตรงว่าเราไม่อยากทำงานตรงสายที่เรียนมาบ้างเหรอคะหรือว่าจะเอาดีทางด้านการแสดงแล้วแน่นอน

จริงๆ ตอนนี้นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วเดือนก็ทำงานประจำอยู่ด้วยนะคะ เราจะทำสองอย่างควบคู่กัน ซึ่งงานประจำของเดือนจะเป็นเลขานุการค่ะเป็นงานคนละแนวกันเลย (หัวเราะ)

• แบบนี้ทำทั้งสองอาชีพเราแบ่งเวลาอย่างไรบ้างคะ

ตรงนี้เดือนจะคุยกับเจ้านายเดือนไว้ก่อนเลยค่ะว่าเรามีงานละครที่จะต้องทำด้วยนะ โอเคว่างานตรงนี้จะเป็นงานที่เรารักแต่เราก็จะแบ่งเวลาด้วยซึ่งเวลาที่มีถ่ายละครเดือนก็จะบอกทางหัวหน้าก่อนเพราะเรามีคิวงานอยู่แล้วในมือด้วย

• ถ้าจะพูดไปแล้วเราชอบงานอะไรมากกว่ากัน

เราชอบงานในวงการอยู่แล้วค่ะ (ตอบเร็ว) แต่ว่าอย่างที่รู้ว่ามันก็ไม่ได้มั่นคง อีกอย่างเราก็ไม่ได้โด่งดังอะไรขนาดนั้น เราก็ต้องมีงานเลี้ยงชีพตัวเอง ซึ่งส่วนตัวเดือนมีความสุขกับทั้งสองงานนะ (ยิ้ม)

จริงๆ ถ้ามันมีโอกาสที่ดีแบบดีมากๆ แน่นอนว่าเดือนจะต้องเลือกงานในวงการแน่ๆ เพราะเราชอบตรงนี้อยู่แล้ว แต่ว่าทุกอย่างมันต้องขึ้นอยู่กับความมั่นคงในชีวิตด้วย

• ตรงนี้เราไม่อยากเอาดีทางด้านใดด้านหนึ่งเหรอคะ ในอนาคตวางแผนชีวิตอย่างไรต่อไปบ้าง เพราะการแสดงก็ใช่ งานเลขานุการก็ชอบ

ถ้าเป็นนางเอก เป็นซูเปอร์สตาร์ งานแน่นๆ เลยมันก็อีกเรื่องหนึ่งแต่ตรงนี้เรายังไม่ได้โด่งดังแค่เรามีโอกาสได้เล่นละครที่เราชอบ แต่อีกด้านหนึ่งเราก็เป็นคนธรรมดาที่ต้องดำรงชีวิต

ความฝันจริงๆ เราก็จะต้องดูด้วยว่าเราก้าวหน้าไปทางไหน ถ้าเราโชคดีก้าวหน้าไปทางวงการ โอเคจุดหนึ่งเราต้องเก็บเงิน วางความมั่นคงในชีวิตเราแล้วแต่ถ้าในวงการเราไปไม่ได้เราได้อยู่แค่นี้เราก็โอเคที่วันนี้เราได้ทำอะไรที่เราชอบ ซึ่งมันวางแพลนล่วงหน้าไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันต้องขึ้นอยู่กับโอกาสเพราะในวงการนี้คู่แข่ง คนที่เขาเก่งกว่าเราก็มีเยอะแยะ เราก็ไม่ได้สวยอะไรขนาดนั้น (หัวเราะ)

ตอนนี้มันก็สามารถทำไปได้ทั้งคู่ คนเป็นดาราก็สามารถทำงานอื่นๆ ได้เหมือนกัน (ยิ้ม)

• งานประจำที่เป็นเลขานุการเราก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ส่วนงานละครเราก็เป็นอีกแบบหนึ่งตรงนี้มีอุปสรรคอะไรบ้างไหมคะ

มีนะคะ อุปสรรคส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของเวลา บางทีเราออกกองเหนื่อยมาก เลิกกองดึกตื่นมาอีกวันเราก็จะเป็นอีกลุคหนึ่ง แต่ว่าเราโชคดีตรงที่เวลาที่เราไปทำงานตรงไหนเราก็จะบอกเขาว่าเรามีงานละครด้วยนะซึ่งเขาก็โอเคตามข้อตกลงของเรา เขาก็เข้าใจเรา

ทั้งสองอาชีพมันก็ยากง่ายต่างกันนะคะ จริงๆ มันสลับกันเลยด้วยนะเพราะเวลาเราเล่นละครเรากลับเป็นตัวของตัวเองมากกว่างานประจำซะอีก (หัวเราะ) เพราะการเป็นเลขานุการเราก็จะต้องทำงานของคนอื่นให้สำเร็จลุล่วงแต่ถ้าเป็นงานการแสดงมันเป็นงานของเราเองเลย เราจะรับผิดชอบตัวเองเลย

• ถามเรื่องงานในวงการบ้าง เห็นบอกว่าไม่ได้เซ็นสัญญากับทางช่องไหนเลย

เป็นแบบนี้มันก็สนุกดีนะคะเพราะเราได้เรียนรู้การทำงานของทุกช่อง กองช่องนี้เป็นอย่างนี้ กองช่องนั้นเป็นอย่างนั้น มันเป็นคนละสไตล์ ซึ่งบทบาทเราก็จะเปลี่ยนไปด้วย

• ถ้าจะพูดถึงงานแสดงสำหรับเราแล้วมันยากไหม

ยากนะคะมันเหมือนง่ายนะแต่มันยากมาก เพราะเราต้องเข้าใจคนที่ไม่ใช่เรา เราต้องไปเรียนรู้ชีวิตคนๆ หนึ่ง ต้องจำบท ต้องลดความตื่นเต้น ต้องดูมุมกล้อง เยอะมาก

• ส่วนใหญ่แล้วเรารับบทเป็นอะไร

รับทุกบทบาทค่ะ แต่จะไม่ได้เป็นบทบาทที่ใหญ่หรือเด่นอะไรขนาดนั้นแต่ไม่ใช่อารมณ์ว่าเดินผ่านเฉยๆ นะคะ ก็จะมีบทพูดแต่เป็นบทตัวละครที่เสริมเข้ามาแต่เราโอเคตรงนี้ เราชอบ เรารับได้ทุกบทอยู่แล้วค่ะ อย่างบางเรื่องเราก็เป็นคนดี บางเรื่องก็ไม่ดี

เราจะไม่เลือกบทนะคะว่าเราอยากรับบทบาทไหนเพราะส่วนตัวเชื่ออยู่แล้วว่าทุกตัวละครมีความสำคัญทุกตัว แต่ถ้ามันมีโอกาสที่ดีก็ดีใจ ซึ่งถ้าเลือกบทได้เดือนคิดว่าเดือนคงไปทางนางร้ายมากกว่าเพราะเราเป็นคนพูดเร็ว พูดชัดเจน แล้วเราไม่สามารถเล่นบทแบบเรียบร้อยคะค่ะได้อะไรแบบนี้ (หัวเราะ) ซึ่งถ้าได้เล่นก็คงต้องทำความเข้าใจพูดให้ช้าลง แต่ถ้าเอาแบบให้เข้ากับตัวเราจริงๆ ก็น่าจะถนัดบทร้ายมากกว่าค่ะ

• อยากเป็นนางร้ายในจอ แล้วนอกจอตัวจริงเราร้ายไหม

ลุคภายนอกหลายคนอาจจะมองว่าเราเป็นคนแรงๆ ดูร้ายๆ เพราะเราค่อนข้างที่จะเป็นตัวของตัวเอง แต่ถ้ารู้จักจริงๆ เราชอบธรรมะนะ เราชอบเข้าวัด ชอบสวดมนต์จะเป็นแนวนั้นมากกว่าค่ะ (หัวเราะ)

 • เมื่อไม่กี่วันก่อนมีข่าวออกมาว่ามีหลายคนมองว่าคุณเดือนหน้าไปละม้ายคล้ายซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างอั้ม พัชราภาตรงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง

คือ...เอาจริงๆ ป่ะตรงนี้เราเกรงใจพี่เขามากๆ เลยนะเพราะพี่เขาสวยมากขนาดนั้น แต่จริงๆ มันก็รู้สึกดีนะคะถ้ามีคนมาชมเราว่าเราหน้าเหมือนพี่อั้มยังไงมันก็ถือว่าเป็นคำชมอยู่แล้วเพราะพี่เขาสวยมาก ถ้าถามเดือนว่ารู้สึกยังไงเดือนตอบได้เลยค่ะว่าเราดีใจ แต่ถ้ามีคนมาบอกว่าเฮ้ย...แกหน้าเหมือนคางคกนี่สิเราก็คงจะนอยด์ (หัวเราะ)

ตรงนี้เดือนก็ไม่ไปตอบว่าไม่หรอกแบบนั้นแบบนี้นะ ก็พี่เขาสวยอ่ะ มีคนบอกว่าเราเหมือนเราก็โอเค (ยิ้ม) แต่เราก็ไม่ได้ไปมั่นว่าเราเหมือนเขา

 • แล้วคิดว่าตัวเองเหมือนอั้ม พัชราภาหรือเปล่า

พูดเลยว่าถ้าเหมือนขนาดนั้นเราคงได้เป็นนางเอกไปแล้ว (หัวเราะ) ต้องถามคนอื่นเพราะเราไม่กล้าคิดว่าเราเหมือนพี่เขาอยู่แล้ว ซึ่งคนใกล้ตัวก็จะมีบอกบ้างตรงนิ้อาจจะเป็นเพราะลักษณะท่าทาง บางทีเขาก็ว่าคล้าย บางทีเขาก็จะทักไปเหมือนคนอื่น เพราะหน้าเดือนบางครั้งแต่งลุคหนึ่งก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ถ้าไม่แต่งหน้าก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง 

อย่างที่บอกว่าบางทีอาจคล้ายกันตรงลักษณะท่าทางทั้งๆ ที่หน้าอาจจะไม่ได้เหมือนอะไรกันขนาดนั้น อย่างพี่ช่างแต่งหน้าบางคนก็จะมีบอกเหมือนกันว่าลักษณะการพูดจาคล้ายๆ ซึ่งเราไม่รู้ตัวเองนะคะ เรามองตัวเองไม่ออกเพราะเราชินหน้าตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แต่ตรงนี้มันแล้วแต่งานนะเพราะบางงานเขาก็ต้องทำคอนเซ็ปส์ออกมาให้เราคล้ายพี่เขา เราก็ต้องทำค่ะ (ยิ้ม)

 • ถ้ามีคนมาบอกว่าเราไปเสริมเติมแต่งเพราะจงใจอยากให้เหมือนอั้ม ตรงนี้จะตอบเขาไปว่าอย่างไร 

ถ้าจงใจแล้วมันเหมือนได้คงเหมือนไปแล้ว (หัวเราะ) แต่ใครจะไปจงใจให้เหมือนได้จริงไหมคะ ทุกคนมีโครง มีรูปหน้าของทุกคนอยู่แล้ว ถึงไปทำมามันก็เป็นไปไม่ได้ว่าใครอยากจะทำให้หน้าเหมือนใครก็ได้ ถ้าทำแล้วหน้าเหมือนกันได้คนบนโลกนี้คงไปทำให้เหมือนดาราที่ตัวเองชอบแล้วค่ะ ถึงเราอยากจะจงใจให้เหมือนแค่ไหนมันก็เป็นไปไม่ได้เพราะเราก็คือเรา

 • แล้วส่วนตัวชอบคุณอั้ม พัชราภาหรือเปล่าคะ

ชอบ (เน้นเสียง) พี่อั้ม พัชราภาเป็นนางเอกที่เดือนชอบเป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้วค่ะ เป็นไอดอลของเดือนคนหนึ่งเพราะว่าพี่เขาสวย เขาเซ็กซี่ เขาน่ารัก พี่เขาครบทุกอย่าง เดือนเคยมีโอกาสเจอพี่อั้มนะคะ พอได้เจอตอนถ่ายสแตนอินสเนลไวท์เท่านั้นแหละเราเกร็งเลย (หัวเราะ) 

 • อยู่ในจุดยืนนี้แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมีคนรักและคนชัง มีคนว่าเราไม่เหมือนบ้างไหมคะ

มีค่ะเต็มเลย อย่างตอนที่ข่าวออกไปก็มีคนมาคอมเม้นท์เต็มเลยว่าไม่เหมือน (หัวเราะ) จริงๆ เราก็ไม่ได้อะไรเพราะเราก็เกรงใจแฟนคลับพี่เขาเหมือนกัน พี่เขามีแฟนคลับเยอะมากซึ่งเราก็ยังเป็นหนึ่งในแฟนคลับของเขาเลย

 • ด้วยความที่เราหน้าเหมือนซูเปอร์สตาร์ดังเลยได้รายได้เข้ามาหลักแสนเลย ตรงนี้คิดอย่างไรบ้างคะ เป็นเพราะความสวยหรือเปล่าเราถึงได้รับโอกาสดีๆ

ไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยวเลย (ตอบเร็ว) เพราะคนเราไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ตาม เดือนมองว่าเขาจะต้องมีความสามารถ เทียบง่ายๆ อย่างในวงการบันเทิงคนที่เขาหน้าตาไม่ต้องดีมากแต่เขาก็มีงาน มีเงินได้เพราะความสามารถของเขา จริงๆ ถึงเขาหน้าตาไม่ดี เล่นละครไม่ได้แต่เขามีความสามารถ เขาก็สามารถไปหางานอย่างอื่นที่เหมาะกับความสามารถของเขาได้ หรือถ้าหน้าตาดีมากจริงๆ ได้เข้าวงการมามันก็อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นก้าวแรกที่มันง่ายกว่าคนอื่นแต่ถ้าเขาหน้าตาดีแต่ไม่มีความสามารถตรงนี้ก็จบได้เหมือนกัน 

 • แบบนี้ผู้หญิงสวยในความคิดของเราเป็นอย่างไรคะ 

ผู้หญิงที่เขามีความสุขกับตัวเองค่ะ ถ้าเรามีความสุขกับตัวเอง ความสวย ความมั่นใจยังไงมันออกมาอยู่แล้ว ความสวยจริงๆ แล้วมันไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอน เราไม่ควรเอาบรรทัดฐานของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ไม่อย่างนั้นมันไม่จบเพราะเหนือฟ้ามันมีฟ้าอยู่แล้ว ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเสมอไป
 
 • แล้วที่คนส่วนใหญ่ชอบมองว่าผู้หญิงสวยศัลยกรรมตรงนี้คิดอย่างไรบ้าง

เดือนไม่คิดอะไรนะคะ ถ้าเราทำเราก็บอกว่าทำ เราไม่ได้อะไรอยู่แล้ว เราทำเพื่อตัวเองไม่ได้ทำเพื่อคนอื่น คุณไม่ทำก็เรื่องของคุณ เราชอบเราก็ทำ

ส่วนตัวเดือนก็ทำนะคะ เดือนทำจมูก แต่เราไม่ได้ทำจนเปลี่ยน ทำแค่นิดเดียวจนหมอบอกว่าทำแค่นี้ไม่ต้องทำก็ได้นะ (หัวเราะ) ซึ่งเดือนไม่ได้ทำศัลยกรรมจนเสพติดนะคะ เดือนจะทำเพราะทำแล้วมันพอดีแล้วก็หยุดอยู่แค่นั้นเดือนว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ความพอดี ไม่ใช่ว่าจมูกก็อยากจะได้แบบโด่งเวอร์มันก็จะไม่สวยค่ะ 

 • ขอเป็นตัวแทนถามแทนหนุ่มๆ ทั้งหลายหน่อยค่ะว่าสวยๆ ถึงขั้นหน้าตาคล้ายซูเปอร์สตาร์ดังแบบนี้ชอบผู้ชายแบบไหนคะ

เดือนชอบผู้ชายที่ดูดี อย่างแรกเราดูรูปลักษณ์ภายนอกก่อนซึ่งอันนี้เราพูดตรงๆ เลยเพราะว่าเราปิ๊งใครเราก็จะปิ๊งตอนแรกเจอ แต่ถ้านิสัยหรือคำพูดไม่ใช่เราก็จะตัดออกไป ไม่ใช่ว่าเอาหน้าตาเป็นหลักอย่างเดียว เราชอบคนสูง คนคิ้วเข้ม ตาหวานๆ แต่ถ้าอ้าปากมาแล้วพูดไม่ได้เรื่องก็เป็นเพื่อนกันเถอะ

เดือนเป็นคนเลือกนะ เลือกมากจนคิดว่าเราอาจจะขึ้นคานได้ (หัวเราะ) ซึ่งเดือนจะบอกตัวเองเสมอว่าถ้าเรามีแล้วไม่ดี เราไม่มีดีกว่าเพราะว่าเราก็แฮปปี้กับชีวิตแบบนี้อยู่แล้ว

ในส่วนของนิสัยเราจะไม่ชอบคนโกหก เราไม่ชอบคนเจ้าชู้ ที่เหลือเราสามารถปรับเข้าหากันได้อยู่แล้ว เอาที่เราชอบแล้วเขาก็ชอบเราด้วย

 • ถ้ามีคนบอกเราว่าชอบเราเพราะหน้าเราเหมือนอั้ม พัชราภาจะทำอย่างไร

โอ้ย!! ถ้าเขาชอบเราเขาคงไม่กล้าบอกเรามั้งเพราะเราต้องด่าเขาอยู่แล้วแหละ (หัวเราะ)

 • มันคือข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรบ้างคะกับการที่เราอยู่ในวงการบันเทิงแล้วมีคนเอาเราไปเปรียบเทียบกับซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง ตรงนี้เหมือนกับว่าเราเป็นเบอร์สองของเขาหรือเปล่า

จะว่าเป็นข้อเสียมันก็ไม่ใช่เพราะคนที่เขาเอาเราไปเปรียบซึ่งเราไม่ได้เปรียบเองนะ เขาสวย เขาเริ่ดขนาดนั้น มันเป็นข้อดีมากกว่าที่เขาชื่นชมเรา แต่ถ้าถามว่าบางทีที่กระแสตอบรับกลับมาเราอยากให้เขารู้จักเราที่เป็นในแบบของเรามากกว่า ถ้าเลือกได้เราก็อยากให้เขาจำในแบบที่เราเป็นเรา แต่ถามว่านอยด์ไหมก็ไม่ได้นอยด์ค่ะ

เดือนไม่น้อยใจเลยนะ คนที่รู้จักเรา เพื่อนเราเขาก็ไม่คิดว่าเราเป็นเบอร์สองหรืออะไร เราคิดว่าเราสำคัญอยู่แล้ว เราไม่รู้สึกว่าเราด้อยเลยนะคะ (ยิ้ม)

 • มีคนเปรียบให้เราเป็นอั้ม พัชราภาแบบนี้เราต้องปรับการวางตัวไหมคะ เราวางตัวอย่างไรบ้าง
 
เดือนจะเป็นปกติของเดือนเลยค่ะ เดือนจะมีความรับผิดชอบ ไม่ทำให้ใครเสียหาย เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทุกอย่างจะวางตัวตามกาลเทศะค่ะ (ยิ้ม)

 • ท้ายนี้มีอะไรอยากจะบอกกับคนที่เขาว่าเราเหมือนอั้ม พัชราภาบ้างไหมคะ

ก็อยากขอบคุณนะคะ เพราะถือว่าเป็นคำชมเพราะพี่เขาสวยมากจริงๆ แต่ยังไงก็อยากให้เขาจำเดือนที่เดือนเป็นเดือนค่ะ (ยิ้ม)









3 สิ่งที่เดือน พฤษภาชอบ

ชอบกินของหวาน
 เดือนเป็นคนที่ชอบทานของหวาน ขนมเค้ก ชอคโกแลต ไอศกรีมมากกกกก (ลากเสียงยาว) คือจะแพ้ทางมากในจุดนี้ คนที่สนิทจะรู้ว่าเราทานขนมได้ทั้งวัน (หัวเราะ)

ชอบทำบุญ
เป็นคนที่ชอบทำบุญมากค่ะ ถ้ามีเวลาจะลากเพื่อนหรือครอบครัวไปตลอด จะค่อนข้างดูขัดกับลุคแต่คนสนิทจะรู้ค่ะ (ยิ้ม)

วินมอเตอร์ไซค์
อันนี้คือเพราะเรานั่งบ่อยมากจนเพื่อนแซวตลอด พอดีเป็นคนไม่ชอบรถติดค่ะ รีบๆ ก็จะซ้อนพี่วินตลอด เพื่อนบอกว่าโทรมาทีไรเจอแต่ตอนที่เรานั่งวิน จนเรียกว่าสาววินมอเตอร์ไซค์กันเลยทีเดียว (หัวเราะ)

สิ่งนี้เดือนไม่ปลื้มเลย

รถติด
เดือนเป็นคนที่ไม่ชอบรถติดค่ะ ไม่ชอบมากๆ แต่จริงๆ อันนี้น่าจะเป็นกันทุกคนนะ (หัวเราะ)

อาหารรสเผ็ด
เป็นคนไม่ชอบอาหารเผ็ดค่ะ เพราะทานไม่เคยได้เลยสักที

 








Profile

ชื่อ : พฤษภา อุดมศิริกุล

ชื่อเล่น : เดือน

วันเกิด : 8 พฤษภาคม

การศึกษา : ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยรังสิต

งานอดิเรก : ตีแบตมินตัน ออกกำลังกาย ทำบุญ

ผลงาน : ละครเรื่องร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย (ช่อง One), ละครเรื่องสาวน้อยซอยรจนา (ช่อง 7), ละครเรื่องไฟล้างไฟ (ช่อง 3), ละครเรื่องเลือดรักทรนง (ช่อง 3)





เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : พลภัทร วรรณดี

กำลังโหลดความคิดเห็น