วันนี้ (4 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ และ น.ส.วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า บรรยากาศการประชุม ครม.วันนี้ เริ่มต้นด้วยความคึกคักกว่า 3-4 ครั้งที่ผ่านมา เพราะทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ผู้จัดการดำเนินการได้มีการประสานคณะแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลราชวิถี มาทำการตรวจสุขภาพให้กับคณะรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุม ตลอดจนข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงาน ทราบข่าวว่ามีรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายท่านได้เข้ารับการตรวจสุขภาพ ซึ่งเบื้องต้นแพทย์ระบุว่าทุกคนสุขภาพดี ไม่มีปัญหา รัฐบาลชุดนี้ ครม.ชุดนี้คงจะมีกำลังกาย กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ได้อีกยาวนาน
ครม.อนุมัติปรับปรุงองค์ประกอบ-อำนาจหน้าที่ กก.ที่ปรึกษา กม.กระทรวงศึกษาธิการ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า วันนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอต่อ ครม.พิจารณาอนุมัติการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ
กล่าวคือ กระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการ หลายเรื่องหลายประเด็นด้วยกัน เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีคณะผู้มีความรู้ ความชำนาญด้านกฎหมาย มาช่วยผู้มีอำนาจตัดสินใจ วินิจฉัย สั่งการ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีการปรับปรุงองค์ประกอบที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอมา
เดิมคณะกรรมการดังกล่าวมีทั้งสิ้น 12 คน ให้ปรับเพิ่มเป็น 15 คน และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ (ตามรายละเอียดในเอกสาร)
องค์ประกอบของคณะกรรมการเดิม ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2549 มี ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ เป็นประธานกรรมการ มี รศ.ศรีราชา เจริญพานิช เป็นรองประธานกรรมการ และประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งสิ้น 12 คน ขณะที่องค์ประกอบของคณะกรรมการตามที่ ครม.อนุมัติในวันนี้ จะมีนายบุญปลูก ชายเกตุ เป็นกรรมการที่ปรึกษา รศ.ธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานกรรมการ นางกาญจนาลักษณ์ ลีวิโรจน์ เป็นรองประธานกรรมการ
ครม.ไฟเขียวงบฯ ปี 51 เพิ่มสำหรับเงินเดือน ขรก.ตุลาการ-ดาโต๊ะยุติธรรม
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า สำนักงานศาลยุติธรรมได้ขอให้นำเสนอ ครม.พิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2551 เพิ่มเติม สำหรับเงินเดือนของข้าราชการตุลาการ และดาโต๊ะยุติธรรม เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 103,796,700 บาท
สืบเนื่องจากการปรับเพิ่มฐานเงินเดือนของข้าราชการตุลาการ และดาโต๊ะยุติธรรม ตามพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการตุลาการ และดาโต๊ะยุติธรรม พ.ศ.2551 เกิดขึ้นภายหลังจากสำนักงานศาลยุติธรรมได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐสภาแล้ว เพราะฉะนั้นสำนักงานศาลยุติธรรมจึงไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายนี้
ประกอบกับงบประมาณด้านบุคลากรที่ได้รับในปีงบประมาณ 2551 มีไม่เพียงพอที่จะเจียดจ่ายได้ ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551 เพิ่มเติมจากรัฐบาล ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้ผ่านมตินี้เป็นที่เรียบร้อย
ครม.ให้กฤษฎีกาจัดทำสรุปข้อมูลกฎหมายฉบับต่างๆ ในห้วงปีเศษ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า วันนี้ประเด็นเรื่องข้อกฎหมายพูดคุยกันในที่ประชุม ครม.หลายประเด็น ซึ่งประเด็นที่หยิบยกมานำเสนอต่อสื่อมวลชน อาทิ มีการหารือกันในที่ประชุม ครม.ว่า ในห้วงปีเศษที่ผ่านมา มีข้อมูลว่ามีกฎหมายใหม่ๆ ทั้งที่ตราขึ้นใหม่ และแก้ไขปรับปรุง ออกมาหลายฉบับ ฉะนั้นรัฐมนตรีหลายท่านในที่ประชุมจึงได้เกิดความห่วงใย กังวลตรงกันว่า การบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้อง ถูกต้อง ตามหลักเกณฑ์ ตามบทบัญญัติในกฎหมายฉบับใหม่ๆ ที่ปรากฏออกมาและมีผลบังคับใช้นั้น มีความสำคัญและจำเป็น จึงได้สอบถามไปยังเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าในรอบปีเศษๆ ที่ผ่านมานั้นมีกฎหมายตราขึ้นใหม่ อันเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน กี่ฉบับ
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ข้อมูลว่า มีทั้งสิ้น 200 กว่าฉบับ ซึ่งในจำนวนนี้ที่ประชุม ครม.มีความเห็นตรงกันว่า ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปจัดทำเป็นข้อมูลสรุปมาว่าแต่ละฉบับว่าด้วยเรื่องอะไรบ้าง มีข้อปรับปรุง มีข้อแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นที่ทราบตรงกัน และจะเป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินของ ครม.ต่อไป
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ในประเด็นการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งได้มีการไปศึกษาในข้อกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย ผลปรากฏว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้มีบทบัญญัติห้ามมิให้ตั้งคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นรัฐบาลชุดนี้สามารถตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีได้ แต่กรอบของกฎหมายอนุญาตให้ตั้งได้ไม่เกิน 30 คน ส่วนจะตั้งบุคคลใด กระทรวงใด และเมื่อใดนั้น ทางคณะรัฐมนตรี ผู้เป็นเจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวง และผู้บริหารของรัฐบาล จะได้มีการหารือกันในโอกาสต่อไป และคาดว่าในโอกาสต่อๆ ไปจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมาเป็นระยะ ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ต้องการให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมีส่วนสนับสนุน ส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์โภชน์ผลสูงสุดต่อประชาชน
ครม.รับทราบ สามารถแต่งตั้ง ส.ส.เป็นกรรมการวิปรัฐบาลได้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า แม้ว่าทางกฤษฎีกาจะตีความว่า สามารถแต่งตั้ง ส.ส.ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา เลขานุการรัฐมนตรีได้ก็ตาม แต่รัฐบาลก็ยังไม่มีนโยบายที่จะแต่งตั้งบุคคลผู้เป็น ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว เพียงแต่ว่าจากการศึกษารายละเอียดกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สรุปได้ว่า สามารถแต่งตั้ง ส.ส.เป็นกรรมการวิปรัฐบาลได้ เพราะถือว่าเป็นการมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนการตั้งกรรมการอื่นๆ ในระดับกระทรวง ต้องให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษาและหาข้อสรุปมาแจ้งต่อที่ประชุม ครม.ในคราวหน้า
ทั้งนี้ เพราะมีข้อห่วงใยในตัวบทกฎหมายว่า หากจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับกระทรวง โดยแต่งตั้ง ส.ส.เข้าไปนั้น อาจจะมีบางคณะกรรมการขัดต่อกฎหมาย หรือบางคณะกรรมการจะสามารถแต่งตั้งได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุม ครม.คราวหน้าจะมีการนำข้อมูลข้อสรุปเรื่องนี้มาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ครม.รับทราบ 5 มาตรการเร่งด่วนรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ว่า ในระยะต้นความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยเป็นช่วงๆ ซึ่งในช่วงแรกจะทำให้มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาในกรุงเทพฯ ก็มีอากาศเย็นพอสมควร และหลังจากนี้อากาศจะร้อนขึ้น และส่งผลให้มีปัญหาความแห้งแล้งเพิ่มขึ้น จะทำให้ราษฎรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร
ซึ่งในที่ประชุม ครม.วันนี้ได้แสดงความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่เป็นรากหญ้า จึงได้มีการนำเสนอจากทางกระทรวงมหาดไทยในการดูแลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ
ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด 34 จังหวัด 201 อำเภอ 1,121 ตำบล 6,725 หมู่บ้าน คิดเป็น 9.04 เปอร์เซ็นต์ของหมู่บ้านทั้งประเทศ และในส่วนราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนมีจำนวน 7 แสนกว่าครัวเรือน หรือ 2.7 ล้านกว่าคน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหายถึง 164,261 ไร่
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ แบ่งเป็นเรื่องของการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งในส่วนนี้มีแผนเตรียมการที่จะจัดรถบรรทุกน้ำ และการแจกจ่ายน้ำไปยังพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง การแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
ขณะที่งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว 135 ล้านบาทเศษ โดยแยกเป็นงบทดรองของจังหวัด 50 ล้านบาท รวม 124 ล้านกว่าบาท งบฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และงบอื่นๆ (รายละเอียดตามเอกสาร)
การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้งปี 2551 มีมาตรการเร่งด่วน 5 ข้อ คือ
1. การจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค
2. การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร
3. การสร้างรายได้และการส่งเสริมอาชีพระยะสั้น
4. การดูแลรักษาสุขภาพและสุขอนามัย
5. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ส่วนด้านๆ อื่นเป็นการเฝ้าระวังสภาพอากาศในช่วงนี้ เพราะอาจจะเกิดพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรง หรืออาจจะมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา จึงได้ฝากให้ประชาชนได้ติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดด้วย
ทั้งนี้ วันนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานในที่ประชุม ครม.ได้กำชับให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของน้ำ ได้มีการประชุมหารือกันเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้
ครม.อนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาการราชการแทน รมว.วิทย์ฯ
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสนอที่ประชุม ครม.พิจารณามอบหมายเป็นหลักการให้นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
ครม.พิจารณาแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศ เสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ดังนี้ รัฐบาลราชอาณาจักรบาห์เรน เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนใหม่ คือ นายอาเดล ยูซุฟ ซาตี รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์เลสเต เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนแรก คือ นายโชอัล เฟรตัส เด กามารา และรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนใหม่ คือ นายโมฮัมหมัด ฮัตตา
ทั้งนี้ หลังจากมีการพิจารณาชีวประวัติของแต่ละท่านแล้ว ครม.มีมติเห็นชอบตามที่เสนอมา
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า บรรยากาศการประชุม ครม.วันนี้ เริ่มต้นด้วยความคึกคักกว่า 3-4 ครั้งที่ผ่านมา เพราะทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ผู้จัดการดำเนินการได้มีการประสานคณะแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลราชวิถี มาทำการตรวจสุขภาพให้กับคณะรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุม ตลอดจนข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงาน ทราบข่าวว่ามีรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายท่านได้เข้ารับการตรวจสุขภาพ ซึ่งเบื้องต้นแพทย์ระบุว่าทุกคนสุขภาพดี ไม่มีปัญหา รัฐบาลชุดนี้ ครม.ชุดนี้คงจะมีกำลังกาย กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ได้อีกยาวนาน
ครม.อนุมัติปรับปรุงองค์ประกอบ-อำนาจหน้าที่ กก.ที่ปรึกษา กม.กระทรวงศึกษาธิการ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า วันนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอต่อ ครม.พิจารณาอนุมัติการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ
กล่าวคือ กระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการ หลายเรื่องหลายประเด็นด้วยกัน เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีคณะผู้มีความรู้ ความชำนาญด้านกฎหมาย มาช่วยผู้มีอำนาจตัดสินใจ วินิจฉัย สั่งการ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีการปรับปรุงองค์ประกอบที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอมา
เดิมคณะกรรมการดังกล่าวมีทั้งสิ้น 12 คน ให้ปรับเพิ่มเป็น 15 คน และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ (ตามรายละเอียดในเอกสาร)
องค์ประกอบของคณะกรรมการเดิม ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2549 มี ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ เป็นประธานกรรมการ มี รศ.ศรีราชา เจริญพานิช เป็นรองประธานกรรมการ และประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งสิ้น 12 คน ขณะที่องค์ประกอบของคณะกรรมการตามที่ ครม.อนุมัติในวันนี้ จะมีนายบุญปลูก ชายเกตุ เป็นกรรมการที่ปรึกษา รศ.ธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานกรรมการ นางกาญจนาลักษณ์ ลีวิโรจน์ เป็นรองประธานกรรมการ
ครม.ไฟเขียวงบฯ ปี 51 เพิ่มสำหรับเงินเดือน ขรก.ตุลาการ-ดาโต๊ะยุติธรรม
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า สำนักงานศาลยุติธรรมได้ขอให้นำเสนอ ครม.พิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2551 เพิ่มเติม สำหรับเงินเดือนของข้าราชการตุลาการ และดาโต๊ะยุติธรรม เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 103,796,700 บาท
สืบเนื่องจากการปรับเพิ่มฐานเงินเดือนของข้าราชการตุลาการ และดาโต๊ะยุติธรรม ตามพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการตุลาการ และดาโต๊ะยุติธรรม พ.ศ.2551 เกิดขึ้นภายหลังจากสำนักงานศาลยุติธรรมได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐสภาแล้ว เพราะฉะนั้นสำนักงานศาลยุติธรรมจึงไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายนี้
ประกอบกับงบประมาณด้านบุคลากรที่ได้รับในปีงบประมาณ 2551 มีไม่เพียงพอที่จะเจียดจ่ายได้ ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551 เพิ่มเติมจากรัฐบาล ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้ผ่านมตินี้เป็นที่เรียบร้อย
ครม.ให้กฤษฎีกาจัดทำสรุปข้อมูลกฎหมายฉบับต่างๆ ในห้วงปีเศษ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า วันนี้ประเด็นเรื่องข้อกฎหมายพูดคุยกันในที่ประชุม ครม.หลายประเด็น ซึ่งประเด็นที่หยิบยกมานำเสนอต่อสื่อมวลชน อาทิ มีการหารือกันในที่ประชุม ครม.ว่า ในห้วงปีเศษที่ผ่านมา มีข้อมูลว่ามีกฎหมายใหม่ๆ ทั้งที่ตราขึ้นใหม่ และแก้ไขปรับปรุง ออกมาหลายฉบับ ฉะนั้นรัฐมนตรีหลายท่านในที่ประชุมจึงได้เกิดความห่วงใย กังวลตรงกันว่า การบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้อง ถูกต้อง ตามหลักเกณฑ์ ตามบทบัญญัติในกฎหมายฉบับใหม่ๆ ที่ปรากฏออกมาและมีผลบังคับใช้นั้น มีความสำคัญและจำเป็น จึงได้สอบถามไปยังเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าในรอบปีเศษๆ ที่ผ่านมานั้นมีกฎหมายตราขึ้นใหม่ อันเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน กี่ฉบับ
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ข้อมูลว่า มีทั้งสิ้น 200 กว่าฉบับ ซึ่งในจำนวนนี้ที่ประชุม ครม.มีความเห็นตรงกันว่า ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปจัดทำเป็นข้อมูลสรุปมาว่าแต่ละฉบับว่าด้วยเรื่องอะไรบ้าง มีข้อปรับปรุง มีข้อแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นที่ทราบตรงกัน และจะเป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินของ ครม.ต่อไป
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ในประเด็นการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งได้มีการไปศึกษาในข้อกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย ผลปรากฏว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้มีบทบัญญัติห้ามมิให้ตั้งคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นรัฐบาลชุดนี้สามารถตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีได้ แต่กรอบของกฎหมายอนุญาตให้ตั้งได้ไม่เกิน 30 คน ส่วนจะตั้งบุคคลใด กระทรวงใด และเมื่อใดนั้น ทางคณะรัฐมนตรี ผู้เป็นเจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวง และผู้บริหารของรัฐบาล จะได้มีการหารือกันในโอกาสต่อไป และคาดว่าในโอกาสต่อๆ ไปจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมาเป็นระยะ ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ต้องการให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมีส่วนสนับสนุน ส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์โภชน์ผลสูงสุดต่อประชาชน
ครม.รับทราบ สามารถแต่งตั้ง ส.ส.เป็นกรรมการวิปรัฐบาลได้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า แม้ว่าทางกฤษฎีกาจะตีความว่า สามารถแต่งตั้ง ส.ส.ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา เลขานุการรัฐมนตรีได้ก็ตาม แต่รัฐบาลก็ยังไม่มีนโยบายที่จะแต่งตั้งบุคคลผู้เป็น ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว เพียงแต่ว่าจากการศึกษารายละเอียดกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สรุปได้ว่า สามารถแต่งตั้ง ส.ส.เป็นกรรมการวิปรัฐบาลได้ เพราะถือว่าเป็นการมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนการตั้งกรรมการอื่นๆ ในระดับกระทรวง ต้องให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษาและหาข้อสรุปมาแจ้งต่อที่ประชุม ครม.ในคราวหน้า
ทั้งนี้ เพราะมีข้อห่วงใยในตัวบทกฎหมายว่า หากจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับกระทรวง โดยแต่งตั้ง ส.ส.เข้าไปนั้น อาจจะมีบางคณะกรรมการขัดต่อกฎหมาย หรือบางคณะกรรมการจะสามารถแต่งตั้งได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุม ครม.คราวหน้าจะมีการนำข้อมูลข้อสรุปเรื่องนี้มาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ครม.รับทราบ 5 มาตรการเร่งด่วนรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ว่า ในระยะต้นความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยเป็นช่วงๆ ซึ่งในช่วงแรกจะทำให้มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาในกรุงเทพฯ ก็มีอากาศเย็นพอสมควร และหลังจากนี้อากาศจะร้อนขึ้น และส่งผลให้มีปัญหาความแห้งแล้งเพิ่มขึ้น จะทำให้ราษฎรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร
ซึ่งในที่ประชุม ครม.วันนี้ได้แสดงความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่เป็นรากหญ้า จึงได้มีการนำเสนอจากทางกระทรวงมหาดไทยในการดูแลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ
ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด 34 จังหวัด 201 อำเภอ 1,121 ตำบล 6,725 หมู่บ้าน คิดเป็น 9.04 เปอร์เซ็นต์ของหมู่บ้านทั้งประเทศ และในส่วนราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนมีจำนวน 7 แสนกว่าครัวเรือน หรือ 2.7 ล้านกว่าคน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหายถึง 164,261 ไร่
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ แบ่งเป็นเรื่องของการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งในส่วนนี้มีแผนเตรียมการที่จะจัดรถบรรทุกน้ำ และการแจกจ่ายน้ำไปยังพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง การแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
ขณะที่งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว 135 ล้านบาทเศษ โดยแยกเป็นงบทดรองของจังหวัด 50 ล้านบาท รวม 124 ล้านกว่าบาท งบฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และงบอื่นๆ (รายละเอียดตามเอกสาร)
การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้งปี 2551 มีมาตรการเร่งด่วน 5 ข้อ คือ
1. การจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค
2. การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร
3. การสร้างรายได้และการส่งเสริมอาชีพระยะสั้น
4. การดูแลรักษาสุขภาพและสุขอนามัย
5. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ส่วนด้านๆ อื่นเป็นการเฝ้าระวังสภาพอากาศในช่วงนี้ เพราะอาจจะเกิดพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรง หรืออาจจะมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา จึงได้ฝากให้ประชาชนได้ติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดด้วย
ทั้งนี้ วันนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานในที่ประชุม ครม.ได้กำชับให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของน้ำ ได้มีการประชุมหารือกันเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้
ครม.อนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาการราชการแทน รมว.วิทย์ฯ
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสนอที่ประชุม ครม.พิจารณามอบหมายเป็นหลักการให้นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
ครม.พิจารณาแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศ เสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ดังนี้ รัฐบาลราชอาณาจักรบาห์เรน เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนใหม่ คือ นายอาเดล ยูซุฟ ซาตี รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์เลสเต เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนแรก คือ นายโชอัล เฟรตัส เด กามารา และรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนใหม่ คือ นายโมฮัมหมัด ฮัตตา
ทั้งนี้ หลังจากมีการพิจารณาชีวประวัติของแต่ละท่านแล้ว ครม.มีมติเห็นชอบตามที่เสนอมา