กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “ทัวร์จีน” ไปเสียแล้ว สำหรับ “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินชื่อก้องเจ้าของ “วัดร่องขุ่น” งานนี้ถูกคุณแม่ชาวจีนพาลูกไปฉี่ทิ้งไว้หน้าอุโบสถให้เห็นจะจะ ทนไม่ไหวประกาศด่าผ่านเครื่องขยายเสียงจนกลายเป็นประเด็นร้อน ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนแนะให้ใจเย็น อย่าให้เกล็ดปลาเล็กๆ มาทำให้ปลาทั้งตัวดูน่ารังเกียจเลย เดี๋ยวประเทศจะเดือดร้อน!
ปัญหาโลกแตก! “สุขา-ทัวร์จีน”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติ ต้องมีโมโหต่อพฤติกรรมการถ่ายทุกข์ทั้งหนักและเบาของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาแวะเวียน “วัดร่องขุ่น” จ.เชียงราย หนึ่งในแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวของประเทศไทย ครั้งก่อน ถึงกับประกาศห้ามไม่ให้ชาวจีนเข้าชมภายในวัดอีกเลย หลังจากพบว่ามีพฤติกรรมการใช้สุขาที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่สถานที่หลายครั้งหลายครา
พฤติกรรมที่รับไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือการทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงไปในถังน้ำสำหรับชักโครกโดยตั้งใจ เจ้าของสถานที่จึงแจ้งหัวหน้าทัวร์ไว้ว่าถ้าลูกทัวร์มาใช้ห้องน้ำอย่างไม่เหมาะสม ไกด์ต้องรับผิดชอบทำความสะอาดแทน จนเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นข่าวดังถึงประเทศของเขา ท้ายที่สุด เรื่องราวก็ซาลงและอนุญาตให้ทัวร์จีนเข้ามาเที่ยวชมได้ตามปกติต่อไป
กระทั่งล่าสุด เกิดเหตุคุณแม่นักท่องเที่ยวชาวจีนนางหนึ่งพาลูกมาฉี่หน้าอุโบสถ เจ้าของสถานที่อย่างอาจารย์เฉลิมชัยเดินมาพบเหตุการณ์นี้เข้าอย่างจัง ด้วยความฉุนเฉียวที่นักท่องเที่ยวไม่เคารพสถานที่ จึงประกาศด่าผ่านเครื่องขยายเสียงด้วยการอู้คำเมือง และขอให้ผู้รู้ภาษาช่วยบอกชาวจีนเหล่านั้นด้วยว่าอาจารย์ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ และนี่คือใจความส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“...มันไม่เคารพสถานที่ ให้ทุกคนช่วยบอกไอ้พวกจีนทุกคนให้ฟังอาจารย์ว่ามันเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เอาลูกมาเยี่ยวหน้าโบสถ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เอาลูก 3-4 ขวบมาเยี่ยวหน้าวัด ดีแม่มันไม่ทำเหมือนกันด้วย...”
(อาจารย์เฉลิมชัยเหลือทน ประจานแบบไม่แคร์สื่อ)
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า “ทัวร์จีน” ขึ้นชื่อเรื่องการทำพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ตามประเทศต่างๆ อย่างไรบ้าง แม้ครั้งหนึ่งทางการจีนเอง เคยมีโครงการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวชาวจีนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวในต่างแดนเกิดขึ้นแล้ว แต่ผลที่ออกมาก็ยังคงไม่แตกต่างออกไปมากนักและดูเหมือนจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้ “สันติ ตั้งรพีพากร” ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน ช่วยวิเคราะห์เอาไว้ในอีกแง่มุมที่น่าสนใจ คืออยากให้เจ้าบ้านอย่างเรามองอย่างเข้าใจแล้วจะได้ประโยชน์อย่างที่อาจคาดไม่ถึง
“คำว่า “ทัวร์” สังเกตดูว่าไม่ว่าทัวร์ไทย ทัวร์จีน คุณภาพจะคล้ายๆ กันหมดคือ มาแบบระลอกคลื่นๆ ใหญ่ๆ ไม่ได้มีการกรองการรับคนเข้ามาใช้บริการเท่าไหร่ มันคือการจัดทัวร์ในเชิงปริมาณ เดี๋ยวนี้ทั่วโลกก็เน้นไปในเชิงนี้เหมือนๆ กัน ยิ่งประเทศที่กำลังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจติดขัด เงินหมุนได้ไม่ค่อยราบรื่น เขาก็จะอยากให้มีทัวร์จีนไปลงทั้งนั้น อย่างที่เกาหลีใต้ ปีที่แล้วทัวร์จีนไปลงตั้ง 6 ล้านคน คนจีนเอาเงินไปทิ้งไว้ 6 แสนล้านบาท
ถ้าพูดอีกแง่หนึ่ง ทัวร์จีนที่เอาเงินเข้ามาให้เรา เทียบกับที่เข้ามาฉี่มาอึ หรือแสดงบุคลิกภาพต่างๆ ไม่เหมือนที่เราคุ้นชิน หรือไม่เหมือนมาตรฐานของฝรั่งและญี่ปุ่น มันกลายเป็นเรื่องรองไปเลยนะ เพราะคนจีนเขามาแล้วเขาจ่าย คนจีนชอบซื้อชอบใช้ ส่วนเรื่องนิสัยใจคอคนจีนที่ถูกพูดถึง จริงๆ แล้วถ้าเป็นคนจีนในเมืองใหญ่ๆ อย่างฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ เขาก็ไม่ต่างจากเราหรอก แต่ถ้าเป็นคนจีนจากท้องถิ่นหรือเพิ่งรวยและได้ออกมาเที่ยว เขาอาจจะเอาพฤติกรรมเดิมๆ ที่เคยใช้มาใช้ก็ได้
วัดร่องขุนของ อ.เฉลิมชัย ผมมองว่าอาจารย์อาจจะต้องหามาตรการรองรับเรื่องห้องน้ำ ถ้าเกิดปัญหาเรื่องเขาอั้นไม่ไหวเพราะส้วมไม่พอ อาจจะต้องทำห้องน้ำสำรองขึ้นมาทันที เพราะการตั้งมาตรฐานไว้สูงๆ แล้วคาดหวังว่าจะให้เขาทำตามนั้นมันคงยาก บางทีพอห้องน้ำไม่พอเขาก็ต้องหาที่ ด้วยความเคยชิน เหมือนอย่างชาวบ้านของเรา เห็นป่าเห็นทุ่งก็ปล่อยตรงนั้นได้เลย ยิ่งที่ประเทศจีน เขาถือว่ามันเป็นปุ๋ยด้วย ถ้าเป็นสมัยก่อน ทุกเช้าเขาจะมีรถตักปุ๋ยมาเก็บตลอด เขามีระบบเรื่องที่ของเขาเอง
ถามว่าทำไมทัวร์จีนไปลงประเทศอื่นไม่เห็นเขาโวย ไม่เห็นมีเหตุการณ์แบบนี้ออกมา มันเป็นเพราะสถานที่ของเขามีระบบรองรับที่ดีทำไว้แล้วหรือเปล่า แต่พอมาบ้านเรา นักท่องเที่ยวหาส้วมยาก แสดงว่าเราพัฒนาการท่องเที่ยวของเราไม่ทันหรือเปล่า
เราอาจจะต้องมาถามตัวเองว่าจัดห้องน้ำเพียงพอไหมและมีป้ายภาษาจีนหรือยัง เพราะภาษาอังกฤษเขางูๆ ปลาๆ ดังนั้น ภาษาจีนสะดวกที่สุด ในประเทศที่ต้องการนักท่องเที่ยวจีนหรือทัวร์จีน ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือฝรั่งเศส เขาก็ขึ้นป้ายเป็นภาษาจีนทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องรอให้คนจีนมาแปลหรอก ถ้าจะด่าทอพฤติกรรมคนจีนจากกรณีอะไรแบบนี้ ผมว่าควรจะมองภาพรวมดีกว่า อย่าเอาเกล็ดปลาช้ำๆ เกล็ดเดียวมาเหมารวมว่าปลาทั้งตัวไม่สวย ปลาเขาสวยจะตายไป ปลาตัวนี้สวยฝากบอกอาจารย์เฉลิมชัยด้วย ถ้าอาจารย์ไม่อยากให้ปลาเกล็ดช้ำ อาจารย์ก็ขึ้นป้ายดีๆ จัดห้องน้ำให้เพียงพอและวันหลังไม่ต้องโวย
ผมไม่ได้มองว่าพฤติกรรมที่คนจีนทำมันถูกนะครับ แต่ถ้าเราจะรับทัวร์จีน เราก็ต้องปรับตัวเอง เรายังมีประเทศที่เป็นคู่แข่งที่จะแย่งลูกค้าตรงนี้อีกเยอะแยะ ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย แต่ทุกวันนี้เขามาประเทศไทยเยอะสุดแล้วเพราะเขาชอบเมืองไทย เขารู้สึกว่าคนไทยเป็นมิตร เพราะฉะนั้น เราก็อย่าไปทำอะไรให้เขารู้สึกว่าคนไทยรังเกียจคนจีนเลยดีกว่า เหมือนประเทศญี่ปุ่นแสดงออกชัดเจนว่ารังเกียจประเทศจีน คนจีนเขาก็ไม่ไปนะ พอไม่ไปปุ๊บ รัฐบาลญี่ปุ่นเดือดร้อนทันที หลังจากนั้นขึ้นป้ายเลยว่าไม่ต้องจดวีซ่าก็เข้ามาได้ ยินดีต้อนรับคนจีน”
รู้เขารู้เรา เตรียมตัวโกยกำไร!
(ทัวร์จีนจำนวนมาก แห่มาเข้าชมความงามของวัดร่องขุ่น)
ลองพิจารณาในแง่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้ว จะพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนคือนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่ป้อนเงินไปทั่วโลก โดยเฉพาะระยะ 5 ปีหลังจากนี้ เศรษฐกิจจีนจะโตขึ้นเรื่อยๆ ตามที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ประเมินไว้ว่านักท่องเที่ยวของเขาจะทะลักไปเที่ยวทั่วโลกกว่า 500 ล้านคน ดังนั้น หากประเทศไทยอยากมีเงินเดินสะพัดในระบบท่องเที่ยว การทำใจยอมรับความแตกต่างทางพฤติกรรมและวางระบบที่ดีกว่านี้ให้ได้ โดยใช้กรณีที่เกิดกับ “วัดร่องขุ่น” เป็นกรณีศึกษา
“ส่วนใหญ่ทัวร์จีนเขาก็มาแค่ประมาณ 3-5 วันก็กลับ และในจำนวนแสนคน จะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่ทำอะไรเรี่ยราดทิ้งไว้ให้อาจารย์เฉลิมชัยโกรธ ถ้ามาวัดร่องขุ่นสักหมื่นคน แล้วฉี่ราดไปสัก 5 เปอร์เซ็นต์ อาจารย์ปิดวัดไม่ให้พวกเขาเข้าได้เลย เพราะถ้ามองในแง่สถิติกันจริงๆ มองภาพรวม มันไม่ได้เยอะขนาดนั้นอยู่แล้ว แต่อาจารย์เฉลิมชัยแกชอบโวย เป็นสไตล์ของแก คนจีนที่มาก็มีหลากหลายรูปแบบ ศิลปะของอาจารย์ยังมีได้หลากหลาย พฤติกรรมของคนที่มาเที่ยวก็หลากสไตล์เหมือนกัน
ทัวร์จีนที่มาลงวัดร่องขุ่นเพราะอยากมาชมความสวยงามมีเยอะแยะมากมาย ถามว่าไม่อยากได้ตังค์เขาเหรอ อย่าปากแข็งนะว่าไม่อยากได้ตังค์ทัวร์จีน เพราะเขาไม่ได้มาเป็นพัน แต่เขามาเป็นหมื่นเป็นแสน และไม่ใช่มาวันเดียว ยังจะมาอีกเป็น 5 ปี 10 ปี ถ้าอยากได้ลูกค้ากลุ่มนี้เราก็ต้องวางแผนให้ดี จัดเตรียมห้องน้ำห้องท่าให้เขา ขึ้นป้ายภาษาจีนแปะไว้ที่ทัวร์มาจอดลงเลยว่า ห้องน้ำอยู่ตรงไหน ต้องทำยังไงบ้าง คนจีนเขาก็มีวัฒนธรรมของเขาเหมือนกัน และถ้าเขาเห็นคนจีนด้วยกันนอกลู่นอกทาง เขาก็ด่ากันเองเหมือนกัน
(ป้ายห้ามนักท่องเที่ยวจีน กรณีที่เกิดขึ้นกับวัดร่องขุ่นตั้งแต่ครั้งก่อน)
ถ้าเรามัวแต่มองเห็นอะไรนิดหน่อยแล้วโวย เรื่องมันจะไม่รู้จบหรอก จะกลายเป็นว่าเราจับจุดดีเขาไม่ได้เลย อย่างที่เรามองจีนพลาดมาตลอดที่ผ่านมา คนที่เขามองจีนได้ตรงเป้า อย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย เขาค้าขายกับจีนได้ปีๆ หนึ่งเป็นแสนๆ ล้านๆ หรืออย่างเกาหลีใต้ ประเทศเล็กนิดเดียว มีพลเมืองแค่ 40 กว่าล้าน เขามียอดการค้ากับจีนถึงกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์
เราสามารถวางการตลาด 5-10 ปีล่วงหน้าได้เลยถ้ารับทัวร์จีนและมีระบบรองรับเขาดีๆ เพราะเศรษฐกิจประเทศเขาจะโตขึ้นเรื่อยๆ แน่ๆ จะได้ไม่ต้องมาบ่นทีหลังว่าทำไมเราทำไม่ได้เหมือนประเทศอื่นเขา ก็ตอน 5 ปี 10 ปีก่อน คุณรับมือยังไงล่ะ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ถ้าเรารู้จักเขาให้ดีๆ เราจะโตกว่านี้ได้อีกเยอะ
เขาเป็นประเทศใหญ่ ประเทศแห่งอารยธรรมเก่า และเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ติดประเทศไทย ไปมาหาสู่กันได้ทั้งทางบกทางน้ำทางอากาศ เราเชื่อมโยงถึงกันได้ง่ายๆ ที่สำคัญ เขาเป็นประเทศที่มาจับจ่าย ถ้าเทียบกับคนญี่ปุ่นที่เข้ามาแล้ว ญี่ปุ่นเขาจะไม่ยอมเสียเงินให้ชาติอื่นเลย เขาจะพักโรงแรม ไปร้านอาหาร หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่จะเอาเงินเข้าสู่ประเทศเขาทั้งนั้น เพราะฉะนั้น เราต้องมองโจทย์ทัวร์จีนให้แตก แล้วเราจะได้อะไรๆ จากเขาอีกเยอะเลยล่ะครับ”
(ขอบคุณคลิป: "Oguwpgj Powgj" บนยูทิวบ์)
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- สื่อจีนรายงาน “วัดร่องขุ่น” ห้าม “นักท่องเที่ยวจีน” เข้าครึ่งวัน หลังทิ้ง “ทิชชูเช็ดก้นใช้แล้วลงในถังน้ำชักโครก” ในสุขาสีทอง
- กระแสพลิก! นทท.จีนแห่เที่ยววัดร่องขุ่น-ถ่ายภาพ “สุขาทอง” ตรึม
- ดราม่า! ทัวร์จีนอาละวาด ตลกร้าย ท่องเที่ยวไทย?
- ปฏิวัติทัวร์จีน! กระแสฟีเวอร์เที่ยวไทยต้องเที่ยวให้ถูกทาง