ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่อนแถลงการณ์เรียกร้องให้บล็อกเกอร์หยุดคุกคามการทำงานของสื่อ เสนอองค์กรและพีอาร์พิจารณารูปแบบการแถลงข่าว หลังมีบล็อกเกอร์ไอทีรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความรำคาญเวลานักข่าวทำข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ถามถึงยอดขาย และผลกระทบจากการเมือง
วันนี้ (26 ส.ค.) นายเมธา สกาวรัตน์ ประธานชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงบทบาทและหน้าที่ของสื่อสารมวลชนสายไอที ว่า สืบเนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ มีการจัดงานแถลงข่าวงานหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เจ้าของงานมักมีการเชิญสื่อสารมวลชนและบล็อกเกอร์มาทำข่าวร่วมกัน โดยที่ผ่านมาก็มีการจัดแยกกันบ้าง เพราะทั้งสองฝ่ายนี้ต่างมีประเด็นคำถามที่ต่างกัน แต่บางครั้งก็มีการจัดงานพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่างานที่จัดขึ้นจะไม่ได้ถูกใจทั้งสองฝ่าย แต่ก็สามารถผ่านพ้นมาด้วยดี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ล่าสุด ได้มีบล็อกเกอร์รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย ซึ่งทุกคนต่างรับรู้ว่าเป็นพื้นที่สาธารณะที่ใครๆ ก็เข้าไปเห็นและแสดงความคิดเห็นต่อๆ กันไปได้ ด้วยผู้เป็นบล็อกเกอร์ได้โพสต์ข้อความในทำนองรำคาญที่เห็นสื่อสารมวลชนสายไอทีถามคำถามในงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์หนึ่งด้วยคำถามเชิงเศรษฐกิจ ทำให้ตนเองเสียเวลาในการทำงาน และต่อว่าสื่อสารมวลชนสายไอทีว่าเป็นผู้ไม่มีกาลเทศะ ที่สำคัญคือเขาเจอแบบนี้บ่อยมาก จนมีการกดไลค์ของผู้เข้ามาดู และวิพากษ์วิจารณ์ต่อๆ กันไปนั้น
ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนของสื่อมวลชนสายไอที ขอชี้แจงถึงบทบาทและหน้าที่ในการทำข่าว การนำเสนอข่าว และธรรมชาติของสื่อสารมวลชนสายไอที เพื่อให้สมาชิกองค์กร และบล็อกเกอร์ ได้เข้าใจตรงกัน ดังนี้
1. บทบาทและหน้าที่ของสื่อสารมวลชนในการทำข่าวและเสนอข่าว คือ การนำเสนอความจริงออกสู่สายตาประชาชน ซึ่งความจริงนั้นต้องไม่เป็นการนำเสนอเอนเอียง หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่สำคัญคือต้องนำเสนอข่าวให้รอบด้าน ยกตัวอย่างเช่น การนำเสนอข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องการนำเสนอเพียงแค่คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพียงอย่างเดียว หากต้องมีมิติของผลกระทบเชิงสังคม การแข่งขันกับคู่แข่งในทางการตลาด เศรษฐกิจ ปัจจัยสภาวะการเมืองและการนำเสนอก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่ผลิตภัณฑ์เดียว ประเด็นที่ได้จากการถามเรื่องต่างๆ เหล่านั้น อาจโยงไปยังประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นมิติของข่าวอย่างรอบด้าน
2. ธรรมชาติของสื่อสารมวลชน แต่ละสำนักพิมพ์ต่างมีรูปแบบการนำเสนอ หรือสไตล์ของหนังสือ และกลุ่มผู้อ่านที่ต่างกัน มีทั้งนิตยสารหรือเว็บไซต์ที่ต้องการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเทคนิค ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็คือผู้ที่ต้องการเข้าใจอย่างลึกซึ้งในผลิตภัณฑ์แต่ละผลิตภัณฑ์ ขณะที่หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารอีกส่วนหนึ่งก็มีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอ่านข่าวในเชิงมิติของเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องเทคนิค ซึ่งที่ผ่านมาสื่อทั้ง 2 แบบนี้ก็ทำงานร่วมกันมาอย่างราบรื่น เพราะต่างคนต่างเข้าใจธรรมชาติของสื่อ
3. ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยบทบาทภาระหน้าที่ มีเป้าหมายที่แตกต่างกัน และความไม่เข้าใจธรรมชาติสื่อของบล็อกเกอร์ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการ ล้ำเส้นในการทำหน้าที่สื่อบนกรอบการทำงานด้วยความรับผิดชอบในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และการกระทำอันเป็นเสมือนดูถูกศักดิ์ศรีจากผู้ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ทางด้านวิชาชีพสื่อสารมวลชน
ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
3.1. ให้บล็อกเกอร์หยุดการกระทำอันเป็นการคุกคามต่อการทำหน้าที่สื่อสารมวลชน
3.2. เสนอแนะให้องค์กร หรือบริษัทพีอาร์พิจารณารูปแบบของการแถลงข่าว ภายใต้ความเข้าใจสื่อที่มีความแตกต่าง อาทิ การแยกการจัดงานแถลงข่าวระหว่างสื่อสารมวลชนสายไอที กับบล็อกเกอร์ ที่มีความต้องการเนื้อหาที่แตกต่างกัน หรือหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขอให้มีการจัดสรรผู้ให้ข้อมูลให้เหมาะสมกับสื่อแต่ละประเภท เช่น ซีอีโอ ให้ข้อมูลทางด้านธุรกิจ หรือ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ให้ข้อมูลด้านเทคนิคกับทางบล็อกเกอร์
แถลงการณ์ฉบับนี้ชมรมฯ ขอยืนยันว่าสื่อสารมวลชนสายไอทีต้องทำงานบนหลักจริยธรรม และความเป็นกลาง จึงขอให้แหล่งข่าว ผู้จัดงาน และบล็อกเกอร์ เข้าใจตรงกันด้วย นอกจากนี้ ชมรมฯ จะดำเนินการหารือร่วมกับวิชาชีพ และผู้ประกอบการบริษัทไอที ผู้ดำเนินการตัวแทนประชาสัมพันธ์ ในการการทำความเข้าใจต่อกันอีกด้วย เพื่อให้การทำหน้าที่ของทุกฝ่าย มีข้อคิดเห็น มีความเข้าใจต่อการทำงานและบทบาทในหน้าที่ของสื่อมวลชนสายเทคโนโลยีสารสนเทศต่อไป
อนึ่ง รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Blognone.com ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Isriya Paireepairit ระบุว่า “ชีวิตนี้เสีย Productivity Time ไปมากจากการมางานแถลงข่าวสายไอที แล้วเจอนักข่าวถามปัญหาเศรษฐกิจ” พร้อมแสดงความรู้สึกว่า Stupid (รู้สึกโง่) โดยอ้างว่าเจอคำถามประเภทยอดขายรายไตรมาสว่าเป็นอย่างไร และสถานการณ์ทางการเมืองมีผลต่อยอดขายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี อดีตนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และอาจารย์มหาวิทยาลัย ได้แจ้งให้ทราบถึงความไม่พอใจของนักข่าวสายไอที นายอิสริยะ จึงได้โพสต์ข้อความต่อมาว่า “ทราบมาว่านักข่าวสายไอทีหลายๆ ท่านไม่ค่อยสบายใจกับสิ่งที่ผมโพสต์ไปวันก่อน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่เข้าใจกระบวนการทำงานของสำนักข่าวในไทยครับ”