ASTVผู้จัดการรายวัน - โพซิชั่นนิ่งเปิดตัวบุคคล “ผู้ทรงอิทธิพล”แห่งปีในทุกวงการที่มีบทบาทพวกเขาเหล่านั้นส่งผลการเปลี่ยนแปลงและกระทบต่อการเมือง-เศรษฐกิจ และ สังคม ไล่เรียงตั้งแต่ “พล.อ.อนุพงษ์-พล.อ.ประวิตร” ที่นำทัพสีเขียวผงาดเป็นกลุ่มอำนาจใหม่ผนวกกับ “เนวิน ชิดชอบ”ดันตัวเองขึ้นมาเทียบรุ่นนักการเมืองรุ่นใหญ่ได้ในฐานะคนค้ำเก้าอี้รัฐบาล ขณะที่ “ท่านผู้หญิงวิระยา” โผล่มาให้สังคมได้ประหลาดใจ
นิตยสารโพซิชั่นนิ่ง เล่มประจำเดือนพฤษภาคม 2552 ได้รายงานเรื่องพิเศษ “ผู้ทรงอิทธิพล”ประจำปี2552 ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่องกันมาโดยใน ปีนี้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกล้วนเป็นบุคคลที่น่าจับตามองเพราะ บทบาทของพวกเขาได้ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และ สังคมไทย
ทั้งนี้จากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมาเรียกได้ว่ามีวิกฤติเกิดขึ้นในทุกๆจุดดีกรีความรุนแรงของวิกฤติรอบนี้ ถึงขั้นนำไปสู่เหตุการณ์จลาจลกลางเมือง จากกลุ่มเสื้อแดง กลายสงกรานต์เดือด การลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการ และ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างอุกอาจด้วยอาวุธสงคราม ล้วนแต่มาจาก “เงื่อนปม” ทางการเมือง จากขั้วอำนาจเก่า และอำนาจใหม่ ที่ล้วนแต่มีเครือข่ายแนวร่วมโยงใยไปทุกกลุ่มในสังคม
องศาเดือดทางการเมืองเวลานี้ ไม่ได้มีเพียงกลุ่มเสื้อเหลือง และเสื้อแดง ยังมีเสื้อเขียว เสื้อน้ำเงิน ที่เกิดจากจับขั้วระหว่าง บิ๊กสีเขียว สีกากี รวมทั้งนักการเมืองรุ่นเก่า เพื่อสร้าง“กลุ่มอำนาจใหม่” ช่วงชิง มงกุฎแห่งอำนาจ แทนขั้วการเมือง ภายใต้ร่มเงาของอำมาตย์ ที่เคยเป็นที่พึ่งพิงในอดีต
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บิ๊กทหาร 2 นาย ที่ถูกสปอตไลต์สาดส่องตลอดเวลาในระยะนี้ เพราะสามารถทำให้”อิทธิพล” สีเขียวเจิดจ้า เป็นหนึ่งในแกนหลักเปลี่ยนขั้วทางการเมือง นำทหารสนับสนุนจัดตั้ง”รัฐบาลอภิสิทธิ์” ได้สำเร็จ
ทั้งสองเติบโตในเส้นทางทหารเดียวกันเป็น”ทหารเสือราชีนี” ”พยัคฆ์แห่งบูรพา” หรือ”ทหารนักรบภาคตะวันออก” ที่ประจำการที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์
แม้ตลอดเวลา พลเอกประวิตร หรือ ”บิ๊กป้อม”จะออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวพันกับกลุ่มก้อนทางการเมืองใด ๆ แต่เขาก็ได้เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลประชาธิปัตย์ สามารถปกป้องน้องชาย”พล.ต.อ.พัชราวาท วงษ์สุวรรณ” ให้อยู่ในเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ไม่ว่าในสถานการณ์ใด
เขาก็พรั่งพร้อมด้วยเครือข่ายที่สามารถหนุนให้เขาบิ๊กกว่าที่เคยเป็น ทั้งการเป็นผบ.ทบ. หรือแม้กระทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หากโชคชะตาของเขาเป็นไปตามคำทำนายเรื่องคุณสมบัติความ”โสด” เขาจะได้นั่งเก้าอี้”นายกรัฐมนตรี”ในอนาคต
แต่ไม่ใช่เพราะคำทำนายเท่านั้น แต่มาจากคอนเน็กชั่นทั้งตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนที่เซนต์คาเบรียล ทั้งหม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกลุ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย “ปัฐวาท สุขศรีวงศ์” อดีตผู้บริหารองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หรือ ทศท.ในอดีต และโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 6 ที่ยังคงมีบารมีต่อทหารรุ่นน้อง แต่ยังมีนักธุรกิจที่หากินกับแวดวงทหารมานาน และนักการเมือง”เนวิน ชิดชอบ” หรือแม้แต่อดีตสาวกของเครือข่าย”ทักษิณ ชินวัตร” ปัจจุบันที่เชื่อมั่นในตัวบิ๊กป้อม
ความฝันของ”บิ๊กป้อม” อาจไม่ง่ายนัก หากไม่มี”พลเอกอนุพงษ์” หรือบิ๊กป๊อก “บูรพาพยัคฆ์” รุ่นน้องที่คอยสนับสนุน หลายต่อหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์เดือด ที่”เสื้อแดง”ป่วนเมือง เพราะ”เกียร์ว่าง” ของทหารและตำรวจบางคน เป็นตัวสะท้อนชัดเจนถึงภาวะที่ว่า”ว่ายังไงว่าตามกัน” ของทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง
“บิ๊กป้อม”ค่อนข้างมั่นใจกับน้องคนนี้ จึงไม่ลังเลจนสามารถผลักดันให้เป็นทายาทนั่งเก้าอี้ผบ.ทบ. จนถึงปี 2553 และต่อไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ที่ให้ความเคารพต่อบิ๊กป๊อกอย่างยิ่ง ที่ยังเหลืออายุราชการในทหารถึงปี 2557 หากพลเอกประยุทธ์ได้เก้าอี้ผบ.ทบ.ต่อจาก”บิ๊กป๊อก” นั่นหมายถึงฐานของพลเอกประวิตรนั้นมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง
แม้จะกลายเป็นคนนอก ติดอยู่ในบ้านเลขที่ 111 แต่หมอผีเขมรแห่งบุรีรัมย์ “เนวิน ชิดชอบ” กลับกลายเป็น “ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง” ในยุคนี้ เบียด 3 ผู้เฒ่าทางการเมือง เสนาะ เทียนทอง,สนั่น ขจรประศาสตร์,บรรหาร ศิลปอาชา ไปแทบสนิท
ยิ่งเมือเขา ตีจาก“นายใหญ่” เคยทำงานแบบถวายหัว มาจับมือพรรคประชาธิปัตย์ จนทำให้เขาได้เค้ก คุมกระทรวงมหาดไทย และคมนาคมกระทรวงเกรดเอ ที่จะใช้ตุนทั้งฐานเสียง และทุนไว้ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ได้สบายๆ แล้ว
วันนี้ เนวิน ยังก้าวไกลไปกว่านั้น เพราะเขาได้ก้าวผ่าน ทางเชื่อมจากพรรคประชาธิปัตย์มาจับมือกับ บิ๊กสีเขียว สร้างเครือข่าย สีนำเงิน เพื่อนำไปขั้วอำนาจใหม่ทางการเมือง ด้วยรูปแบบที่จอมขมังเวทย์ผู้นี้ถนัดเป็นอย่างยิ่ง
ไม่น่าแปลกที่ชื่อของเขา “เนวิน ชิดชอบ” ถูกคาดหมายว่า จะนั่งในทำเนียบนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทยไปเรียบร้อยแล้ว
แม้แต่บุคคลที่อยู่เหนือความคาดหมาย อย่าง “ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล” สุภาพสตรีชั้นสูง อดีตไฮโซสุดเปรี้ยวในยุคอดีต ที่ผันตัวมาทำงานการกุศลมากมาย ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการ และเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ที่ได้คลุกคลี มีเครือข่ายกับทหาร และตำรวจ เธอได้สร้าง “ความประหลาดใจ”ไปทั่ววงการ เมื่อเธอออกมาปกป้องทักษิณ ชินวัตร ก่อนการปลุกม็อบเสื้อแดง ทำให้คำพูดของทักษิณมีน้ำหนักขึ้นมาทันที แต่ความน่าเชื่อถือของเธอก็หมดลง เมื่อทักษิณเดินเกมพลาด
แต่ใช่ว่าบทบาทของเธอจะยุติลง ด้วยเครือข่ายกับทหาร และตำรวจที่เธอมี ยิ่งเมื่อมาได้กำลังเงินอย่างทักษิณมาหนุนด้วยแล้ว ท่านผู้หญิงวิริยา อาจเป็น The surprise factor ทางการเมืองที่มองข้ามไม่ได้
ผู้ทรงอิทธิพลเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของภาพสะท้อนปัญหาการเมือง ที่กำลังนำพาสังคมไทยไปสู่จุดล่อแหลม การต่อสู้ เพื่อรักษาอำนาจทั้งจากขั้วการเมืองเดิม ภายใต้ร่มของระบอบอำมาตย์ การดำรงอยู่ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การต่อต้านจากเครือข่ายระบอบทักษิณ และม็อบเสื้อแดง การเกิดของขั้วอำนาจใหม่ เพื่อแย่งชิงอำนาจทางการเมือง
เครือข่ายอำนาจ ของกลุ่มอิทธิพลกลุ่มใด ที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทยในเวลานี้ หาคำตอบได้ใน “ผู้ทรงอิทธิพล ปี 2009 ” นิตยสาร Positioning ฉบับเดือน พฤษภาคม 2552
ติดตามรายละเอียดที่ นิตยสารโพซิชั่นนิ่ง