เกิดเป็นชนวนร้อนทางการเมืองขึ้นจนได้ เมื่อคนร้ายขว้างระเบิดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กำลังนำเดินขบวนรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ บริเวณถนนบรรทัดทอง และมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุมอีกหลายจุด
แน่นอน หลายคนคงถามหาเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อย แต่เชื่อว่านาทีนี้ผู้ชุมนุม กปปส.คงจะเปลืองน้ำลายเปล่าที่เรียกร้องหาตำรวจ ซ้ำร้ายตรงกันข้ามกลับปรากฏชื่อของ “นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ” หรือที่รู้จักในชื่อ “โกตี๋” แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ในช่วงเวลานี้อยู่บ่อยครั้งอีกต่างหาก และหากได้ยินชื่อโกตี๋ไปโผล่อยู่แห่งหนใดต้องมีเรื่องราวรุนแรงเกิดขึ้นทุกที่
สำหรับ โกตี๋ ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นหัวโจกในสายฮาร์ดคอร์เสื้อแดง เน้นวิถีความรุนแรงเป็นชีวิตจิตใจ เนื่องด้วยผลงานของโกตี๋ในช่วงที่ผ่านมาช่างเด็ดและโดนใจราวกับไปนั่งอยู่ในหัวใจของนายใหญ่ หัวใจของคนเสื้อแดง ยิ่งนาทีนี้ที่รัฐบาลต้องการอาศัยเกมใต้ดินด้วยแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจหากจะได้ยินชื่อของ โกตี๋อย่างบ่อยครั้งในห้วงเวลานี้
แถมล่าสุดก็ดูเหมือนงานจะเข้าโกตี๋ไม่น้อยในเวลาที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังอยู่ในภาวะหลังชนฝาจัดการอะไรกับม็อบ กปปส.ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเวทีชุมนุมศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ระหว่างที่หลวงปู่พุทธอิสระ ได้นำมวลชนไปปฏิบัติการข้างนอก ปรากฏว่าได้มีกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยโกตี๋ นั่งรถมอแตอร์ไซค์ 200 คัน และรถยนต์อีก 20 คัน พร้อมด้วยระเบิดและอาวุธปืนเข้าไปโจมตี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ม.ค. “โกตี๋” เดินทางมาที่ สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.วรุตน์ ไทยรัฐเทวินทร์ พงส.(สบ 2) ในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ สืบเนื่องวันที่ 28 พ.ย. 56 ที่ผ่านมา กลุ่ม กปปส.ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงรุมใช้ก้อนหินและเหล็กทุบรถและทำร้ายบาดเจ็บ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี หลังจากที่นายวุฒิพงศ์รับทราบข้อกล่าวหา ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 หมื่นบาทประกันตัวออกไป โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอไปให้การในชั้นศาล จากนั้นเดินทางกลับท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ
วันที่ 10 ม.ค. ม็อบเสื้อแดงกลุ่มโกตี๋ และเล็ก บ้านดอน กว่า 200 คนบุกรื้อทำลายข้าวของของคณะธรรมยาตราฯ ที่ปักหลักบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ ศูนย์ราชการ กรุงเทพฯ หัวหน้ากลุ่มธรรมยาตรา นายสมาน ศรีงาม เล่าเหตุการณ์ลงในเฟซบุ๊ก สมาน ศรีงาม ระบุม็อบเสื้อแดงบอกว่า “นายสั่งให้มารื้อทำลายให้หมด ให้รีบหนีไป ถ้ายังไม่ไปจะเผาให้วอดวาย” ในขณะที่อาจารย์คงฤทธิ์ สีหานาถ รักษาการณ์ประธานสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ ได้พยายามอธิบายให้ม็อบเสื้อแดงฟังแต่ก็ไร้ผล ซึ่งหลายคนอยู่ในอาการเมา พูดไม่รู้เรื่อง มุ่งรื้อทำลายสิ่งของอย่างเดียว
ยังไม่นับพฤติกรรมยาวเป็นหางว่าวของเขาในอีกหลายคดีต่อหลายคดี
หากย้อนไปดูปูมประวัติของเขาด้วยแล้วได้โปรดอย่าแปลกใจที่ทำไมโกตี๋ถึงได้กร่างคับประเทศได้ถึงขนาดนี้ เพราะถ้าหากพลิกปูมและสายสัมพันธ์ทางการเมืองแล้ว เชื่อว่าจะเข้าใจอันธพาลการเมืองตัวพ่อผู้นี้ได้เป็นอย่างดี
ที่ชัดเจนยิ่งก็คือ โกตี๋มีสายสัมพันธ์อันดีเยี่ยมกับ “เก่ง-การุณ โหสกุล”
ที่ชัดเจนยิ่งก็คือ โกตี๋มีสายสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับ “ส.ส.พรรคเพื่อไทย” จังหวัดปทุมธานี
ที่ชัดเจนยิ่งก็คือ โกตี๋มีสายสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับ “บิ๊กแจ๊ด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลผู้มีวันนี้เพราะพี่ให้
โดยขณะที่บิ๊กแจ๊ดถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม ทั้งในการติดป้าย “มีวันนี้...เพราะพี่ให้” และการปลุกม็อบตำรวจไปกดดันที่พรรคประชาธิปัตย์ โกตี๋ผู้นี้ก็เดินทางไปให้กำลังใจ และปรากฏภาพถ่าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์โอบกอดด้วยความสนิทสนม ในเฟซบุ๊ก “โกตี๋ แดงนอกคอก” ที่เขาแสดงไว้ด้วยความภาคภูมิใจด้วยที่ว่ามีแบ็กอัพดีไว้คุ้มกะลาหัว
ยิ่งหากนับความไว้วางใจที่ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์และ นช.ทักษิณ มีให้ก็ไม่ได้น้อยเลยด้วยซ้ำ ครั้งนึงโกตี๋ยกโขยงไปให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือสนับสนุนโครงการรับจำนำข้าวและมอบกระเช้าดอกไม้ให้กับน้องสาวของนายใหญ่ผ่านนายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้อย่างง่ายดาย กระทั่งผู้ชุมนุมกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ทนไม่ไหวต้องขึ้นเวทีโจมตีเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลที่มีพฤติกรรม 2 มาตรฐานเพราะกลุ่มคนเสื้อแดงมาถึงก็สามารถเข้าทำเนียบรัฐบาลได้ทันที ขณะที่กลุ่มของตนเองที่ชุมนุมถึงกว่า 2 วันถึงจะได้เข้าไป
ฉะนั้น หากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์จริงใจกับผู้ชุมนุม กปปส.อย่างเปิดเผยแล้วต้องออกมาจัดการโกตี๋ให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มิใช่ปล่อยให้ออกมาปั่นป่วนการชุมนุมโดยสงบของกลุ่ม กปปส. ยิ่งมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยแล้วยิ่งเป็นเสมือนการข่มขู่ให้คนไม่กล้าออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลในอีกทางหนึ่ง
แน่นอน ถามว่าใครจะได้ประโยชน์ ย่อมไม่พ้นฝ่ายรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นแล้วจึงอย่ามาอ้างว่าเป็นมือที่ 3 มือที่ 4 หรือคนกลุ่มไหนในการออกมาทำร้ายประชาชน ทางที่ดีควรกลับไปสั่งให้คนของตัวเองอยู่ในความสงบเรียบร้อยไม่ต้องออกมาป่วนให้คนบาดเจ็บเท่านั้นเป็นพอ