“รสนา” ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและประชาชนกว่า 100 คน ในนามเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน คัดค้านกระทรวงพลังงาน ขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ชี้ข้อมูลบิดเบือน จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนกรณีการประกาศปรับขึ้น ในปี 2556 เดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ต่อประชาชนที่สัญจรไปมา หน้าตึกซีพี ถนนสีลม โดยมีการสาธิตการทำผัดกะเพรา ล้อเลียนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขึ้นราคาก๊าซหุ้งต้มครั้งนี้ด้วย
วันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.พร้อมแนวร่วม ร่วมกันมาชุมนุมรณรงค์คัดค้านการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ที่รัฐบาลจะมีการปรับขึ้นราคา ที่บริเวณด้านหน้าอาคารซีพีทาวเวอร์ ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กทม.โดยมีการนำรถกระบะติดเครื่องขยายเสียง พร้อมชูแผ่นป้ายคัดค้าน และมีการแจกใบปลิวมาแจกให้กับประชาชนที่เดินผ่านไปมาบริเวณดังกล่าว น.ส.รสนา กล่าวว่า การที่ตนและกลุ่มแนวร่วมเดินทางมารณรงค์คัดค้านในวันนี้ เพื่อแสดงพลังคัดค้านจารการพยายามขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ของกระทรวงพลังงาน ในภาคครัวเรือน และภาคยานยนต์ โดยมีการโฆษณาผ่านสื่อซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงานในคณะกรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า โฆษณาดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนและบิดเบือน อีกทั้งจากสถานการณ์การใช้ก๊าซแอลพีจีในปัจจุบันทั้งภาคประชาชนและอุตสาหกรรม
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า ทางกลุ่มได้เห็นว่าปริมาณการใช้ก๊าซครึ่งหนึ่งเกิดจากภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.ปตท.ที่มีการขยายตัวอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ต้องมีการนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศ ดังนั้น การให้ข้อมูลว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากภาคครัวเรือนและยานยนต์ที่มีการสิ้นเปลือง จึงเป็นข้อมูลที่บิดเบือน นอกจากนี้ หากมีการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี คนที่ยากจนอาจไม่ได้ใช้เชื้อเพลิง จนเป็นเหตุให้ไม่เกิดความเป็นธรรมในสังคมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มจะมีการนัดรณรงค์คัดค้านกรณีดังกล่าวอีกครั้งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อีกครั้งเวลา 15.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.นี้
