ครม.หมัก เสนอเข็นตำแหน่งให้ ส.ส. จัดสรรเก้าอี้ “กก.ผช.รมต.-วิปรัฐบาล” ให้นั่ง สั่งเลขาธิการกฤษฎีกาเคลียร์ข้อ กม.พร้อมเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า
วันนี้ (4 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ที่ออกมาใหม่ในช่วง 1 ปีเศษ ทั้งตราขึ้นใหม่และปรับปรุงแก้ไข โดย ครม.หลายคนกังวลตรงกันว่าการบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้องถูกต้องตามหลักเกณฑ์บทบัญญัติกฎหมายฉบับใหม่ที่ปรากฏออกมา และมีผลบังคับใช้นั้นมีความสำคัญและจำเป็น จึงได้มีการสอบถามไปที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าในรอบปีเศษที่ผ่านมานั้น มีกฎหมายตราขึ้นใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรีต่างๆ กี่ฉบับ โดยเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ข้อมูลว่า มีทั้งสิ้น 200 กว่าฉบับ ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้ขอให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำเป็นข้อมูลสรุปเสนอว่าแต่ละฉบับว่าด้วยเรื่องอะไรบ้าง มีข้อปรับปรุงแก้ไขอย่างไร เพื่อให้เป็นที่ทราบตรงกันและเป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีต่อไป
นอกจากนี้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ในประเด็นการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งได้มีการศึกษาในข้อกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่าในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ไม่ได้มีบทบัญญัติห้ามมิให้ตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีแต่อย่างใด ฉะนั้น กล่าวโดยสรุปคือ รัฐบาลชุดนี้สามารถตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีได้ แต่กรอบของกฎหมายอนุญาตให้ตั้งได้ไม่เกิน 30 คน โดยรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวงและผู้บริหารรัฐบาลจะมีการหารือกันในโอกาสต่อไป ซึ่งเป็นไปได้ในโอกาสต่อไปน่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมาเป็นระยะๆ ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยจุดมุ่งหมายสำคัญคือต้องการให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมีส่วนหนุนเสริมการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์และมีผลสูงสุดต่อประชาชน
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่สำคัญ คือ การแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้ทางกฤษฎีกาจะตีความว่าสมารถจะแต่งตั้ง ส.ส.ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีได้ก็ตามแต่รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่จะแต่งตั้งบุคคลที่เป็น ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว เพียงแต่จากการศึกษารายละเอียดข้อกฎหมายเรียบร้อยสรุปได้ว่าสามารถที่จะแต่งตั้ง ส.ส.เป็นกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ ส่วนการตั้งกรรมการอื่นๆ ในระดับกระทรวงต้องขอให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการไปศึกษาและหาข้อสรุปมาแจ้งต่อที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า เพราะ ครม.มีข้อกังวลเรื่องข้อกฎหมายต่อเรื่องนี้ หากตั้ง ส.ส.เข้ามาเป็นคณะกรรมการแล้วจะขัดต่อกฎหมาย
