เครือข่ายผู้บริโภคพลังงานอุบลฯ รวมตัวค้านขึ้นแอลพีจีภาคครัวเรือน

อุบลราชธานี - ชาวจังหวัดอุบลราชธานีหลายองค์กรรวมตัวคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีเพราะทำให้ข้าวแกงแพง เพิ่มภาระค่าครองชีพให้ประชาชน จี้รัฐเผยราคาต้นทุนจริงพร้อมเรียกเก็บค่าก๊าซแพงจากภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งได้ประโยชน์จากการนำก๊าซไปหากำไร ถ้าไม่ฟังเตรียมรณรงค์ต่อต้านอย่างเข้มข้นในปีหน้า

วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นางทัศนีย์ บุญประสิทธิ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จ.อุบลราชธานี พร้อมตัวแทนภาคประชาชนหลายองค์กร รวมตัวประท้วงและยื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ซึ่งกระทรวงพลังงานเตรียมเสนอให้ขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีในปี 2556 เดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 6.69 บาท

นางทัศนีย์ บุญประสิทธิ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาดังกล่าวในปีหน้าทำให้ราคาก๊าซหุงต้มมีราคาแพงขึ้นจากกิโลกรัมละ 18.13 บาท เป็นกิโลกรัมละ 24.82 บาท ภายใน 2 ปีราคาก๊าซบรรจุถังที่ใช้ในครัวเรือนขนาด 15 กิโลกรัมจากถังละ 300 บาท เป็น 500 บาท รวมทั้งก๊าซที่ใช้ในรถยนต์ก็จะมีการปรับราคาสูงขึ้นเป็นลิตรละ 19.34 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 67% จากราคาปัจจุบันที่ลิตรละ 11.56 บาท (1 กิโลกรัมเท่ากับ 1.85 ลิตร)

เพราะการปรับขึ้นราคาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนที่ใช้ก๊าซหุงต้มทั่วประเทศกว่า 4 ล้านครอบครัว รวมทั้งร้านหาบเร่แผงลอยอีกกว่า 3 แสนรายจะทำให้ราคาสินค้าในหมวดอาหารแพงขึ้นอย่างมากมาย ตรงกันข้ามกับภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งเป็นผู้ใช้ก๊าซแอลพีจีรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ คิดเป็นร้อยละ 36 ของผู้ใช้ก๊าซทั้งหมดในประเทศ ได้ใช้ก๊าซถูกกว่าคือกิโลกรัมละ 16.20 บาท จึงไม่เป็นธรรมต่อประชาชน ซึ่งเป็นผู้บริโภครายย่อยต้องมาแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีใช้ก๊าซได้ในราคาถูก รวมทั้งปัจจุบันราคาต้นทุนการผลิตก๊าซในประเทศบวกกำไรของผู้ผลิตมีต้นทุนเพียงกิโลกรัมละ 9 บาท ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัดเจน

ดังนั้น “หากกระทรวงพลังงานต้องการขึ้นราคาก๊าซ ซึ่งอ้างตามราคาตลาดโลกทั้งที่มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศเพียง 22% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในประเทศ 100% ก็ให้ไปขึ้นราคากับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพราะเป็นภาคธุรกิจที่ใช้ก๊าซธรรมชาติไปหากำไรไม่ควรมาขึ้นราคากับผู้บริโภครายย่อย”

นางทัศนีย์กล่าวต่อว่า การยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดวันนี้ หากรัฐบาลยังจะผลักดันให้มีการขึ้นราคาก๊าซตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ กลุ่มเครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดอุบลราชธานีจะรณรงค์ให้ประชาชนทั้งจังหวัดออกมาต่อต้านและเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเปิดเผยความจริงเรื่องแหล่งพลังงานภายในประเทศซึ่งถูกครอบครองโดยกลุ่มทุนทางการเมืองและหากินบนความเดือดร้อนของประชาชนต่อไปด้วย