ผบ.ตร.แถลงจับ “พงศ์พัฒน์” พร้อมพวก อึ้ง! เซฟฝังดินซ่อนทรัพย์สินอื้อ

ผบ.ตร. แถลงจับ “พงศ์พัฒน์ - พวก” พร้อมโชว์ภาพนิ่งของกลางที่ยึดได้ทั้งหมด จากการตรวจค้นรวม 15 จุด อึ้ง “พงศ์พัฒน์” สร้างตู้เซฟฝังดินเก็บของล้ำค่ามหาศาล แฉพฤติกรรมซับซ้อนเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมด โดยไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาร่วมแถลง

วันนี้ (25 พ.ย.) ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เตรียมแถลงข่าวคดีจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมพวก ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นห้องประชุมใหญ่ที่สุด รองรับจำนวนสื่อมวลชนได้จำนวนมาก โดยได้เริ่มแถลงเวลา 10.50 น.

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ เพื่อใช้ประกอบการแถลง นำโดย ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล ผู้บังคับการ ปทส. พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม ซึ่งการแถลงไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 12 คน และของกลางมาแถลงข่าว แต่นำเสนอข้อมูลพฤติการณ์ความผิดของผู้ต้องหา ที่ซับซ้อนเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายขบวนการประกอบด้วย โดยจะนำภาพนิ่งของทรัพย์สินที่ตรวจยึดจำนวน 15 จุด โดยเฉพาะจากบ้านพักของผู้ต้องหา พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งมีการตรวจยึดได้ถึง 11 จุด รวมทรัพย์สินมูลค่านับพันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินสด ทองรูปพรรณ พระเครื่อง และโฉนดที่ดิน แต่ไม่มีการนำผู้ต้องหามาร่วมแถลงข่าวด้วย

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แกลงว่า คดีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ได้รับร้องเรียนว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตผู้บัญชาการ และอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมกับพวกผู้ต้องหาคือ พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง และพลเรือนอีก 5 คน ร่วมกันแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหลายประการ สตช.จึงมีการสืบสวนทางลับ พบว่า ข้อร้องเรียนมีมูลความจริง จึงมีคำสั่งย้าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และตำรวจที่เกี่ยวข้องในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน บางครั้งอาจมีข้อมูลที่ไม่เปิดเผยได้ ส่วนคำถามใดที่สื่อถามที่ตอบได้ก็จะตอบ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบแต่ละด้านเป็นผู้ตอบสื่อมวลชน ส่วนของกลางที่ไม่ได้นำมาแสดงเนื่องจากอาจจะผูกพันเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นที่นำไปสู่การจับกุมต่อไป

หลังจากนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรักษาการผู้บัญชากาารตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้เริ่มชี้แจงรายละเอียดการตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ 11 จุด โดยที่ีย่านปากเกร็ดตรวจยึดอายัดสิ่งของเป็นตู้เซฟฝังดินที่บ้านย่านปากเกร็ด ซึ่งดูเหมือนก่อสร้างยังไม่เสร็จ เป็นการพราง แต่ข้างในมีทรัพย์สินมหาศาล เช่น งาช้าง วัตถุโบราณ พระเครื่อง พระบูชาจำนวนมาก เงินสดทั้งไทยและต่างประเทศ ของเก่า สแตมป์ทองคำ เครื่องเพชร เครื่องเงิน เครื่องลายคราม ภาพวาดมูลค่ามหาศาล เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีการยึดรถยนต์ได้อีก 20 กว่าคัน

หลังจากนั้น พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม ได้ชี้แจงถึงการตรวจค้นเซฟเฮาส์ของ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ 1 จุด และบ้านพักของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ที่เพิ่งเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย อีก 3 จุด พบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ราคาแพง ทองคำ เครื่องเพชร จำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้จากขบวนการนี้แล้วทั้งหมดประมาณ 2 พันล้านบาท

โดยในการแถลงข่าววันนี้ ได้มีการนำแผนผังของเครือข่ายทั้งหมด ที่มี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นผู้สั่งการ มาแสดงด้วย

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า “นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เรานำมาเสนอ เพื่อไขข้อข้องใจว่าเราไม่ได้สร้างภาพ หรือ ยัดเยียดกลั่นแกล้งจับกุมตั้งข้อหา ผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งหลักฐานที่เห็น มีการร่วมกันกระทำความผิดจริง แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะมีความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ต้องทำการสืบสวนและขยายผลเพิ่มเติมก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังการสอบสวนแล้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้ เราได้รับการร้องเรียนจากข้อราชการตำรวจ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย มีการเรียกรับเงินทองและสิ่งของต่างๆ มีการร้องทุกข์ร้องเรียนมาเป็นระยะ ร้องไปทางตัวผม และนายกฯและที่อื่นๆ จนกระทั่งมีการสืบสวนไปยังผู้เรียกรับผลประโยชน์ ถ้าพยานหลักฐานเชื่อมโยงใคร เราจะจัดการอย่างไม่มีข้อยกเว้น ยังมีนาย ตร. อื่นอีก ที่เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการนำมาซึ่งผลประโยชน์ แต่งตั้งโยกย้าย บ่อนการพนัน น้ำมันเถื่อน บุกรุกป่าที่ราชบุรี เพื่อทำธุรกิจ”

“คาดว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ คงกระทำความผิดมาหลายปีแล้ว เรื่องจำนวนเงินเรียกรับเพื่อตำแหน่งไม่ยืนยัน เงินที่ได้มาไม่ถูกต้อง เปิดบ่อน วิ่งเต้นโยกย้าย ซื้อขายตำแหน่งและน้ำมันเถื่อนเป็นหลัก ส่วนเงินที่มาจากคดี เป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนต่อ ขอไม่ชี้แจ้ง มีบ่อนอยู่ทั่วประเทศ ผู้บังคับบัญชาในอดีตผมไม่ทราบว่ายังไง ระแคะระคายไหม แต่ผม...ใหญ่แค่ไหนก็จับ ในอดีตคนรู้ว่า พงศ์พัฒน์ มีอำนาจมากแค่ไหน ผมจะไม่ปล่อยในสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ผมจะรีบสร้างธรรมาภิบาลขึ้นใหม่ สำหรับคำถามเกี่ยวกับเบื้องสูงนั้น ขอไม่ตอบ”

ขณะเดียวกัน ได้มีการแถลงข่าวการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีต ผกก.1ป. โดยทาง บช.น. ระบุว่า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้แรับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ เสียชีวิตที่ รพ.พระมงกุฎ ซึ่งภายหลังทำการสอบสวน พร้อมแพทย์โดยละเอียดแล้ว เป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ ฆ่าตัวตาย ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิดทางอาญาแต่อย่างใด