ช็อกวงการมหาวิทยาลัย “โกง 1.6 พันล้าน” ยักยอกเงินสดๆ จากบัญชีกลางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เรื่องแดงเพราะฝ่ายการเงินนำแคชเชียร์เช็คไปเบิก แต่ติดสปริงเด้งดึ๋ง คาดคนในผู้มีอำนาจกับธนาคารรวมหัวโกง ล่าสุด ผจก.แบงก์ ต้องสงสัยล่องหนกว่าสัปดาห์แล้ว ส่วน “คนใน” ปฏิเสธวุ่นอ้างลายเซ็นปลอม
เหตุผลหลักของการยึดอำนาจทุกครั้ง ก็คือ การทุจริต - คอร์รัปชัน ดูเหมือนว่าสังคมไทยจะวนเวียนกับปัญหานี้จนกลายเป็นเรื่องชินชาที่คนไทยต้องพบเห็นกันเป็นประจำ ในช่วงรัฐบาล “คนดี” นอกจากกิจกรรมคืนความสุขในรูปแบบต่างๆแล้ว ยังมีการรณรงค์ต้านคนโกงในทุกรูปแบบ โดยล่าสุด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานพิธีมอบประกาศนียบัตรหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) มีช่วงหนึ่ง “ป๋าเปรม” ขอให้คนไทยร่วมกันต่อต้านคนโกงอย่างเต็มที่...ไม่ต้องยกมือไหว้คนโกงชาติ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม กับให้ปลูกฝังให้เกลียดคนโกงชาติบ้านเมือง
ขณะที่ทุกฝ่ายเล็งเห็นปัญหา และให้ความสำคัญต่อต้านการคดโกงชาติเกิดความไม่ชอบมาพากลในแวดวงการศึกษาอย่างน่าตื่นตะลึง เพราะมีมูลค่าความเสียหายเป็นเงินสดๆ ในบัญชีธนาคารถึง 1,600 ล้านบาท
แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยรายละเอียดกับทีมข่าวอาชญากรรม ASTV ผู้จัดการ ว่า ราว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้รับแจ้งเรื่องสำคัญว่ามีการตรวจสอบพบว่าเงินกองกลางของมหาวิทยาลัยจำนวน 3,000 ล้านบาท ถูกยักยอกหายไปจากบัญชีถึง 1,600 ล้านบาท และจากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่ามีเจ้าหน้าที่การเงิน หรือผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย ร่วมกับพนักงานธนาคารเบิกจ่ายอย่างไม่ถูกต้อง
สำหรับรายละเอียดในเรื่องนี้มีรายงานว่าช่วงต้นเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยต้องการนำเงินมาใช้ตามโครงการที่ผ่านการอนุมัติจึงให้แผนกการเงินทำแคชเชียร์เช็คจำนวน 100 ล้านบาท ไปเบิกที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยังสาขาที่ฝากเงินใกล้กับสถาบันฯ แต่ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธจ่ายเงิน โดยอ้างว่าเงินที่มีอยู่ในบัญชีไม่เพียงพอกับจำนวนที่เบิก เจ้าหน้าที่การเงินของมหาวิทยาลัยจึงรีบนำเรื่องแจ้งต่อผู้บริหารและทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่าเงินสดจำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีกลางของมหาวิทยาลัยถูกซอยไปหลายสิบบัญชี ส่วนเงินทั้งหมดเมื่อรวบรวมแล้วยังเหลืออยู่ราว 1,400 ล้านบาท ส่วนที่หายไปนั้นเชื่อว่าถูกยักยอกไปอย่างแน่นอน
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า “ตัวการ” ที่ร่วมกระทำผิดในส่วนของธนาคารนั้น หลังเกิดเรื่องพนักงานระดับ ผจก.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาหนึ่งที่รับเงินได้หายตัวไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยทั้งระดับล่าง และผู้บริหารยังคงทำงานกันตามปกติ แต่เมื่อมีการสอบถามต่างปฏิเสธ อ้างว่าเป็นลายเซ็นปลอม และโยนความผิดไปยังพนักงานธนาคารและเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ระดับบริหารของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ต่างทราบกันโดยทั่วแล้ว คาดว่าจะมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในเร็ววันนี้
สำหรับการยักยอกเงินในแวดวงศึกษาครั้งมโหฬารนี้ คาดว่ามีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี โดยระดับบริหารที่มีอำนาจได้ซอยบัญชีจำนวนมาก เพื่อยากต่อการตรวจสอบ และเมื่อมีการประชุมสภาฯก็จะใช้เอกสารการเงินที่เขียนขึ้นเอง โดยมีรายละเอียดจากธนาคารบ้างเพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีใครติดใจสงสัยกระทั่งเกิดกรณีเช็คเด้งเรื่องต่างๆ จึงแดงขึ้นมา
ก่อนหน้าช่วงปลายปี 2556 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นประธานประชุมสภา สจล. ลงมติ 9 - 4 ให้ถอดถอน นายถวิล พึ่งมา อธิการบดีมหาวิทยาลัย หลังคณะกรรมการสอบสวนพบว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการแก้ผลการเรียนให้กับลูกตัวเองรวม 8 วิชา และยังจัดหลักสูตรพิเศษให้กับนักการเมืองโดยเพิ่มดีกรีวุฒิการศึกษาปริญญาเอก มีการเปิดรับเป็นกรณีพิเศษในภาคการศึกษาที่ 2 รวม 48 คนส่วนใหญ่เป็น ส.ส. และอดีต ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย เช่น นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต ส.ส.อุดรธานี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นายองอาจ และ นายอรรถพล วงษ์ประยูร อดีต ส.ส.สระบุรี เป็นต้น และแต่งตั้ง ศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รองอธิการบดี รักษาการแทน