ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แนวร่วมเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จ.สงขลา ออกแจกใบปลิว จัดขบวนแห่รณรงค์ พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูลการคัดค้านการปรับขึ้นราคา LPG ของรัฐบาล ก่อนที่จะไปยื่นหนังสือให้ “นายกฯ ปู” โดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
วันนี้ (20 ธ.ค.) แนวร่วมเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จังหวัดสงขลา พันธมิตรฯ สงขลา และประชาชนในจังหวัดสงขลา จัดขบวนรถแห่รณรงค์ และแจกใบปลิวคัดค้านนโยบายปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีในย่านเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่และในตัวเมืองสงขลา และในเวลา 14.00 น. แนวร่วมเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จังหวัดสงขลา กว่า 300 คน ได้ยื่นหนังสือคัดค้านขอให้พิจารณาหยุดนโยบายปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีกับประชาชน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อส่งต่อไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยมี นพ.อนันต์ บุญโสภณ เป็นผู้ยื่นหนังสือดังกล่าวให้แก่นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
โดยมีเนื้อหาพอสังเขปคือ จากการที่กระทรวงพลังงานเตรียมนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้ปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี กับภาคครัวเรือนและภาคขนส่งในปี 2556 ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ แนวร่วมเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จังหวัดสงขลา จึงขอยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาหยุดนโยบายดังกล่าว ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามข้อเรียกร้องดังนี้
1.รัฐบาลควรหยุดนโยบายปรับขึ้นราคาแอลพีจีกับภาคครัวเรือน และภาคยานยนต์
2.ก๊าซแอลพีจีที่ผลิตได้ รัฐบาลควรจัดให้ภาคประชาชนได้ใช้ก่อน เพราะก๊าซธรรมชาติมาจากแผ่นดินไทย ถือเป็นทรัพยากรของประชาชน ส่วนที่เหลือให้จำหน่ายแก่ภาคอุตสาหกรรมได้ หากไม่เพียงพอให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้รับภาระในการนำเข้าเอง
3.ให้เลิกนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนการใช้แอลพีจี ของธุรกิจปิโตรเลียม ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมเป็นการเอาเปรียบประชาชนผู้เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมัน
4.หนี้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันติดลบอยู่ประมาณ 17,000 ล้านบาท ในปัจจุบัน แทนที่รัฐบาลจะปรับขึ้นราคากับภาคขนส่ง และภาคครัวเรือนปีละ 3-6 บาทต่อกิโลกรัม รัฐบาลควรสั่งให้ธุรกิจปิโตรเลียมจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันอย่างน้อยกิโลกรัมละ 7 บาท เหมือนที่สั่งเก็บจากโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ จะทำให้หนี้กองทุนน้ำมันฯ หมดไปภายใน 1 ปี
5.ให้มีคำสั่งห้ามมิให้ปลัดกระทรวงพลังงาน และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการพลังงานเป็นกรรมการในธุรกิจพลังงานทั่งหมด เพราะเป็นการกระทำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และผิดหลังธรรมาภิบาลสากลอย่างร้ายแรง
หลังจาก นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รับหนังสือเรียบร้อยแล้ว ก็ได้รับปาก และยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า จะทำหนังสือโดยแนบสำเนาหนังสือฉบับนี้ถึงนายกรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงพลังงานให้เร็วที่สุด