xs
xsm
sm
md
lg

ยามเฝ้าแผ่นดิน : แฉเบื้องหลังนักวิชาการ “ไข่แม้ว” - อัดแก๊งป่วนจงใจยั่วยุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยามเฝ้าแผ่นดิน” แฉเบื้องหลัง"วรพล"อาจารย์ มธ.อุทิศชีวิตปกป้อง“ระบอบทักษิณ” ยื่น “ชูศักดิ์” โละกฎหมาย สนช. – ล้มประกาศ คปค.แต่งตั้ง คตส.หวังช่วย “แม้ว” พ้นผิด พร้อมระบุแก๊ง“ไข่แม้ว”จงใจขอจัดชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ 28 มี.ค.เจตนายั่วยุ จี้รัฐบาล"หมัก"รีบปรามด่วน

รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางงเอเอสทีวี วันที่ 17 มีนาคม 2551 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ดำเนินรายการ


คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ  ช่วงที่ 2


จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะคุณผู้ชมคะ ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการยามเฝ้าแผ่นดิน วันนี้วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พุทธศักราช 2551 วันนี้คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และดิฉัน จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ มารับหน้าที่นะคะ เห็นบอกคุณปานเทพมีเรื่องค้างตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา พูดถึงคุณสุธา ชันแสง

ปานเทพ - คุณสุธา ชันแสง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมได้ตั้งข้อสังเกตว่า คุณสุธา ชันแสง เข้าสู่การเมืองในฐานะเป็นสมาชิกสภากรุงเทพ ตั้งแต่ปี 2528 และตั้งแต่ปี 2528 จนกระทั่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คุณสุธา ชันแสง ได้รายงานตัวเองว่าจบการศึกษาเพียงแค่ ม.ศ.5 แล้วรายงานนี้ปรากฏทั้งในทำเนียบของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายยุคหลายสมัย แม้กระทั่งแผ่นพับใบปลิวการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คุณสุธา ชันแสง ก็ประกาศตัวเองว่าเป็นคนที่จบ มีวุฒิการศึกษาอยู่ที่ ม.ศ.5 จนกระทั่งวันหนึ่งปรากฏว่า มีหนังสือจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปชี้แจงต่อนิตยสารฉบับหนึ่งว่า คุณสุธา ชันแสง จบจากมหาวิทยาลัยของฟิลิปปินส์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Repubbican College ตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปี 2550 23 ปี ที่คุณสุธา ชันแสง ไม่เคยบอกว่าตัวเองนั้นจบวุฒิปริญญาตรี

จินดารัตน์ - ก็เห็นบอกว่าอ้างว่า มหาวิทยาลัยนี้เมื่อก่อนนี้ ก.พ. ไม่ได้รับรอง พึ่งจะมารับรองในภายหลังนี่เอง ก็เลยไม่รู้จะอ้างถึงไปทำไม ให้เหตุผลอย่างนั้นคะ

ปานเทพ - ก็ครับ เพื่อความเป็นธรรมนะครับ ต้องขออนุญาตอ่านคำชี้แจงของ คุณสุธา ชันแสง ไปสัมภาษณ์อยู่ในกรุงเทพธุรกิจนะครับ เมื่อตอนสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณสุธา ชันแสง บอกว่าตัวเองนั้นจบปริญญาตรีแน่นอน โดยเรียนจบจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์

จินดารัตน์ - คือเหตุผลที่พ่อ- แม่ ส่งไปเรียนฟิลิปปินส์เพราะว่าค่อนข้างเกเร

ปานเทพ - สมัยเด็ก ผมก็ยอมรับนะครับว่าผมค่อนข้างจะเกเร พอจบระดับมัธยมศึกษาแม่ก็เลยส่งผมไปเรียนต่อที่ฟิลิปปินส์ ตอนนั้น พ.ศ.2523 แล้วก็จบปี 2527 แต่ช่วงที่ผมจบมาปริญญาที่วิทยาลัยที่ผมเรียนแห่งนั้นยังไม่ได้รับรองจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ฉะนั้นเวลาผมไปแจ้งวุฒิการศึกษาที่ไหน รวมทั้งสมัยที่ผมลง ส.ก. คือ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผมก็ยังไม่ได้แจ้งวุฒินี้ เพราะถ้าผมแจ้งวุฒิปริญญาจะมาหาว่าผมแจ้งเท็จอีก เนื่องจากตอนนั้น ก.พ.ยังไม่รับรอง นี่เป็นเหตุผลที่คุณสุธาพูดมา ในเว็บไซต์นี้เขามีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องของสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อโดยอีเมล์ อีเมล์ที่ถ้าเป็นเว็บไซต์อื่นของมหาวิทยาลัยเขาจะบอกว่า .edu.ph edu ย่อมาจาก education แปลว่า การศึกษา และ ph คือ philippines แต่ถ้าเป็นที่นี่ก็จะเป็น อีเมล์นะครับ E-mail Repubbican College@yahoo.com เลยมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนตั้งข้อสังเกตและอยากให้คุณสุธาช่วยอธิบาย ผมก็แนะนำไปว่า การที่ไม่มีเว็บไซต์ของตัวเอง การที่มีข้อสังเกตว่าคุณสุธาไม่เคยชี้แจงมาตลอด 23 ปี มันเป็นเรื่องที่หลายคนตั้งข้อสังเกต อยากให้คุณสุธาชี้แจง และถ้าคุณสุธาชี้แจงได้ ดีที่สุดคือเอาพาสปอร์ตมาโชว์เลยว่า ตัวเองเดินทางไปฟิลิปปินส์จริงๆ จะหมดข้อครหา อย่างที่หลายคนสงสัยจริง

จินดารัตน์ - แล้วกลับมาเมื่อไหร่

ปานเทพ - แล้วกลับมาเมื่อไหร่ อย่างไร

จินดารัตน์ - แล้วใบปริญญาก็น่าจะยังอยู่นะคุณปานเทพ

ปานเทพ - ก็น่าจะยังอยู่นะ เขาก็บอกว่าอยู่ เขาคงเอาไปนำเสนอตอนที่ เขาบอกว่าอย่างนี้ครับ เวลาต่อมาจำไม่แน่ชัดประมาณปี 2537, 2539 ทาง ก.พ.ได้รับรองวุฒิการศึกษาสถาบันที่ตัวเองนั้นเรียน จนกระทั่งเมื่อมาสมัคร ส.ส.ได้รับการเสนอชื่อให้ตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เลยแจ้งวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีที่จบมา คุณสุธา บอกว่า ตัวเองได้ส่งประวัติและวุฒิการศึกษาให้ทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบแล้ว ซึ่งเลขาฯ ครม.มีการตรวจสอบโดยส่งไปให้ ก.พ.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง นักข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ระหว่างสัมภาษณ์นั้นไม่ได้พูดชื่อมหาวิทยาลัยแม้แต่ครั้งเดียวว่าจบจากที่ไหน ก็พูดว่าแห่งนั้น แล้วก็จบไป ทีนี้ผมยินดี ดีใจ

จินดารัตน์ - หรือจำชื่อมหาวิทยาลัยไม่ได้คะ

ปานเทพ - ผมไม่ทราบครับ

จินดารัตน์ - ผ่านมา 20 กว่าปี

ปานเทพ - เอาเป็นว่าอย่างนี้คุณแอน ผมก็ยินดีที่รัฐมนตรีชี้แจงทำให้เกิดการคลายข้อสงสัย ที่ปรากฏว่าคุณสุธา ชันแสง เป็นคนที่กลัวว่า การที่จะไปใช้วุฒิการศึกษาที่ไม่รับรองจากทาง ก.พ. เนี้ย ก็อาจจะไม่สามารถทำให้ใช้ได้ในหน่วยงานราชการ เสมือนว่าไม่ได้จบปริญญาตรี เพราะปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นการจบมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ

จินดารัตน์ - ต้องเอามาเทียบวุฒิ

ปานเทพ - ต้องเอามาเทียบวุฒิว่า เท่ากับจบปริญญาตรีจริงหรือไม่ ในประเทศไทย การทำแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสมัครเป็น ส.ส. ไม่ว่าจะเป็นในระบบบัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส. เขตก็ตามเนี้ยนะครับ หรือว่า ส.ส. สัดส่วน ทุกคนต้องไปเอาวุฒิการศึกษาต่างประเทศ ของตัวเองนั้นไปเทียบวุฒิกับ ไม่ว่าจะเป็นจากทบวงมหาวิทยาลัยในอดีต หรือว่าจะเป็น ก.พ. ก็ตาม เมื่อรับรองแล้วว่าเขารับรอง ก็หมายถึงว่ารับรองได้ว่ามีคุณภาพและมาตรฐานครบถ้วน จึงได้ถือว่าเป็นปริญญาตรีจริง

จินดารัตน์ - ถ้าสมัยนี้จะใช้คำว่ามีคุณภาพและมาตรฐาน คงไม่ได้แล้วมั้งคะ

ปานเทพ - แล้วเรียกว่าอะไรครับ แต่ว่าทีนี้เป็นอย่างนี้ครับ นิดเดียวครับก็คือว่า ประเด็นที่ผมตั้งข้อสงสัยก็คือว่า คุณสุธา น่าจะเปิดเผยว่าตัวเองเดินทางไปต่างประเทศ อย่างที่ว่านั้นจริง มีพาสปอร์ตก็ยังไม่เป็นอะไร เอารูปถ่ายมาดูซิครับ ว่าผมเรียนอยู่ที่นี่เมื่อปี พ.ศ. นี้ ตึกนี้ไง ผมเรียนอยู่ที่นี่

จินดารัตน์ - แล้วก็ไม่ได้บอกด้วยใช่ไหมคะ ว่าเรียนคณะอะไร

ปานเทพ - เขาบอกนะ บอกว่าเขาเรียนด้านพาณิชยศาสตร์นะครับ ก็ไม่มีใครว่าอะไรครับ แต่ว่าผมว่าเอารูปถ่ายมาให้ทุกคนดูๆ ว่า คุณสุธา จบเนี้ย มีเพื่อนชื่ออะไรบ้าง ทำอะไร ทุกคนจะหายข้อสงสัยทันทีเลย

จินดารัตน์ - ก่อนอื่นต้องไปท่องชื่อมหาวิทยาลัยให้ได้ก่อนนะคะ

ปานเทพ - ประการถัดมา ก็คือว่าถ้าสมมติว่า ก.พ. ไม่รับรองในปี 2527 และ คุณสุธา เนี้ย จบปีการศึกษา 2527 แล้วมารับรองมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในปี 2537 หรือ ปี 2539

จินดารัตน์ - 10 ปี ให้หลัง

ปานเทพ - ก็หมายถึงว่ามหาวิทยาลัยแห่งนั้น ก็อาจจะปรับคุณภาพของตัวเอง มาจนกระทั่งให้เป็นที่ยอมรับกับต่างประเทศในปี 2537 หรือปี 2539 ตามที่คุณสุธา พูดมาเนี้ยนะครับ ก็หมายถึงว่า

จินดารัตน์ - อะไรที่จบก่อนหน้านั้น จะมีคุณภาพมาตรฐาน ทัดเทียมกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ ก.พ. รับรองหรือไม่

ปานเทพ - คุณแอน พูดมีประเด็นมากเลย การรับรองของ ก.พ. เป็นที่น่าสนใจว่า ทางสื่อสารมวลชนน่าจะไปถาม ก.พ. ว่า การรับรองมหาวิทยาลัยเหล่านี้นะครับ รับรอง ณ คุณภาพและมาตรฐาน ในช่วงปีนั้นใช่หรือไม่ แล้วการที่ไม่รับรองปี 2537 เป็นเวลาเรื่อยมา หมายถึงว่าระยะเวลาตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปี 2537 หรือ 2539 ตามที่คุณสุธา พูดเนี้ย มีมาตรฐานครบถ้วน เหมือนจบปริญญาตรีจริงหรือไม่

จินดารัตน์ - คือง่ายๆ ว่า มีผลย้อนหลังไหม ก่อนที่จะรับรองเนี้ยนะคะ

ปานเทพ - เพราะว่าวุฒิการศึกษาของแต่ละคนเนี้ยนะครับ เขาก็พูดจริงๆ ว่ามีมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ที่เป็นมหาวิทยาลัยห้องแถว ไม่ได้มาตรฐาน จบกันง่ายๆ เนี้ยนะครับ

จินดารัตน์ - คะ

ปานเทพ - และก็ไม่สามารถเทียบกับการจบปริญญาตรี ในประเทศไทยนี่มีมากนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าทาง ก.พ. ทำให้ชัดเจน หรือว่านักข่าวไปถามให้ชัดเจน ก็จะเป็นการดีว่า การรับรองในปี 2537 เนี้ย หมายถึงว่าย้อนหลังไปดึกดำบรรพ์ 50 ปี ก่อนหน้านั้น 40 ปี ก่อนหน้านั้น ทั้งหมดเลยหรอกหรือ หรือว่าอย่างไร

จินดารัตน์ - อืม, จะได้กระจ่างชัด จะได้ไม่ต้องเป็นที่เพ่งเล็ง แล้วคนเขาก็ไปวิพากษ์วิจารณ์กันนะคะ เอาละคะมาถึงเรื่อง

ปานเทพ - ถ้ารับรองปี 2537-2539 จริง ทำไมระหว่างทางตั้งแต่ปี 2537-39 ถึงปี 2551 10 กว่าปี คุณสุธาไม่เคยใช้วุฒินี้ประกาศในทำเนียบของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้แต่ครั้งเดียว ถ้าเป็นความภาคภูมิใจว่าตนเองนั้นจบปริญญาตรีจริง ขออนุญาตตั้งข้อสังเกตอย่างนี้จริงๆ

จินดารัตน์ - ขี้สงสัยนะ

ปานเทพ - ขี้สงสัย

จินดารัตน์ - เป็นคนขี้สงสัย หลายประเด็นนะคะ ฝากไปด้วย ทั้ง ก.พ. ทั้งตัวรัฐมนตรีเองว่า ถ้าไม่อยากให้ใครมาวิพากษ์วิจารณ์สงสัยไปนู้นสงสัยไปนี่ ก็ต้องออกมาทำให้ตัวเองโปร่งใส ทำให้ตัวเอง คือชัดเจนว่า ตกลงอย่างไรกันแน่ มาตรฐานอยู่ตรงไหนอย่างไรด้วย ถ้าอย่างนี้ดิฉันสงสัยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ คุณจะช่วยเหลือกันไหม เอาชัดๆ

ปานเทพ - ทำอย่างไรครับ

จินดารัตน์ - บอกไปทางสถานทูตฟิลิปปินส์ว่า ไปดูซิมหาวิทยาลัยนี้เป็นอย่างไร ว่าที่ 10-20 ปีที่ผ่านมา เป็นมหาวิทยาลัยจริงหรือเปล่า หรือเป็นมหาวิทยาลัยห้องแถวที่ย้ายไปเรื่อยๆ หรืออย่างไร

ปานเทพ - ถ้าก็ดีครับ ทำให้เกิดความชัดเจน ก.พ.ควรชี้แจงว่าตัวเองนั้นรับรองในสถานภาพ ณ ปีไหน จากรุ่นไหน

จินดารัตน์ - แล้วมีผลย้อนหลังไหม

ปานเทพ - ผลย้อนหลังไหม

จินดารัตน์ - เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การประกาศจุดยืนชัดเจนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แล้วก็มีแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ออกมาว่าจะมีการจัดสัมมนาเรื่องเกี่ยวกับการบ้านการเมืองดูสถานการณ์บ้านเมืองผ่านรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปรากฏว่าตลอดสัปดาห์ก็มีคนในรัฐบาล ทั้งรัฐมนตรี ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ออกมา ดาหน้าออกมาขู่สารพัดขู่ ต้องเรียกว่าขู่เลยละค่ะคุณปานเทพ เพราะแม้แต่ มท.1 อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ออกมาพูดเตือนสติว่า เป็นเพื่อนรักกัน คุณสนธิต้องระวังตัวเดี๋ยวจะติดคุกคนเดียว เดี๋ยวศาลท่านจะยึดประกันซะ และไม่ให้ประกันตัวมาอะไรเนี่ย จับตัวเข้าคุกไป เดี๋ยวจะติดคุกคนเดียว ขู่สารพัด ปรากฏว่าวันนี้ค่ะ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาเปิดเผยแล้วนะคะว่า ในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ จะไม่เพียงแต่จะเข้าร่วมเท่านั้น แต่จะขึ้นเวทีอย่างแน่นอน และไม่กลัวคำขู่ของคุณเฉลิม รวมทั้งบรรดาลิ่วล้อของระบอบทักษิณที่ออกมาขู่โดยตลอด ที่บอกว่าการขึ้นเวทีของคุณสนธินั้นอาจจะทำให้ศาลยกเลิกการประกันได้ และคุณสนธิยังพูดอีกว่า การเคลื่อนไหวของผมอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญที่ระบุถึงเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นที่สุจริต ดังนั้นผมจึงไม่กลัวว่าจะผิดเงื่อนไขของการประกันตัว แล้วยืนยันว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ แน่นอน

ปานเทพ - คนที่ขู่นะครับ จะมีทั้งตั้งแต่ อาจจะไม่ใช่ขู่ก็ได้ อาจจะเป็นการเตือนก็ได้ ก็มาจากทั้งคุณเฉลิม ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 26 แล้วก็อาจจะมีในส่วนของนักวิชาการบางส่วน แล้วก็อาจจะมีหลายคนในกลุ่มของทางคนที่สนับสนุนพรรครัฐบาล คล้ายๆ กับเกิดอาการกลัว กลัวการขึ้นเวทีของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และจะว่าไปแล้วในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา การโจมตี การลดความน่าเชื่อถือ พุ่งเป้าไปที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล คนเดียว และรู้ว่ามีสื่อในมือ ASTV ผู้จัดการ FM 97.75 และอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ www.manager.co.th ขออนุญาตโฆษณาครบ 4 สื่อ ทำให้เห็นว่า การปิดกั้นหรือว่าการจัดการเพียงแค่คนๆ เดียว เชื่อว่าจะสยบปัญหาได้ทั้งหมด และหนึ่งในประเด็นนั้นก็คือ การหยิบยกคำพิพากษาของศาลว่า ไม่ควรมีการเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นเดิมอีก อย่างนี้เป็นต้น หรือการกระทำในลักษณะเช่นเดิมอีก ละเว้นกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความผิดเช่นเดียวกันอีก คำพูดอย่างนี้ที่ศาลทางจังหวัดเชียงรายเกิดขึ้นในคดีหมิ่นประมาท และทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า จะหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาก คล้ายๆ เป็นเครื่องมือในการข่มขู่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทีนี้ เคลื่อนไหว พูดจา ได้ไหมคุณแอน ขึ้นเวทีได้ไหม ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญได้ไหม ในเมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดความเห็น ในการพูด และการชุมนุมโดยสงบอหิงสาปราศจากอาวุธ ซึ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่เคยมีอาวุธ สงบตลอด อหิงสาตลอด และไม่เคยก่อความไม่สงบ ฝ่ายรัฐบาลมักจะเตือนทางฝั่งพันธมิตรฯ ว่า อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย อย่าผิดกฎหมาย ในทางตรงกันข้าม นปก.ต่างหาก หรือ นปช.ในวันนี้ ในอดีตนะครับ ก็เคยใช้วิธี กระบวนการในการที่รุนแรง ตรงกันข้าม ทุกวันนี้ยังเคลื่อนไหวอยู่นะครับ ยื่นจดหมายที่นั่นที่นี่ แล้วข่มขู่ทุกวิถีทาง หรือแม้กระทั่งบอกว่า จะข่มขู่ว่า จะขนคนมาใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เดียวกัน ทั้งๆ ที่รู้ว่า

จินดารัตน์ - เผชิญหน้า

ปานเทพ - พันธมิตรฯ เขาจองไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว นี่คืออาการเหมือนกับกลัวมาก กลัวมากเลยคุณแอน

จินดารัตน์ - ออกอาการ

ปานเทพ - ออกอาการชัดเจนมาก หรือว่าจะทำการปะทะกัน ตาต่อตาฟันต่อฟัน ระวังปากกระบอกปืนจะไม่หันไปยังรัฐบาลเหมือนคราวที่แล้ว หรือว่าระวังจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ อย่างนี้เป็นต้น ผมว่าเป็นการคุกคามการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างฮึกเหิม อย่างที่เรียกว่า ไม่เกรงกลัวต่อสถานการณ์การเคารพในสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเลย

จินดารัตน์ - คือจะว่าไปแล้ว

ปานเทพ - ไม่น่าจะเป็นวิสัยของทางรัฐบาลใช่ไหมคุณแอน เอาละ เอาประเด็นที่ 1 ก่อนว่าคุณสนธิมีสิทธิ์ขึ้นเวทีไหม อย่างนี้ครับ เรื่องนี้ทำกันอย่างไม่เปิดเผยแล้วปรากฏว่า เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ มีเอกสารอยู่ในมือ กล้องต้องโคสต์เข้ามานิดหนึ่งครับ เข้ามาใกล้ๆ นะครับ นี่เป็นคดีดำหมายเลขดำที่ 1397/2549 ที่ศาลจังหวัดเชียงราย เดือนมีนาคม 2551 ความอาญา ระหว่างคุณเก่งกาจ ศรีหาศาล โจทก์ที่ฟ้องจำเลย คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นข้อหาหมิ่นประมาท ที่ข้อหานี้คือการลงโทษโดยไม่รอลงอาญา แล้วหนึ่งในท้ายข้อความนั้นระบุถึงในเรื่องของการห้ามเคลื่อนไหว หรือว่าทำกิจกรรมในลักษณะแบบนี้อีก ก็ปรากฏว่า ทางทนายของเรา ของพันธมิตรฯ และของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็คือ คุณสุวัตร อภัยภัก ไปยื่นร้องต่อศาลจังหวัดเชียงราย ให้ท่านวินิจฉัย บอกว่าอย่างนี้ครับ ในวันที่ ผมอ่านโดยสรุปบางมาตรา ข้อ 2. วันที่ 28 มีนาคม 2551 เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจำเลยเป็นหนึ่งในคณะแกนนำดังกล่าว ได้ร่วมกับนักวิชาการจัดให้มีการสัมมนาในทางวิชาการ และวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาล อันเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ในมาตรา 43, 45 และ 46 และกล่าวอ้างถึงคุณเฉลิม วันที่ 14 มีนาคม ทำนองว่า คุณเฉลิมเตือนสนธิระวังติดคุก แม่ทัพภาคที่ 1 ชี้ม็อบพันธมิตรฯ ไม่ป่วน และมีข้อความในเนื้อข่าวว่า เฉลิมเตือนสนธิระวังติดคุกทำผิดเงื่อนไขประกันตัว รายละเอียดตามปรากฏหน้า 1 หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 14 มีนาคม 2551 นี่ก็ ทีนี้ก็ปรากฏว่า จากเหตุดังกล่าว ประธานกราบเรียนมาข้างต้น จำเลยจึงขอกราบเรียนต่อศาลจังหวัดเชียงรายที่เคารพว่า คำว่า ละเว้นกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความผิดเช่นเดียวกันอีกนี้ จะหมายรวมถึงการจัดสัมมนาทางวิชาการ ในวันที่ 28 มีนาคม 2551 นี้ด้วยหรือไม่ และในกรณีที่จำเลยจำต้องเรียกร้องให้เกิดความเป็นธรรมในบ้านเมืองโดยใช้สิทธิตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ จำเลยจะกระทำได้หรือไม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พันธมิตรฯ ชุมนุมกันโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่เคยมีเรื่องรุนแรง เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ผิดกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ที่ชุมนุมด้วยการยั่วยุ รุนแรง ดังนั้นขอศาลจังหวัดเชียงรายได้โปรดอธิบายขยายความคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยทราบด้วย ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด นะครับ คุณสุวัตร อภัยภัก ทนายจำเลย เป็นผู้เรียบเรียงและพิมพ์
ผมก็ปรึกษาอยู่นานกับคุณสนธิว่า จะเปิดเผยไหมว่า สุดท้ายคำสั่งศาลเป็นอย่างไร ทนายสุวัตร อภัยภัก ก็ได้ชี้แจงว่า น่าจะเปิดเผยเพื่อประชาชนได้รับรู้และเกิดความเชื่อมั่นเลยว่า ศาลท่านมีความเห็นว่าอย่างไรจากคำร้องที่ว่านี้ ทีนี้ก็คุณสนธิเลยเห็นว่า เข้าใจคุณสุวัตร อภัยภัก ต้องการเช่นนี้ ผมเลยขออนุญาตนำมาเปิดเผยว่า ศาลท่านว่าอย่างไร คำสั่งศาล ตามคำสั่งศาลที่วางเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยสามารถเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการได้ และดำเนินการตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ แต่การกระทำดังกล่าวจะต้องไม่เป็นการใส่ร้าย ใส่ความบุคคลอื่น อันจะเป็นความผิดทำนองนี้อีก หรือหมิ่นประมาท เว้นแต่จะเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย ชัดเจนไหมครับ ชัดเจนนะครับ

จินดารัตน์ - ชัดค่ะ

ปานเทพ - เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกคนจึงไม่ต้องกังวล

จินดารัตน์ - เลิกพูดได้แล้ว

ปานเทพ - เลิกพูดได้แล้ว

จินดารัตน์ - เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว

ปานเทพ - ที่เลิกพูดได้แล้ว ก็คือคนแรกเลย ผมคิดว่าคุณเฉลิม อยู่บำรุง ต้องเลิกพูดไปก่อนเลย กลุ่มคนที่ 2 คงจะต้องพูดถึง นักวิชาการบางกลุ่ม โดยเฉพาะนักวิชาการจากสถาบันที่ถือว่าเป็นหลักเป็นฐานในเรื่องประชาธิปไตยในการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ก็คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เฉพาะ

จินดารัตน์ - เฉพาะคนนะคะ เฉพาะบางคน

ปานเทพ - เฉพาะอาจารย์บางคน วันนี้มีข่าวใช่ไหมคุณแอน

จินดารัตน์ - คืออาจารย์ที่ลูกศิษย์บางคนเรียก บางคนเลิกเรียกไปแล้ว อ.วรพล พรหมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดิฉันว่าคณะผิดนะคะ น่าจะเป็นคณะสังคมมานุษยวิทยา หรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ เป็นตัวแทนคณะนักวิชาการ เข้ายื่นต่อนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนกฎหมายผ่านการพิจารณาของ สนช. รวมไปถึงรัฐธรรมนูญปี 50 เพราะเห็นว่าเป็นช่วงที่การเมืองไทยถูกควบคุมโดยอำนาจรัฐประหาร ก็เข้าไปพูดต่างๆ นานา ให้เหตุผลต่างๆ นานา ว่าช่วงปีที่ผ่านมา กฎหมายผ่านการพิจารณา สนช. รวมถึงรัฐธรรมนูญปี 50 ถูกประกาศใช้ในช่วงที่การเมืองอยู่ในช่วงอำนาจรัฐประหาร ปรากฏว่า มีการทบทวนกฎหมาย หรือมีกฎหมายออกมาร่วม 200 ฉบับ ไม่ต่ำกว่า 200 ฉบับ ขอให้มีการทบทวนกฎหมายดังกล่าวนี้ทั้งหมดด้วย อันใดเป็นคุณเป็นโทษให้พิจารณา โดยเฉพาะถ้าเป็นโทษให้ยกเลิกได้เลยทั้งฉบับแล้วออกกฎหมายฉบับใหม่มาแทน หรือว่าปรับปรุงแก้ไข ปรากฏว่า คุณชูศักดิ์ ศิรินิล ออกมารับลูกเลยค่ะ ทันทีทันควันว่า ก็คงจะเอาเรื่องนี้ไปถามวิปรัฐบาล และแนะนำอาจารย์วรพลว่า ควรจะเอาหนังสือร้องเรียนไปบอกฝ่ายค้านด้วย แต่ปรากฏว่าอย่างไรรู้ไหมคะคุณปานเทพ คือ ดูไปดูมารายชื่อของนักวิชาการที่ไปร่วมยื่นหนังสือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไปร้องกองปราบฯ ให้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะมีการจัดสัมมนาวิชาการกันในวันที่ 28 นี้ด้วย นอกจาก อ.วรพล แล้วมีอยู่ท่านหนึ่ง รายชื่อน่าสนใจมาก คือ นายเมธาพันธุ์ โพธิธีรโรจน์ เป็น 1 ใน 9 แกนนำ นปก. รุ่นที่ 2 แล้วเคยขึ้นเวทีปราศรัยโจมตี คมช.ที่สนามหลวงด้วย แถมยังพบว่า นายวรพล พรหมิกบุตร ที่ถูกทาบทามให้เป็น เข้ามาดูแลสถานีโทรทัศน์ MV 26 ซึ่งเป็นของพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาล ฝั่งอำนาจเก่า แล้วยังมีข่าวว่า จักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำ นปก. รุ่น 1 เคยทาบทามคุณวรพล นายวรพลให้มาดำรงตำแหน่งโฆษกรัฐบาล แต่ภายหลังตำแหน่งนี้ตกไปอยู่ที่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุขโชติรัตน์ คนสนิทของคุณทักษิณ เลยกลายเป็นว่า คนก็มีคำถามว่า อ๋อ ที่มาที่ไปแบบนี้นี่เอง แล้วจะให้เข้าใจว่าอย่างไร

ปานเทพ - คุณแอนครับ คือผมจะบอกว่า รายชื่อเวลาใช้อ้างอิงว่าเป็นอาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเฉพาะท่าน รศ.ดร.วรพล พรหมิกบุตร ประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจว่า ดูซินักวิชาการไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ นักวิชาการเหล่านี้เห็นว่ากฎหมายมันดูแย่มาก ผมอยากจะบอกว่า ถ้าดูรอยประวัติของ คนอย่าง อ.วรพล พรหมิกบุตร อย่างที่คุณแอนเล่ามาบางส่วน เราจะเห็นย้อนกลับไปว่า เขามีความสัมพันธ์กับ นปก.จริงๆ ไม่ใช่ในนามความรู้สึกว่าเป็นสถาบันที่ต้องการผดุงไว้ซึ่งความเป็นธรรมหรอก เขาเลือกยืนข้างระบอบทักษิณอย่างชัดเจน ในสายตาที่ผมมอง

จินดารัตน์ - ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วใช่ไหมคะ

ปานเทพ - ตั้งแต่ เช่น 20 มิถุนายน 2550 อ.วรพล ขึ้นเวทีปราศรัย นปก. ท้องสนามหลวง ปราศรัยเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยและมีทุนทรัพย์เพียงพอ ให้ช่วยกันบริจาคเงินในการต่อสู้กับเผด็จการ หรือแม้กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย 1.นะครับ 2. เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 คุณวรพล ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องให้ปล่อยตัว 8 แกนนำ นปก. หลังจากก่อเหตุนำผู้ชุมนุมทำลายข้าวของหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ดูซิครับ ในการเคลื่อนไหวที่รุนแรง ใช้อาวุธ และมีการขว้างสิ่งของไปยังสถานที่ราชการ ไปจนถึงทำลายสิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐาน ประโยชน์ทางสาธารณะ คุณวรพล อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าวให้ปล่อยแกนนำ นปก. จากเรื่องนี้ นะครับ แล้วก็บอกว่าวันที่ 29 กรกฎาคม พูดบอกว่า ปัญหาประชาธิปไตยไทยในสถานการณ์ปัจจุบันว่า ขณะนี้ประชาธิปไตยไทยมีความเปราะบาง อาจนำไปสู่ความรุนแรง จากกรณีที่คณะทหารมีความพยายามสืบทอดอำนาจ ขณะนี้นักวิชาการไทยไม่พยายามออกมาเคลื่อนไหว ในบทบาทที่ควรจะเป็นเพื่อต่อต้านเผด็จการนะครับ วันที่ 19 กันยายน 2550 คุณวรพล คนนี้นะครับ พร้อมกับ สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ในนามกลุ่มแนวร่วมนักวิชาการประชาธิปไตยและสันติวิธี และกลุ่มคนเดือนตุลาฯ ไม่เอาเผด็จการ เปิดแถลงเรียกร้องให้ลบชื่อ อ..ธีรยุทธ บุญมี อ.ประจำคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ออกจากเป็นนักวิชาการนะครับ ผมยังงงอยู่ว่าใครควรจะต้องถูกข้อนี้นะครับ 30 พฤศจิกายน เนี้ยนะครับ ก็มีทั้ง 111 คน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเนี้ยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น คุณจาตุรนต์ ฉายแสง, คุณอดิศร เพียงเกษ, คุณทศพร เสรีรักษ์ รวมถึง คุณวรพล คนเนี้ย ที่เป็นอ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นี่นะครับ ได้ขึ้นเวทีปราศัยที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในประเด็นเอกสารลับของ คมช. 2 ตุลาคม มีแนวคิดดำเนินรายการของตัวเองในรูปแบบ ในการทาบทามคุณวรพล มาดูแลในช่วงของMV 26 นะครับ ที่ตอนนั้นMV 26 ค่อนข้างเข้าข้างไปทางคุณทักษิณ เนี้ยนะครับ 3 กุมภาพันธ์ 2551 คุณวรพล ให้ความเห็นว่าตุลาการรัฐธรรมนูญทั้งคณะ ควรต้องลาออก

จินดารัตน์ - อ้าว

ปานเทพ - เพราะตัดสินคดีผิดพลาดไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับยุบพรรคไทยรักไทยพรรคเดียวนะครับ 7 กุมภาพันธ์ อย่างที่คุณแอน บอก คุณจักรภพ ก็มีความคิดจะเสนอชื่อ คุณวรพล เนี้ย ทาบทามไว้เป็นโฆษกรัฐบาล แล้วก็กลายมาเป็น คุณวิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ 4 มีนาคม ประเด็นนี้น่าสนใจโยกย้ายข้าราชการ พันธมิตรต่อต้านบอกว่าโยกย้ายข้าราชการ ในขณะที่เขากำลังตรวจสอบคดีความที่เกี่ยวพันกับคนของรัฐบาลนี่นะครับ แล้วเอาโยกย้ายคนที่มีความใกล้ชิด ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งในส่วนของที่บุรีรัมย์ ทั้งในส่วนของที่เชียงราย ไปจนถึงการโยกย้ายข้าราชการในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ คุณวรพล คนเดียวกันก็ไปแถลงข่าวเสวนาเรื่อง ย้ายบิ๊กข้าราชการ รอบคอบ หรือชำระแค้น คุณวรพล กล่าวว่า สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ดังนั้นนักวิชาการที่ออกมาเรื่องนี้ อย่าพึ่งด่วนสรุป ตำหนิรัฐบาลชุดปัจจุบันนะครับ ที่ต้องถือว่าน่าสนใจมากที่สุด คือวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่มีการร่วมกันออกแถลงการณ์บอกว่า ต้องให้ดำเนินการประชาชนที่มีการเคลื่อนไหวต่อต้านคุณทักษิณ ยื่นศาลขอให้ถอนประกัน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าสร้างความวุ่นวายให้กับสังคม ทั้งที่เป็นจำเลยอยู่ในศาล วันนี้ก็คงเข้าใจแล้วนะครับ ว่าศาลท่านว่าอย่างไรนะครับ แล้วก็ไปที่กองปราบวันที่ 10 มีนาคม คุณวรพล พร้อมด้วย รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ของธรรมศาสตร์ แล้วก็บอกว่าร้องทุกข์ กล่าวโทษ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วก็แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ หลังจากได้มีการ แค่ประชุมเนี้ยนะครับ แล้วบอกแถลงการณ์เนี้ยเป็นการกระทำการผิดกฎหมายอาญา มาตรา 116 และมาตรา 215 ผมไม่รู้ว่าคนนักศึกษาธรรมศาสตร์ เขารู้สึกอย่างไร แต่ผมเห็นเว็บไซต์ธรรมศาสตร์ และก็เขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ อ. คนนี้เนี้ย ด้วยความรู้สึกว่าลูกศิษย์เนี้ย ที่เขาเรียนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นะครับ เขารู้เท่าทันว่าอ. คนๆ นี้เนี้ย เขามีความรู้สึก ทัศนคติอย่างไร และส่วนใหญ่นี่นะครับ ลูกศิษย์เนี้ย เขาไวพอที่เขาจะไม่เห็นด้วยเนี้ย เยอะมากนะครับ กับวิธีการของคนๆ นี้ แต่ว่าเอาละเมื่อเราเข้าใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้ คือคนกลุ่มทำนองเดียวกัน คิดคล้ายๆ กัน ทำอะไรเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียวกันของรัฐบาลชุดนี้ และพรรคพลังประชาชน ในยามที่ไม่มีอำนาจก็หนุนให้เขามีอำนาจ ในยามที่เขามีอำนาจแล้วก็ปกป้องเขาในทุกวิถีทาง และต่อสู้กับคนที่ไม่เห็นด้วย ในทุกวิถีทางเนี้ยนะครับ เป็นสิทธิตามประชาธิปไตยนะครับ เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ผมคิดว่าอย่าแอบแฝง ใช้คำว่านักวิชาการเลย ตั้งกลุ่มใหม่เลยบอกว่า เป็นกลุ่มคนรักทักษิณ เอาให้ชัดๆ เลยนะครับ

จินดารัตน์ - กลุ่ม อ.รักทักษิณ

ปานเทพ - เออ กลุ่ม อ.รักทักษิณ ชัดๆ ไปเลย อย่าไปอายครับ ทำอะไรให้ชัดเจน ประชาชนเขาจะไม่สับสนครับ

จินดารัตน์ - แต่ว่าคุณปานเทพ นายวรพล คนนี้ประกาศบอกว่า ประกาศ คปค. ว่าด้วยการตั้ง คตส. นั้น ในส่วนความเห็นของนักวิชาการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองนะคะ บอกว่ากฎหมายที่ออกมาหลายฉบับ ขัดต่อหลักยุติธรรม เช่น คตส. เป็นกลุ่มคณะบุคคลที่แต่งตั้งโดยอำนาจรัฐประหาร ไม่ใช่อำนาจทางการเมือง ในการวินิจฉัยตัดสินการกระทำของรัฐบาลชุดก่อน

ปานเทพ - ครับ, เป็นนักวิชาการรักทักษิณจริงๆ นะครับ เป็นกลุ่มนี้ ผมว่าตั้งกลุ่มใหม่ดีกว่า ทีนี้นักวิชาการที่รักทักษิณ กลุ่มนี้ สังเกตได้ว่าพุ่งเป้าไปที่ประกาศของ คปค. และก็พุ่งเป้าไปที่ประกาศ คปค. ฉบับ 30

จินดารัตน์ - อ้าว

ปานเทพ - ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง คตส. และก็มีความหวังทั้งกระบุงเลยนะครับ ตั้งแต่รัฐบาลไปจนถึงยุคของรัฐบาลเนี้ยนะครับ ที่ว่าการแก้กฎหมายได้ก็คือการยกเลิก คตส. และ พยายามที่จะไม่ให้ผลแห่งการกระทำของ คตส. นั้น ดำรงอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

จินดารัตน์ - ก็ถือว่าเป็นโมฆะ

ปานเทพ - ครับ, อยากให้เป็นโมฆะทั้งหมดเนี้ยนะครับ ก็แสดงให้เห็นว่ากระบวนการเคลื่อนแบบนี้ อาศัยนักวิชาการเป็นต้นเรื่อง ชงเรื่องไปยังรัฐบาลให้ดูเป็นนักวิชาการนะครับ

จินดารัตน์ - อ๋อ, ให้เกิดความน่าเชื่อถือ

ปานเทพ - ดูแล้วน่าเชื่อถือ ถ้าไม่มีใครมาล้วงประวัติเนี้ย ก็นึกว่าเป็นความบริสุทธิ์จากนักวิชาการ ที่มีความเห็นเป็นกลาง และก็มีความเห็นในข้างความเป็นธรรมเนี้ยนะครับ แต่ว่าสัญญาณแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่า มีความคิดที่จะหาทางปกป้อง หรือว่ากีดกันกระบวนการในการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้คนในระบอบของทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจริงๆ แถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเนี้ย ได้พูดอย่างชัดเจนว่า มีอำนาจบางอย่างที่พยายามจะแทรกแซง การทำงานของ คตส. ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม แน่นอนว่าต้องไปสู่ศาลในท้ายที่สุด แต่ทุกอย่างเนี้ยเหมือนกับว่าพยายามจะไม่ให้ถึงศาลให้ได้ เพราะว่าถ้าถึงมือศาล ถึงศาลเมื่อไหร่ก็เหมือนว่ากระบวนการยุติธรรมเนี้ย จะเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์จริงๆ ว่า คนๆ นั้น ผิดหรือถูก ซึ่งสำหรับคนที่มีความผิดอยู่แล้ว จะมีความหวาดกลัว หวาดเกรงมากว่า จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การคิดตัดตอนในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดี กรมสอบสวนคดีพิเศษเนี้ย ทำให้พันธมิตรฯ ต้องออกมาเคลื่อนไหวว่า เห็นว่าจะมีกระบวนการในการตรวจสอบที่มีความไม่เป็นธรรม เพราะมีการช่วยเหลือพรรคพวกหรือไม่ แต่ คตส. นี่ คุณสมัคร พูดชัดเจนว่าจะไม่ยกเลิก ไม่ไปปิดกั้น อายุก็เหลือไม่มากแล้วเนี้ยนะครับ แต่ว่าแสดงว่าเขาหวาดกลัว กับคดีที่รออยู่กับทาง คตส. ว่า จะถึงมือศาลเนี้ยเพิ่มมากขึ้น และหลายคดีอาจจะมีความหวาดกลัว หรือไม่ว่า ว่าไม่สามารถจะแก้ไขคดีให้พ้นจากคดีความ หรือความผิดได้นะครับ

จินดารัตน์ - อย่างที่มีข่าวนะคะ บอกว่าจะมี ส.ส. ของพรรคพลังประชาชนบางส่วน รวมตัวกันในชื่อกลุ่มใหม่นะคะ กลุ่มมหาประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย นะคะ ชื่อกลุ่มใหม่นะคะ ไม่ใช่ นปก. นะคะ แล้วเขาบอกเขาจะเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกลุ่มพันธมิตรฯ

ปานเทพ - อ๋อ, หรือครับ

จินดารัตน์ - คู่ขนานกันไป แต่ว่าคือคู่ขนานกันไปเนี้ย ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าบรรจบกันไม่ได้อยู่แล้วนะคะ แล้วก็ทางวิปรัฐบาลเอง บอกว่าถือเป็นสิทธิเสรีภาพของ ส.ส. หากไม่ผิดกฎหมาย ก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกันกับของกลุ่มพันธมิตรฯ ดิฉันสงสัยจังวิปรัฐบาล คุณสามารถ แก้วมีชัย เลขานุการและกรรมการประสานงานวิป เนี้ย บอกอย่างนี้บอกเป็นสิทธิส่วนบุคคล แล้วทำไมส.ส. ของพลังประชาชน หรือแม้แต่คนในรัฐบาลเอง ในซีกฝั่งพลังประชาชน ออกมาเรียกร้องหนักหนาบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์พิจารณาการกระทำของ อ.สมเกียรติ แล้วทำไมคะ อ.สมเกียรติ จะเคลื่อนไหวในนามของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้หรือ ก็ในเมื่อคนของคุณเอง ก็สามารถเคลื่อนไหวแบบนี้ได้

ปานเทพ - ครับ

จินดารัตน์ - เช่นเดียวกับ คุณจักรภพ เพ็ญแข วันนี้ออกมาพูดนะคะบอกว่า กรณีที่ นปช. หรือว่า แนวร่วมประชาธิปไตยต้านเผด็จการแห่งชาติเนี้ย ออกมาโดยกลุ่มของ นายประชา ประสพดี ส.ส.สุมทรปราการ พรรคพลังประชาชน เตรียมเคลื่อนไหวยกพลไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาขอใช้สถานที่ด้วยนั้นเนี้ยนะคะ คุณจักรภพ บอกว่าการที่ทั้ง 2 กลุ่ม ได้ขอใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสถานที่ชุมนุมคงไม่มีปัญหา ถือเป็นการแสดงความเห็น ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องยกพวกตีกัน เพียงแต่ขอร้องว่าแต่ละฝ่ายต้องพยายามสำรวมกิริยาให้มากที่สุด ไม่ทำให้ความขัดแย้งบานปลาย จนเกิดความเสียหายกับประเทศ ดิฉันเข้าใจอะไรผิดไหมคะ จากปาก คุณจักรภพ

ปานเทพ - เข้าใจผิด ฟังแล้วน่าตกใจมาก เพราะว่าคุณจักรภพ บอกว่าให้สำรวมกิริยา และตอนที่คุณจักรภพ เป็น นปก. อยู่เนี้ย คุณจักรภพ ทำอย่างนั้นไหม ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีที่มาพูดแบบเนี้ยนะครับ ผมอยากจะบอกว่าการขอใช้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เนี้ย เป็นการริเริ่มกำหนดเวลา และ กำหนดสถานที่ เริ่มต้นและขอโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถามว่าทำไมต้องเป็นหอประชุมใหญ่ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่ง เป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่ 1 ของพันธมิตรฯ หลังจากที่รัฐบาลโยกย้ายข้าราชการ มีความรู้สึกว่าเหิมเกริม โดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของประชาชน โดยเฉพาะในส่วนของกระบวนการยุติธรรมชั้นต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษนะครับ ที่เป็นต้นคดีที่พันธมิตรฯ บอกว่านี่คือกระบวนการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม จึงได้ออกมาแถลงการณ์ว่า ต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งที่ 1 ต้องเป็นหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ เป็นการจัดสัมมนา

จินดารัตน์ - คะ

ปานเทพ - ไม่เคยมีใครใช้พื้นที่ก่อน และวันนั้นเป็นวันที่ว่าง พันธมิตรฯ ขอก่อน และก็บอกว่าเป็นการสัมมนา ผมขออนุญาตอ่านนะครับว่า เราจะสร้างความวุ่นวายไหม จะสร้างความไม่สงบไหม หรือว่าใครจริงๆ แล้วต้องการความไม่สงบ เอานะคะ กำหนดการรายการยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2551 ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เวลา 16.00 น. ถึง 22.30 น. ก็คือ ตั้งแต่สี่โมงเย็นไปจนถึงเวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง โดยประมาณนี้นะครับ 16.00 น. - 17.00 น. 1 ชม. อภิปรายเสียงสะท้อนคนรุ่นใหม่ จะฝ่าข้ามการเมืองที่น่าอึดอัดเบื่อหน่าย และไร้ความหวังได้อย่างไร สร้างสรรค์ไหมครับ

จินดารัตน์ - คะ

ปานเทพ - มีความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นไหม จะมีการเคลื่อนไหวไปชุมนุมไหม

จินดารัตน์ - อันนี้มันถามความเห็นคนนี่คะ ใช่ไหมคะ

ปานเทพ - และเป็นตัวแทนนักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รามคำแหง เทคโนโลยีพระจอมเกล้า และอื่นๆ อีกหลายคน ถามว่านี่คือสิ่งที่สร้างสรรไหม นี่คือสิ่งที่ควรส่งเสริมให้ประชาชนและนักศึกษามีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดความเห็นไหม ก็มีตัวแทนจากนักศึกษาหลายสถาบัน ดำเนินรายการโดยคุณแสงธรรม ชุนชฎาธาร ที่จัดรายการกับท่าน อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 17.15 - 17.35 น. ประมาณ 20 นาที ดนตรีเพื่อชีวิต โดยคุณหงา คาราวาน จะมีไปตีใครไหมถ้ามีคนฟังดนตรี ไม่มี จะมีเคลื่อนไหวไปประท้วงรัฐบาลที่หน้าทำเนียบไหม ไม่มีครับ 17.40 น. ยังคงอยู่ในหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ อภิปรายเรื่อง รัฐบาลเลือกตั้งกับการเมืองภาคประชาชน มีใครขึ้นเวทีบ้างรู้ไหมครับ 1. คุณวีระ สมความคิด เลขาธิการ คปต.กลาง คุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ในภาคอีสาน คุณสุทธิ อัชฌาสัย ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคตะวันออก คุณบรรจง ณ แส ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคใต้ คุณสุวัฒน์ วัฒนศิริ ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคเหนือ เอ๊ะก็ดูดีนี่ครับ ดำเนินรายการโดยใครรู้ไหมครับ คุณอัญชลี ไพรีรักษ์

จินดารัตน์ - อ๋อกลับมาแล้วหรอคะ

ปานเทพ - ลาออกจากพรรคเพื่อแผ่นดิน มาปฏิบัติภารกิจนี้ดีกว่า ไม่อยู่พรรคการเมืองแล้ว 18.45 - 19.55 น. เอาง่ายๆ 2 ทุ่ม เหลียวหลังแลหน้ารัฐบาลนอมินี นี่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเลยครับ ยังนั่งฟังอยู่เลยครับ นั่งนิ่งๆ อาจจะมีปรบมือบ้าง เหลียวหลังแลหน้ารัฐบาลนอมินี เวลาตั้งแต่ 18.45 น.ถึงประมาณ 2 ทุ่ม โดยใครบ้าย ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา คณบดีรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผศ.ดร.สุรัตน์ โหราชัยกุล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.ชัยยันต์ ไชยพร และ รศ.วัฒนธรรม กาญจนสุวรรณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกำลังรอคำตอบจากอีกท่านหนึ่ง คือ รศ.ดร.นครินทร์ ศรีไตรรัตน์ อีกท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าท่านจะสะดวกไหม เอ๊ะมีอะไรที่มันไม่สงบไหมคุณแอน

จินดารัตน์ - ก็ยังนั่งฟังกันอยู่นะคะ

ปานเทพ - มันจะเป็นความชอบธรรมของประชาชนไหมที่เขาอยากฟัง เขามาที่นี่เพื่อฟังคนเหล่านี้พูดให้เขาฟัง 20.00 - 20.30 น. อาจจะมี อาจจะ งิ้ว ธรรมศาสตร์ แต่ว่าจะรอคำตอบพรุ่งนี้ว่าสะดวกหรือไม่ พรุ่งนี้จะให้คำตอบ แล้วก็ 20.35 - 22.30 น. พูดจาปราศรัยบทบาทพันธมิตรฯ ในสถานการณ์ใหม่ ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นพูดทีละท่าน แล้วจะมีพิธีกรตลอดงาน ไม่ว่าจะเป็น คุณสำราญ รอดเพชร, คุณแอน จินดารัตน์, คุณสโรชา พรอุดมศักดิ์

จินดารัตน์ - คุณปานเทพด้วย

ปานเทพ - นี่เป็นกำหนดการที่ต้องถือว่า เป็นสถานการณ์ที่ทำให้เห็นว่า นี่คือสิทธิตามรัฐธรรมนูญ สิทธิในการพูดแสดงความคิดความเห็นของประชาชน สิทธิของประชาชนที่จะเดินมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จินดารัตน์ - เพื่อมาฟัง

ปานเทพ - เพื่อมานั่งฟัง ยืนฟัง นั่งกับพื้น หรือว่ารับชมทางจอโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อขอรับชมรับฟังสิทธิของประชาชนที่นั่งฟังอยู่นิ่งๆ สิทธิของประชาชนที่มีสิทธิ์จะรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเป็นสิทธิของประชาชนที่เขาอยากจะมาร่วมสัมมนา หรือแสดงความรู้สึกว่า นี่คือการแสดงความรู้สึกของประชาชนในการเคลื่อนไหวครั้งที่ 1 ว่าเขารู้สึกไม่ดีต่อรัฐบาล และทำให้รัฐบาลต้องหันมาฟังประชาชนมากหรือน้อยแค่ไหน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน

จินดารัตน์ - ถ้าอย่างนั้น นปช.อยากมา ก็มานั่งฟังด้วยกัน

ปานเทพ - นั่งฟัง แต่ถามว่า มันจะเหมาะไหมเมื่อคุณรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะชุมนุมโดยสงบ โดยสงบอหิงสา และเป็นงานสัมมนาที่สร้างสรร มันจะเหมาะไหมว่าจะไปใช้ขอพื้นที่ที่เดียวกันโดยเจตนา โดยเจตนานะครับ

จินดารัตน์ - นี่มันเจตนาชัดๆ หรอคะ

ปานเทพ - เจตนาเพื่อให้รู้ว่า ต้องการไปยั่วยุเพราะความคิดเห็นต่างกัน ถ้าคุณจะไปที่อื่นไปได้ครับ จะไปลานพระบรมรูปทรงม้า จะไปสวนลุมฯ จะไปจุฬาฯ มีที่ตั้งเยอะในประเทศไทย

จินดารัตน์ - ทำไมถึงอยากได้ที่ธรรมศาสตร์

ปานเทพ - อยากเลือกเผชิญหน้า ผมถือว่าการเลือกแบบนี้เป็นเจตนาที่ไม่ดี เพราะว่าการปะทะทางความคิดที่แตกต่างกัน คุณสามารถเลือกให้เกิดความสงบได้ถ้าเลือกในสถานที่ต่างกัน และรัฐบาล ถ้ามีเจตนาจริงว่าต้องการความสงบเรียบร้อยจริง รัฐบาลต้องปรามการเคลื่อนไหวของกลุ่มแกนนำทั้งหลายที่สนับสนุนรัฐบาลเอง ไม่ใช่ภาคประชาชนที่แท้จริงหรอก กลุ่มเหล่านี้ก็เป็นคนในรัฐบาลทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ไม่ว่าจะเป็นแกนนำทั้งหลาย ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี มาเป็นผู้ช่วย มาเป็นรองโฆษกรัฐบาล ทำไมกลุ่มเหล่านี้ไม่ออกมาเตือนตัวเอง ถ้าต้องการความสงบจริง ผมจะบอกอย่างนี้นะครับ ว่าหากเกิดเหตุการณ์ใดก็ตาม ถ้ามีความไม่สงบขึ้น โดยการมีกลุ่มมาประท้วง ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านพระอาทิตย์ หน้า ASTV หรือความไม่สงบที่เกิดขึ้นหน้าบ้านพระอาทิตย์ มีการบุกมาเมื่อไหร่ อะไรเกิดขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ทำนองเดียวกัน เมื่อกลุ่มคนเขาประกาศล่วงหน้าจะชุมนุมโดยสงบ อย่าข่มขู่ประชาชน กี่ครั้งกี่ครั้งที่ข่มขู่ไม่รู้กี่ครั้ง ยิ่งข่มขู่ยิ่งมากขึ้น ถ้ามีความไม่สงบแม้แต่นิดเดียว ต้องถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่มีอำนาจและมีเครือข่ายที่เพียงพอ และสามารถทำให้เกิดความสงบได้แต่ไม่เลือกที่จะทำ ดังนั้นถ้าเกิดเหตุอะไรเกิดขึ้นจนนำไปสู่การรัฐประหาร เพราะเหตุที่ว่าความไม่สงบเกิดขึ้น ต้องถือว่าเป็นความผิดพลาดของกลุ่มคนที่ต้องการหาเรื่อง ทำให้เกิดความไม่สงบ ย่อมไม่ได้หมายถึงพันธมิตรฯ ที่มีเจตนาชัดเจนว่ามีกำหนดการอย่างไร อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นพันธมิตรฯ ไม่เคยใช้คำว่า ชุมนุม ในเหตุการณ์การเคลื่อนไหว ครั้งที่ 1 เขาเรียกว่า เคลื่อนไหวครั้งที่ 1 ให้จัดสัมมนา เพราะฉะนั้นชัดเจนว่า การกระทำใดๆ ก็ตาม ประชาชนเขามีวิจารณญาณเพียงพอว่า กลุ่มคนใดมีประสงค์ เจตนาดีในทางการเมือง ในการเคลื่อนไหวอย่างสร้างสรร กลุ่มเจตนาใดที่มีประสงค์ร้ายต่อการเคลื่อนไหวในการชุมนุม ไม่เคารพสิทธิของประชาชน ผมคิดว่าประชาชนตัดสินใจได้ว่า ใครคือมารร้ายในบทละครตัวนี้ แล้วใครคือบทที่สมควรจะเล่นบทพระเอก ในบทบาทนี้ และยิ่งน่าสงสาร ยิ่งน่าเห็นใจ ผมขอเตือน เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลคุณทักษิณ ด้วยการข่มขู่ มันจะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า ไม่ใช่เพราะใคร เพราะการกระทำของรัฐบาล และพวกลิ่วล้อที่อยากเอาใจนาย อยากวางบิล อยากได้ผลประโยชน์ เอาใจทั้งหลายตัวทำพังทุกครั้งไป และครั้งนี้ไม่แตกต่างจากทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

จินดารัตน์ - เพราะฉะนั้นเหลือเวลาอีกแค่ 10 วัน ดิฉันคิดว่า ใครที่กำลังคิดอะไรอยู่ คิดผิดคิดใหม่ได้ แล้วยังมีเวลาให้กลับลำได้นะคะ ถ้าคิดจะทำอะไร หรือคิดว่าหลิวตาข้างหนึ่ง หรี่ตาข้างหนึ่ง ทำเป็นมองไม่เห็น แล้วเลิกพูดเรื่องคุณสนธิจะขึ้นเวทีหรือไม่ เลิกขู่กันได้แล้ว พอกันสักที 10 วันที่เหลือนี้จะรอดูนะคะว่าตกลงว่า ท่าทีของรัฐบาลจะเปลี่ยนไปไหม หรือจะยังยืนหยัดเหมือนเดิมว่า อยากจะเห็นการชุมนุมแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น โดยการยั่วยุของคนบางกลุ่ม

ปานเทพ - จากสัมมนาจะเป็นชุมนุมก็ต่อเมื่อรัฐบาลยั่วยุ และสร้างสถานการณ์ที่เพิ่มขึ้น ไม่มีคนอื่นทำครับ รัฐบาลทำตัวเองทั้งสิ้น

จินดารัตน์ - พักกันก่อน ช่วงหน้ากลับมาดูเรื่องของ กกต.กันบ้าง สักครู่ค่ะ

ช่วงที่ 2

จินดารัตน์ - กลับมาช่วงสุดท้ายรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ค่ะ คุณปานเทพคะมีคนถามมาก่อนจะไปเรื่องของ กกต.และผู้ว่าฯ กทม. มีคนถามมาว่า คิดอย่างไรที่คุณสมัครพูดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เรื่องของม็อบจ้าง

ปานเทพ - ไปฟังเสียงคุณสมัครก่อนดีไหมครับ

จินดารัตน์ - มีด้วยหรอคะ

ปานเทพ - มีด้วยครับ นิดหนึ่งสั้นๆ เชิญครับ

(VTR คุณสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี)

จินดารัตน์ - คุณสมัคร พูดถึงหัวคะแนนพรรคอำนาจเก่า หรือเปล่าคะ หรือว่าเข้าใจอะไรผิดไหมคะ

ปานเทพ - คืออย่างนี้ครับ ผมว่าคุณสมัคร ตอนนี้เสมือนเป็นหรือว่าคุณเฉลิม ก็ดี หรือใครก็ตามในพรรคพลังประชาชน กำลังเหมือนคนเรียกแขก ความรู้สึกผมนะ ความรู้สึกเดิมๆ เริ่มกลับมา คือสมัยก่อนคุณทักษิณ จะเป็นคนเรียกแขกทุกสัปดาห์ ยิ่งพูดคนยิ่งมาเยอะ พูดสัปดาห์นึงคนมาเพิ่ม มาเรื่อยๆ ยิ่งขู่ยิ่งมา ประชาชนรู้สึกอย่างนั้น ทีนี้เหมือนกับว่า มักจะบอกว่าเราถูกจ้างมา ผมอยากจะบอกว่า เป็นการดูถูกประชาชนมาก ผมไม่เคยเห็นภาพการจ้างในพันธมิตรฯ เลย เราเคยเห็นแต่ภาพการชุมนุมของ นปก. ที่ปรากฏดังภาพต่อไปนี้ เดี๋ยวเราเอาให้ดู ที่เราจำได้ โดยทีมข่าว ททบ.5 ไปถ่ายทำมา แล้วปรากฏว่าเขาไปถ่ายทำ แล้วเห็นกระบวนการลักษณะของมีการ

จินดารัตน์ - จ่ายเงิน

ปานเทพ - จ่ายเงิน แต่ไม่รู้ใครเป็นใคร แล้วมีสารคดี นับเงินนับทองกัน ไม่ใช่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่เคยเกิด เพราะฉะนั้นถ้าจะมาใช้บรรทัดฐานแบบนี้กับการเคลื่อนไหวที่โดยบริสุทธิ์ หรือดูถูกดูแคลนว่ามีการจัดจ้างมา จัดตั้งมา ล้วนแล้วแต่เป็นความคิดที่ผมคิดว่า เป็นการยั่วประชาชน หรือดูถูกประชาชนจนประชาชน เขาต้องออกมามากขึ้น แล้วไม่ใช่ออกมาธรรมดานะครับ ออกมามากขึ้นพร้อมเงินบริจาคให้มากขึ้นด้วย คือผมว่าสิ่งนี้คือเชื้อฟืนที่ทำให้เห็นว่าประชาชนมี เหมือนกับว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ไม่บริสุทธิ์ ผมถือว่า เอาละครับประชาชนทั้งหลาย พี่น้องประชาชนที่ฟัง ASTV อยู่ เมื่อเห็นภาพดังนี้ในการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปก. ที่ถ่านทำโดยทางช่อง 5 ก็ดี หรือทาง ASTV ก็ดี เห็นแล้วเชื่อว่าเราไม่เป็นอย่างนั้น แล้วมั่นใจเลย ซึ่งเราไม่เคยเป็นอย่างนั้น มากันให้เยอะๆ ที่คุณสมัครว่าจะโยกย้ายข้าราชการอีกเพราะมัวแต่ปล่อยให้มีกระบวนการในการเข้ามาอย่างนี้ มีรายงานที่เพชรบุรีว่า ทางจังหวัดขอความร่วมมือให้ผู้บริการรถเช่างดให้บริการ วันที่ 28 อ้างว่าจะมีแก๊งปาหินออกอาละวาดในช่วงนั้นพอดิบพอดีเลย

จินดารัตน์ - หรอคะ

ปานเทพ - เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีออกมาพูดลักษณะแบบนี้ว่าจะโยกย้าย ผมบอกให้ว่า มันจะทำให้พันธมิตรฯ หรือคนที่เขาต้องการแสดงพลัง จะออกมามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ สื่อมวลชนเขารู้นะครับ ว่าการเคลื่อนแบบไหนที่ออกมาโดยธรรมชาติ หรือการยั่วยุของภาครัฐ สื่อเขาก็เข้าใจเหมือนกันนะครับว่า กลุ่มใดจ้างมา เขาจับได้

จินดารัตน์ - ขนคนมา เขาดูเขาก็รู้

ปานเทพ - เขารู้ เขาดูออก มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ผมก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นผมอยากจะขอร้องเลย คุณสมัคร คุณเฉลิม หรือกลุ่มพรรคพลังประชาชน อย่าได้เรียกแขกมากกว่านี้เลย

จินดารัตน์ - แค่นี้เราก็จะรับไม่ไหวแล้ว

ปานเทพ - คืออยากจะบอกว่า หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ มันไม่ใหญ่มากนะครับ ไม่ใช่ลานพระรูปทรงม้า ไม่ใช่สนามหลวง เพราะฉะนั้นอย่าเรียกแขกรายวันให้กับเราเลย

จินดารัตน์ - แหม เสียดายแย่เลย

ปานเทพ - ผมเกรงว่าจะต้อนรับไม่อบอุ่นให้กับพันธมิตรฯ ที่มา

จินดารัตน์ - เดี๋ยวดูแลไม่ทั่วถึง มากันเยอะ

ปานเทพ - ผมเชื่อว่าจะมาเยอะ และผมอยากจะบอกว่า อยากให้ประชาชนที่รับฟังแบบนี้ มากันให้เยอะ ถ้ามาเยอะล้นธรรรมศาสตร์ ล้นหอประชุมใหญ่ก็ไม่เป็นไร ก็จะล้นโดยธรรมชาติ มากันเยอะๆ มากันเยอะๆ อย่ามาเป็นล้านแล้วกันนะครับ ผมเกรงว่าจะรับไม่ได้จริงๆ

จินดารัตน์ - ดิฉันเสียดายนะ คุณเฉลิม จะพูดไม่ได้อีกหลายวัน ป่วยค่ะนอนอยู่กับบ้าน งดภารกิจไปตั้งหลายอย่าง กลัวแกจะพูดไม่ได้

ปานเทพ - พูดเยอะๆ นะครับ ASTV ต้องตามเป็นสื่อแรกๆ เลย

จินดารัตน์ - มาดูเรื่องของ กกต.กันดูนะคะ วันนี้ปรากฏว่า คุณยงยุทธ ติยะไพรัช ได้มอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีอาญากับ กกต. 3 คน คือ คุณอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. คุณสุเมธ อุปนิสากร และคุณประพันธ์ นัยโกวิท ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดต่อตำแหน่งในการยุติธรรม โดยร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จากกรณีการลงมติให้ใบแดงกับนายยงยุทธ และยังแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล พนักงานสอบสวนคดีทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ อีกด้วยนะคะ คุณสุเมธ อุปนิสากร บอกว่า มึนเหมือนกันที่คุณยงยุทธแจ้งความดำเนินคดีกับ กกต.เสียงข้างมาก ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่เที่ยงธรรม กลั่นแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา แต่ถ้าจะฟ้องก็ต้องฟ้อง กกต.ทั้งคณะนะ เพราะว่าการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวนนั้นเป็นมติของ กกต. อีก 2 คนหายไปไหน

ปานเทพ - แปลกดีครับ

จินดารัตน์ - แต่ท่านบอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจ ไม่ได้ตกใจ แค่งงๆ มึนๆ ว่าทำไม แจ้งความแค่ 3 คน อีก 2 คน หายไปไหนนะคะ และก็อีกเรื่องหนึ่งเรื่องของคดียุบพรรค ไม่ยุบพรรคนะคะ เอาเรื่องของคุณยงยุทธ ก่อนก็แล้วกันนะคะ ปรากฎว่าวันพรุ่งนี้นะคะ ทางเลขาธิการ กกต. บอกว่าพรุ่งนี้จะมีการแถลงเรื่องนี้นะคะ ว่าจะส่งให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งวันพรุ่งนี้เลย เพราะว่านัดทางศาลไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ อาจจะยัง คือ วันนี้นะไม่ได้แน่ๆ ก็เป็นวันพรุ่งนี้ แต่กรณียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตยนั้น คุณสุทธิพล ยืนยันว่าจะมีการนำเข้าที่ประชุม กกต. ในวันพรุ่งนี้ โดยประธาน กกต. ได้ชี้แจงผลสรุปของการสอบสวน ของคณะกรรมการชุดของ คุณบุญทัน ดอกไธสง ที่มอบให้ประธาน กกต. ในเช้าวันนี้ ไปให้ กกต. ทุกคนไปดูแล้วนะคะ อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของผู้ว่า กทม. มันอะไรกันนักกันหนา คุณปานเทพ หลายคนเริ่มหงุดหงิดแล้วนะคะว่า เออสังคมไทยนี่ก็แปลก เวลาคนแสดงจิตวิญญาณ หรือแสดงความผิดชอบชั่วดีเนี้ย มันเลยกลายเป็นว่าออกมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ ประชดประชันลาออกไปเลยซิ อย่างนั้น อย่างนี้ มันอะไรนะคุณปานเทพ

ปานเทพ - มันแปลกไงครับ ที่คุณอภิรักษ์ เนี้ยแสดงเจตนารมณ์ในการแสดงสปิริต ก็เป็นเรื่องของเขานะครับ การจะลาก็เป็นสิทธิ์ที่ตัวเองมีสิทธิ์ที่จะลาได้ และก็มอบให้คนอื่นปฎิบัติหน้าที่แทน ผมว่าทำได้นะครับ และก็น่าจะเป็นในมุมที่ต้องการจะแสดงให้รู้สึกว่าตัวเองนั้น แสดงความบริสุทธิ์ใจ จะผิดหรือไม่ผิดนั้น ไม่มีใครรับประกันนะครับ แต่ว่าเป็นการแสดงความรู้สึกว่าตัวเองนั้น ต้องแสดงออกมา ผมว่าคุณเฉลิม ก็ไม่ควรที่จะใช้มาตรฐานของ คุณเฉลิม มาวัด คุณอภิรักษ์ นะครับ คือ มาตราฐานจริยธรรมนี่นะครับ ของแต่ละคนนี่ไม่เหมือนกัน บางทีไม่ผิดนี่นะครับ แต่มีสิทธิ์ตอบโต้ได้ หรือว่ากระทำการได้ บางทีกฎหมายไม่ได้ระบุนี่ครับ แต่ก็ทำ ทำเพราะว่ารู้สึกว่าตัวเองนั้น ต้องทำ เพื่อแสดงจริยธรรมที่ดี

จินดารัตน์ - แค่รู้สึกว่าไม่สบายใจ ว่าอยู่ในตำแหน่งแล้วจะทำให้กระบวนการในการสืบสวนสอบสวน มันอาจจะมีปัญหาได้ คนจะครหาได้

ปานเทพ - ใช่, แล้วถ้าคุณทักษิณ ทำได้แบบนี้นะครับ ปัญหาประเทศไม่มาถึงวันนี้หรอก

จินดารัตน์ - ไม่มีวันนี้แน่ คะ คุณอภิสิทธิ์ พูดอย่างนี้เขาทิ้งท้ายไว้สั้นๆ บอกว่า ผมไม่เข้าใจว่าทำไมการตัดสินใจ ทำเรื่องดีๆ อย่างนี้ มันกลายเป็นของแสลงสำหรับคนในรัฐบาล ต้องมีปัญหามากมาย อยากเรียนรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยว่า น่าจะเอาเวลาไปเร่งแก้ไขปัญหาภาคใต้ เพราะว่าระเบิดที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาเนี้ย เป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เอาเวลาไปทำตรงนั้นจะดีกว่านะคะ แล้วตอนนี้ คุณเฉลิม ป่วยเนี้ย ไม่รู้ว่าลาป่วยแล้วหรือไม่

ปานเทพ - ครับ

จินดารัตน์ - เพราะฉะนั้น คุณอภิรักษ์ ก็มีสิทธิ์ลาป่วย ลากิจ ได้นี่ นะคะ หมดเวลาแล้วคะ วันนี้ เตือนอีกครั้งนะคะว่าเราจะมีการประชุมสัมมนานะคะ ในวันที่ 28 มีนาคม สำหรับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นะคะ บางคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นที่รังสิต ที่หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เน้นย้ำอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ 4 โมงเย็น เป็นต้นไป วันนี้หมดเวลาแล้วนะคะ ขอบคุณทุกสายที่โทรศัพท์เข้ามาให้กำลังใจ และร่วมแสดงความคิดเห็น ลาไปก่อนคะ สวัสดีคะ/สวัสดีครับ

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1

( 56 k ) | ( 256 K )



คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2

( 56 k ) | ( 256 K )





กำลังโหลดความคิดเห็น