“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ชี้ย้ายฟ้าผ่าอธิบดีดีเอสไอ จุดชนวนลุกฮือของภาคประชาชน เหตุรัฐบาล “หมัก 1” ส่อแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ช่วยเหลือพวกพ้อง จี้ “ปลัดจรัญ” แสดงจุดยืนคัดค้าน ปกป้อง ขรก.ไม่ให้การเมืองรังแก เผย “สพรั่ง” ยังแจงไม่เคลียร์ หลังให้สัมภาษณ์ชื่นชม “ทักษิณ” งง “กกต.สมชัย” ส่อแววอุ้ม “ท่านยุทธ” แถมตีลูกเซ่อไม่รู้ “นอมินี” ผิดอย่างไร
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 2
จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะคุณผู้ชมคะ รายการยามเฝ้าแผ่นดิน วันนี้พบกับเราสองคนนะคะ คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และดิฉัน จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ วันนี้คุณแอ้มลา 1 วัน เพราะเกิดป่วยกะทันหัน เอาใจช่วยให้น้องสาวหายป่วยเร็วๆ แต่วันนี้มีข่าวคราวที่ออกมาในช่วงบ่าย ทำให้หลายคนเริ่มไม่สบายใจกับการสั่งย้าย ย้ายกะทันหันอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ช่วงเย็นๆ อ.จรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว บอกว่า ตอนบ่ายคุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้หารือว่าจะมีคำสั่งย้าย คุณสุนัย มโนมัยอุดม จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ไปช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้คุณสุนัยได้เริ่มก่อตั้งสำนักงาน ปปท. ให้เป็นระบบ และสามารถปราบปรามการทุจริตในวงราชการได้ โดยจะย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จากรองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.มาช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการอธิบดีดีเอสไอไปก่อน โดยให้คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
ปานเทพ - ครับ, ข่าวนี้ถือเป็นข่าวใหญ่นะครับ เพิ่งมาตั้งแต่ตอนเช้า และก็มาสรุปตอนท้าย ก็คือ ตอนเย็น ท่านอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ คุณสุนัย มโนมัยอุดม ได้ทำหน้าที่อย่างสง่างาม อย่างสมเกียรติ ในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา จะว่าไปแล้ว คุณสุนัย เอง ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับคดี ที่มีความสำคัญหลายต่อหลายคดี และก็มีความสัมพันธ์กับคดีที่เกี่ยวข้องกับ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการซุกหุ้นเอสซีแอสเสทนะครับ หรือคดีอื่นๆ ซึ่งบางทีก็ต้องอยู่ในชั้นการส่งอัยการสูงสุด มีความสำคัญมาก และต้องถือว่านี่คือการโยกย้ายกระทันหัน ต้องยอมรับนะครับว่า ปกติถ้าเขาจะโยกย้ายกัน ถ้าไม่ช่วงเดือนเมษายนกลางปี ก็ต้องมีการโยกย้ายใหญ่ในประมาณปลายเดือนกันยายน เพื่อรอรับงบประมาณใหม่ในปีถัดไป ในต้นเดือนตุลาคม นี่แสดงว่าคือการตัดสินใจ ย้ายแบบฉับพลัน
จินดารัตน์ - คือเรียกว่าฟ้าผ่า
ปานเทพ - ฟ้าผ่า
จินดารัตน์ - ย้ายฟ้าผ่า นะคะ
ปานเทพ - ผมคิดว่า ชนวนตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อสู้ภาคประชาชน เป็นการจุดชนวนที่มีความเห็นเด่นชัดมากที่สุด ถ้าเราจำกันได้ การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยุติลงหลังจากที่มีการรัฐประหาร เป้าหมายอย่างเดียว คือ ให้คุณทักษิณลาออกไป พ้นจากตำแหน่ง ย้ำอีกว่า เราไม่เคยเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร ประชาชนไม่ได้เรียกร้องให้รัฐประหาร หรือแถลงข่าวในงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร ไม่มี
จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ
ปานเทพ - หนำซ้ำผมยังจำได้ว่า ทันทีที่มีการรัฐประหาร มีการแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงการณ์ฉบับนั้นผมยังจำได้ว่า บอกชัดเจนว่า เราไม่ได้เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ไม่เห็นด้วยนะครับ ไม่มีสักครั้งเดียวว่าเราเห็นด้วย แต่เราได้สลายตัวไป เพราะเป้าหมายได้สำเร็จสิ้นแล้ว ก็คือคุณทักษิณได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นถามว่า เรามีความเคลื่อนไหวอะไรไหมนอกจากการแถลงข่าวของ ครป. หรือการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ บางคนไปลงการเมือง หรือบางคนทำหน้าที่สื่อต่อไป บางคนเป็นเอ็นจีโอต่อไป ต่างคน ต่างทำหน้าที่ของตัวเองกระจัดกระจายกันออกไป
ปานเทพ -จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ คุณแอนครับ ทันทีที่มีการเลือกตั้ง ถามว่ามีการเคลื่อนไหวของ ครป.ไหม ของคุณสุริยะใส หรือคุณพิภพ ธงไชย มีครับ แต่มีการเคลื่อนไหวว่า ไม่ว่าจะเป็นใครมาเป็นรัฐบาลไม่ใช่สาระสำคัญ แต่ขอให้มีการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม นั่งคือประการที่หนึ่ง และการที่สอง ทันทีที่มีพรรคพลังประชาชนแล้ว ก็ขอเรียกร้องให้อย่าได้แทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม นี่คือจุดเปราะบางที่สุด ทันทีที่คุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ในฐานะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เห็นชอบในคำสั่งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ในกระทรวงยุติธรรมไปช่วยราชการในหน่วยงานอื่น คุณสุนัย แม้ว่าจะไปหน่วยงานที่ดี ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ปปท. แต่ไปเกี่ยวข้องกับคดีที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการส่วนใหญ่ยังไม่ใช่นักการเมือง
ปานเทพ -แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ดำเนินการแล้วตอนนี้ ไม่ใช่หน่วยงานใหม่ เป็นหน่วยงานที่มีแต่เดิม และมีคดีสำคัญๆ มากมาย และเกี่ยวพันกับอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ชินวัตร ด้วย ทุกคนเฝ้ามอง จับตา และเราเคยนั่งโต๊ะนี้แหละครับ กับคุณแอ้มด้วยซ้ำไป การเคลื่อนไหวอย่าง เอาคุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำให้คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเอง เพื่อไม่ให้โฉ่งฉ่าง แล้วก็ทำจริง ก็คือโยกย้ายข้าราชการเป็นด่านแรกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่า กระบวนการยุติธรรมได้ถูกข้อสงสัยจากภาคประชาชนอีกครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อตัดสินใจนำเอา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มาช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ปานเทพ -ต้องยอมรับนะครับว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับแกนนำรัฐบาลคุณทักษิณ ที่ขึ้นมาในครั้งนี้ แล้วไปเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญๆ ที่ค้างคาอยู่ โดยมีทีมพนักงานสอบสวนใต้บังคับบัญชา เป็นอดีตหน้าห้องของนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา นี่คือข้อกล่าวหานะครับ แล้วก็เป็น ทั้งทีมงานของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และที่สำคัญๆ มีข้อครหาและข้อสงสัยว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยังเป็นผู้รับผิดชอบคดีสำคัญของผู้ที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลคุณทักษิณหลายคดี เช่น คดีทีพีไอ พอเกิดรัฐประหาร พ.ต.อ.ทวี จึงถูกย้ายจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ สลับกับนายภิญโญ ทองชัย รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ขณะที่ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ทำเรื่องขอโอนกลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทีนี้พอดีเมื่อนายสมพงษ์ซึ่งเป็นพี่ชายของ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ เข้ามารับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงมีข่าวออกมาเสมอว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จะถูกย้ายกลับมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และจะเข้าข่ายก้าวหน้าเป็นระดับ 10 หลังจากที่แถลงนโยบายเสร็จก็มีข่าวอย่างนั้นจนกระทั่งมีกระบวนการเกิดขึ้นจริงดังที่ว่า ทีนี้คำถามก็คือ ความรู้สึกของคุณสุนัยรู้สึกอย่างไร
ปานเทพ -คุณสุนัย บอกว่า เมื่อเปิดทำงานวันจันทร์ที่ 25 นี่คือการย้ายฉุกเฉิน ตัวเองจะเข้าไปเก็บของในห้องทำงาน ไม่รู้สึกอะไร จะทำงานไปตามปกติ เป็นข้าราชการต้องทำใจ ส่วนเรื่องโอนกลับศาลยุติธรรม อยู่ในช่วงของการพิจารณาในขั้นตอนนี้ ระหว่างนี้จะช่วยงานปลัดกระทรวง ไปพลางก่อน คุณแอนครับ สถานการณ์ตอนนี้ผมคิดว่า มันเป็นจุดที่ล่อแหลมมาก เพราะว่ายามใดก็ตามที่กระบวนการยุติธรรมถูกสงสัยจากภาคประชาชนว่า ถูกแทรกแซงจากภาคการเมือง หมายถึงว่า ประชาชนจะพึ่งไม่ได้กับกระบวนการยุติธรรม ถ้านักการเมืองเหล่านั้นกระทำความผิด หรืออดีตนักการเมืองเหล่านั้นได้กระทำความผิดเอาไว้แล้วไม่สามารถสอบสวนได้ ตำรวจเหมือนคดีความ เหมือนต้นน้ำ อัยการหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ เหมือนช่วงระหว่างกลางน้ำก่อนจะไปถึงกระบวนการสุดท้าย ก็คือ ปลายน้ำ ก็คือ กระบวนการศาลยุติธรรม ถ้ากระบวนการทั้งหมดถูกกีดกันไม่ให้สอบสวน หรือบิดเบือนเจตนารมณ์ในการสอบสวน เพื่อช่วยคนใดคนหนึ่งไม่มีทางถึงปลายน้ำครับคุณแอน
ปานเทพ -ยกเว้นแต่ภาคประชาชนจะต้องรวมตัวกันแล้วลุกขึ้นสู้ร่วมกันในการดำเนินการ ทำทุกวิถีทางให้ข้าราชการคนใดก็ตามประพฤติมิชอบ ต้องมีส่วนรับผิดชอบในทางกฎหมาย เป็นอย่างน้อย ยังไม่นับการกดดันในทางอื่นของภาคมวลชน ซึ่งผมคิดว่า จุดเริ่มต้นตรงนี้เป็นจุดที่เปราะบางมาก ก่อนหน้านี้จะเห็นว่า ในวงการสื่อสารมวลชนจำนวนไม่น้อย เรียกร้องให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สงบ ยุติบทบาท คุณแอนครับ บางคนไปสัมภาษณ์กับการเมืองว่า คิดอย่างไรถ้าพันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวถ้าพรรคพลังประชาชนมา เราไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย เราไม่เคยมีการแถลงข่าวอย่างนั้นเลย มีแต่ปรากฏการณ์เพียงว่า อย่าได้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ตรงนี้เท่ากับเป็นจุดเริ่มต้นว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังถูกตั้งข้อสงสัยว่า เริ่มกระบวนการเช็กบิล ข้อที่หนึ่ง สอง ได้กระทำการไม่ได้ทำเพื่อคน 63 ล้านคนแล้วหรือไม่ จะกระทำเพียงเพราะเกี่ยวข้องกับรัฐบาลคุณทักษิณเท่านั้นโดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น หรือไม่
ปานเทพ -ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของสื่อ หรือเข้าไปแทรกทั้งหมด ที่สำคัญที่สุดครับ ในบรรยากาศตอนนี้ถามว่า เราควรจะพึ่งใคร อันดับแรกเลย ผมคิดว่า ข้าราชการที่เป็นระดับผู้ใหญ่กว่าอธิบดี ก็ต้องมีหน้าที่ในการต่อสู้ ผมคิดว่า อย่างคุณจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งเป็นปลัดกระทรวง ก็มีความหมายที่จะไปเกี่ยวข้องหรือไปยับยั้งการโยกย้ายที่เห็นว่าไม่เหมาะสมในช่วงระยะเวลาตอนนี้ โดยเฉพาะถ้ามีคดีสำคัญๆ และเกี่ยวข้องกับวิกฤติของบ้านเมือง ผมคิดว่า คุณจรัญ ภักดีธนากุล ถึงแม้ว่าจะเป็นข้าราชการในฐานะปลัดกระทรวงยุติธรรมที่อยู่ภายใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่อยู่ฝ่ายการเมือง ก็ควรต้องยืนว่า ถ้าไม่เห็นด้วย เห็นว่ามีความเกี่ยวพันกับคดี ก็ต้องยืน อย่างน้อยที่สุดต้องแสดงเป็นตัวหนังสือว่า ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นชอบ
จินดารัตน์ - คืออาจจะทักท้วงด้วยคำพูดแล้วละคุณปานเทพ
ปานเทพ - ผมไม่ทราบ
จินดารัตน์ - แต่ว่า ถ้าเขาจะย้ายซะอย่างอะไรก็ขวางไม่ได้
ปานเทพ - ผมไม่ทราบครับ แต่ผมเข้าใจว่า สุดท้ายจะโยกย้ายอย่างไรเราอาจจะขวางไม่ได้ แต่อย่าลืมว่า ท่าน อ.จรัญ ภักดีธนากุล เป็นความหวังของคนจำนวนมากว่าจะธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม จะปกป้องข้าราชการที่ทำงานดี ที่ทำอย่างตรงไปตรงมา ในยามที่นักการเมืองกลั่นแกล้ง ก็พร้อมจะออกมาต่อสู้ ผมไม่รู้ว่า ท่านปกป้องแล้วหรือยัง ผมไม่รู้นะครับ
จินดารัตน์ - เพราะอย่างน้อยที่สุด อ.จรัญ เป็นคนทาบทามคุณสุนัย มาจากศาลยุติธรรม มาช่วยงานที่ดีเอสไอ
ปานเทพ - ใช่, ซึ่งผมเห็นว่า ท่านน่าจะออกมาแถลงข้อเท็จจริงว่า สถานการณ์จริงๆ เกิดขึ้นอย่างไร และเกิดอะไรขึ้น
จินดารัตน์ - ท่านได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง
ปานเทพ - ทำอะไรไปแล้วบ้าง ให้ประชาชนได้รับรู้หน่อยว่า ในฐานะข้าราชการระดับสูง และเป็นเรื่องสำคัญในแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ ท่านออกมาปกป้อง และออกมาต่อสู้เพื่อข้าราชการที่ทำอย่างตรงไป ตรงมาหรือไม่ ดีกว่าให้คุณสุนัย ออกมาพูดบอกว่า "ต้องทำใจ" แต่ทีนี้คำถามก็คือว่า ถ้าคิดว่าได้ทำแล้วนะครับ ผมคิดว่าบ้านเมืองตอนนี้ ควรจะพึ่งใครละ บ้านเมืองที่เราคิดว่า ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ ก็ไปมีกระบวนการ หรือไม่ก็ไม่มีใครทราบได้ ไปบล็อคกระบวนการไม่ให้ถึงปลายน้ำ เพื่อพิสูจน์กระบวนการยุติธรรม หลายคนเคยสงสัยว่า ขั้นตอนระหว่างทางเนี้ย บางทีน่าห่วงว่าไม่มีใคร ที่จะไปเข้าสถานการณ์ที่จะไป ทำให้เกิดคดีต่างๆ นั้น เข้าสู่ปลายทางได้ ประชาชนก็จะไม่มีทางออกอีก นี่ถ้าไปรุกรานสื่ออีก ไปแทรกแซงสื่ออีก ผมเชื่อว่าสถานการณ์จะกลับมาเหมือนเดิม
จินดารัตน์ - ดิฉันก็เลยไม่แน่ใจว่า นโยบายฆ่าตัดตอนปราบปรามยาเสพติดเนี้ย มันจะกลับมาอีกครั้งนึง เริ่มแล้วนะคะ เริ่มจะฆ่าตัดตอนกันแล้วนะคะ
ปานเทพ -อันนี้คือความน่าเป็นห่วงไง
จินดารัตน์ - คะ, ถ้าเปรียบเทียบนะคะ เพราะว่าผู้กำกับ สภอ. แม่จัน ที่เคยส่งลูกน้องเข้าไปค้นบ้านหัวคะแนน ของนักการเมืองผู้กว้างขวางใน จ. เชียงราย ก็โดนย้ายซะแล้ว ดิฉันว่าวันนี้มันเริ่มต้นขึ้นแล้ว กระบวนการที่หลายคนปฎิเสธ ในรัฐบาลว่าไม่มีการเช็คบิล แต่มันปฎิเสธไม่ได้จากการกระทำที่ทำลงไป มันสวนทางกับคำพูดอย่างเห็นได้ชัด
ปานเทพ - ครับ
จินดารัตน์ - คุณปานเทพ ดิฉันขออนุญาตไหนๆ แล้วนะคะ ท่านได้ทำคุณงาม ความดี แล้วก็ทำงานของท่านอย่างเต็มที่ปีเศษๆ ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มา หลายต่อหลายคดี ที่ส่งสำนวนสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้วนะคะ มีคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร ซึ่งตอนนี้อยู่ในชั้นสอบสวนของดีเอสไออยู่ คดีทุจริตอีกหลายโครงการในท่าอากาศยาน ก็คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ พล.ร.อ. บรรณวิทย์ ส่งเข้าไปทั้งหมด 18 เรื่อง รวมเรื่องอื่นๆ ด้วยนะคะ
ปานเทพ - ครับ
จินดารัตน์ - คุณสุนัย ตอนนี้อายุ 59 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกียรตินิยมดี หรือ เหรียญเงิน นะคะ สำเร็จการศึกษาเนติบัณฑิตทั้งไทยและอังกฤษ รับราชการครั้งแรกที่กรมอัยการเมื่อปี 2522 ตำแหน่งอัยการผู้ช่วยกองคดี เป็นผู้พิพากษาประจำกระทรวงในปี 2524 เคยเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดทุ่งสง จ.สุรินทร์ และในปี 2540 นะคะ เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ต่อมาคะ เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ก่อนที่จะถูกโอนย้ายมาอยู่กระทรวงยุติธรรม และเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2549 ครม. ชุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ คนที่ 3 คะ ก่อนที่จะถูกคำสั่งย้าย ไปช่วยราชการในวันนี้ แล้วก็วันนี้หลายคนอ่านข่าวนี้แล้ว บอกว่าทำอย่างไรดี อยากส่งกำลังใจไปให้ท่าน
ปานเทพ - ส่งได้ครับ และก็ส่งกำลังใจให้กับข้าราชการที่ทำงานดี แต่ว่าผมฝากนิดนึงก็คือว่า กระบวนการตอนนี้ยังไม่จบนะครับ แน่นอนว่ารัฐมนตรีมีอำนาจ แต่ว่าขั้นตอนต้องแจ้งรัฐมนตรีเพื่อทราบ ผมคงไม่คาดหวังนะครับ คุณแอน ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรมเอง ดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษเอง จะไประงับในกระบวนการดังกล่าว และเชื่อว่า คุณสมัคร สุนทรเวช ที่พยายามที่จะเป็นตัวของตัวเอง ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง บัดนี้เนี้ย ไม่มีท่าแล้ว ไม่มีเหลือสภาพ
จินดารัตน์ - อะไรดลใจ
ปานเทพ - เหมือนกับว่าตอนนี้เนี้ย อะไรที่มันคิดว่าจะเป็น มันกลับพลิกไปพลิกมาได้ คุณแอนครับ แล้วก็บางทีเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่า คุณสมัคร จะกลับไปหรือว่าที่จริง เขาอาจจะเป็นอย่างนี้เองก็ได้ ตั้งแต่ตอนแรกนะครับ แต่ว่าเพียงแต่ว่าผม ตั้งความรู้สึกอันเนื่องมาจากเห็นว่า
จินดารัตน์ - ไม่ได้ตั้งความหวังนะคะ
ปานเทพ - ไม่ได้ตั้งความหวังครับ ตั้งความรู้สึกว่า คุณสมัคร สุนทรเวช อายุขนาดนี้นะครับ ไม่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี สูงสุดที่สุดในชีวิต ในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งที่จะทำได้ และก็มาอย่างฟลุ๊คๆ ก็ว่าได้ มาถึงจับพลัดจับผลูเป็นนายกรัฐมนตรี มีโอกาสเข้าเฝ้า กราบบังคมทูลกับพระองค์ท่าน กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการส่วนพระองค์ 30 นาที ก่อนถวายสัตย์เป็นระยะเวลานานที่สุด ต้องถือว่าได้รับพระมหากรุณาที่สุด เป็นล้นพ้นในชีวิต อย่างที่ผมรู้สึกนะครับ ผมเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นเลย ผมรู้สึกว่าคุณสมัคร น่าจะทำหน้าที่อะไร ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มีเกียรติ ที่ให้ความเป็นธรรม ที่ทำงานเพื่อคน 63 ล้านคน เพราะความรู้สึกในเรื่องของสายตระกูล ชาติตระกูลของคุณสมัคร สุนทรเวช ที่จะไม่ยอมให้ใครตราหน้าว่า เป็นนายกรัฐมนตรีหัวหลักหัวตอ ก็ต้องเฝ้าดูครับ เฝ้าดูกันต่อไป
จินดารัตน์ - คนบางคนนะคะคุณปานเทพ คือจะรู้ผิดชอบชั่วดีด้วยตัวของเขาเอง คนบางคนก็ต้องมีคนเตือนสติ แต่คนบางคนต่อให้ตายไป นอนอยู่ในโลกจำปา ถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอะไรผิดชอบชั่วดี ทำใจไว้นะคะ บอกแล้วว่าอย่าตั้งความหวัง แต่ให้มีความรู้สึกเอาไว้นิดๆ ก็ดีเหมือนกันว่า อย่างน้อยที่สุดเราเคยคิดว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น มันน่าจะเป็นอย่างนี้ แต่ถ้าไม่เป็นก็ไม่ต้องเสียใจ
ปานเทพ - อย่าไปตั้งความหวังครับ เราแค่ดูสถานการณ์แล้ววิเคราะห์ตามดูกันไป
จินดารัตน์ - อีกหน่วยงานหนึ่งที่หลายคนเป็นห่วง เป็นห่วงกันจริงๆ นะคะ แม้แต่ตัวดิฉันเองดิฉันมีความรู้สึกว่า วันไหนที่เราได้เห็นข่าว คตส.ออกมาพูดถึงเรื่องการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตต่างๆ เราก็แอบลุ้นอยู่ว่า คตส.จะได้ทำงานครบวาระไหม จะอยู่กันจนถึงหมดอายุของ คตส.ไหม วันนี้ อ.นาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนทุจริตเรือ-รถดับเพลิงของ กทม. ออกมาพูดถึงกรณีที่คุณสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศ เคยพูดเอาไว้เมื่อไม่กี่วันมานี่เอง บอกว่า ถ้าตัวเขาไม่บริสุทธิ์จริงไม่สามารถเดินมาถึงขนาดนี้ อ.นาม บอกว่า ไม่รู้สึกกดดัน แล้วก็ ความจริงอยากจะเร่งสรุปคดีนี้ แต่ดูเหมือนคดีนี้มันมีอาถรรพ์เหลือเกิน ทำงานมาเมื่ออายุ 27 ปี ทำงานมาตลอด 27 ปี ถือว่าคดีนี้ยากที่สุด คุณปานเทพ แต่จะพยายามทำงานนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งคงจะสรุปให้ทันได้เดือนมิถุนายนนี้ เพราะว่าจะต้องมีการรื้อสอบสัญญาในส่วนผู้ขายใหม่ โดยตอนนี้ คตส.ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ ให้ติดต่ออดีตทูตออสเตรเลีย ในการตอบคำถามให้อนุกรรมการไต่สวนฯ ต้องการทราบ เพราะคุณสมัครเคยอ้างคำพูด ของอดีตทูตท่านนี้ให้เป็นพยานด้วย นักข่าวเลยสงสัยว่า กลัวไหมว่ากระทรวงการต่างประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุณนพดล ปัทมะ จะบ่ายเบี่ยงไม่ให้ความร่วมมือ อ.นาม บอกว่า ก็ทำอย่างไรได้ล่ะ ก็ต้องทำตามขั้นตอน แล้วถาม อ.นาม อีกด้วยว่า แล้วมองอย่างไรที่คุณทักษิณ อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อสู้คดีที่ดินรัชดาฯ เร็วๆ นี้ อ.นาม บอกว่า สามารถกลับมาได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคนไทย กลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วจะรออะไรอีก จริงๆ กลับมาได้ตั้งนานแล้ว
ปานเทพ - จริงๆ เราเรียกร้องให้กลับมาด้วยซ้ำไป กลับมาเพื่อขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม เพียงแต่ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า ตอนนี้สถานการณ์ตอนนี้ สิ่งที่เราเรียกว่าเป็นกระบวนการยุติธรรม มันไม่ได้สร้างบรรทัดฐานหรือความสงสัยว่า จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้จริงหรือเปล่า แล้วก็ ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่เฉพาะกระบวนการท่อนกลางตอนนี้เท่านั้น แม้กระทั่งเรื่องของ กกต.ตอนนี้ เราก็ยังสงสัย น่าห่วงมากนะครับ
จินดารัตน์ - เรื่องของ กกต.เดี๋ยวจะพูดนะคะ แต่ว่าเอาอย่างนี้แล้วกัน ดิฉันจะขอพักกันก่อน เดี๋ยวกลับมาช่วงหน้า ถ้าคุณผู้ชมสังเกตนะคะว่า เมื่อการเมืองมันเปลี่ยนขั้ว อะไรๆ มันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม มันจะทยอยกลับไปเป็นภาพเดิมๆ ที่เราเคยเห็นกันเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ส่วนคน คนเองบางครั้งเราอาจจะมีความรู้สึกว่า เรามองแล้วชัดแจ่มแจ้งแล้วว่า คนนี้เป็นแบบนี้ แต่บางทีระยะเวลาที่ผ่านมามันอาจจะมีบางอย่างที่ทำให้คนๆ นั้นเปลี่ยนไปหรือเปล่า หรือว่าเราเข้าใจกันไปเอง หรือว่าอย่างไรก็ตาม อะไรก็แล้วแต่นะคะ เดี๋ยวคุณผู้ชมช่วงหน้า กลับมาลองฟังกันว่าบุคคลคนนี้เคยเป็นอย่างไร ในความรู้สึกของคุณผู้ชม พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร วันนี้ถ้าคุณผู้ชมได้อ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คงจะได้อ่านบทสัมภาษณ์ แล้ววันนี้ท่านเองก็ให้สัมภาษณ์กับรายการ Nes Hour ของเรา ช่วงบ่าย 3 ที่ผ่านมา คุณเติมศักดิ์สัมภาษณ์ เดี๋ยวช่วงหน้ากลับมา ลองมาฟังคำตอบของท่านผู้นี้ดูค่ะ สักครู่ค่ะ
( รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่สอง )
จินดารัตน์ - กลับมาช่วงสุดท้าย รายการยามเฝ้าแผ่นดินคะ คุณผู้ชมคะ เราทิ้งท้ายกันไว้กับคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร
ปานเทพ - คืออย่างนี้นะครับ คุณแอน คือตอนเช้าผมมาถึงที่ผู้จัดการเนี้ย ก็จะมี นสพ. เราก็จะวางอยู่หลายฉบับนี่นะครับ เราก็ต้องตรวจสอบทุกฉบับ หนึ่งในฉบับหนึ่ง ที่วันนี้ต้องหยิบยกขึ้นมา เพราะว่ากลายเป็นหัวข้อที่มีผู้ชมเข้ามากที่สุด ในเว็บไซต์ผู้จัดการ นี่ครับ หัวข้อนี้ครับ เป็นมาจาก นสพ. กรุงเทพธุรกิจ ในหน้าที่ 15 สัมภาษณ์พิเศษ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร หัวข้อข้างบนนี่นะครับ บอกว่า แง้มหัวใจช้ำ “สพรั่ง กัลยาณมิตร” กับ พล.อ.สนธิ ผมไม่นับญาติ นะครับ ทีนี้ก็ปรากฎว่า คำถามอื่นเนี้ยไปหาอ่านกันเอาเอง เพราะคำถามนี้ยาว แต่ว่าเนื้อหาสาระเนี้ยจะมีเรื่องของความสัมพันธ์ ระหว่าง พล.อ.สพรั่ง หนึ่งคนเป็นตัวหลัก เป็นตัวเดินเรื่องในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ กับบุคคลสองคน คนหนึ่งก็คือ คนที่รัฐประหารมาด้วยกัน ก็คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่ง พล.อ.สพรั่ง ใช้คำนี้ว่า "ผมไม่นับญาติ" เราไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ ที่เราต้องอ่านอะไรต่อเนี้ยนะครับ เพื่อความกระชับของเวลาที่เรามีอยู่จำกัดตอนนี้ อีกด้านหนึ่งก็คือ บุคคลที่ พล.อ.สพรั่ง ในสายตาผู้คนมองว่าต่อสู้กับคุณทักษิณ ว่าชนมาตลอดตามที่หลายๆ คนเข้าใจ และก็ทุกคนเข้าใจอย่างนั้นนี่นะครับ ก็ปรากฎว่าแทบทุกคนในข่ายผู้จัดการ ไม่เว้นแม้ว่าใครก็ตาม จะมาสะดุดในหัวข้อสุดท้ายที่ฟังคำถาม
จินดารัตน์ -เป็นคำถามสุดท้าย และเป็นคำตอบสุดท้ายของคอลัมน์นี้
ปานเทพ - ใช่ครับ, เป็นคำถามสุดท้าย และเป็นคำตอบสุดท้าย ที่ถอดความและก็ลงในนี้ ตามที่ปรากฎเป็นตัวหนังสือนี้ เขียนว่าอย่างนี้ มีคนอยากรู้กันเยอะว่าลึกๆ แล้ว พล.อ.สพรั่ง รู้สึกอย่างไรกับคนชื่อทักษิณ หมายถึงระบุตัวบุคคลเลยนะครับ พล.อ.สพรั่ง ตามคำสัมภาษณ์นี้เขียนว่า “จริงๆ แล้วเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ตอนที่ผมเป็นแม่ทัพภาค 3 ก็ได้รับเกียรติจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มากพอสมควร ถือว่าดีที่สุดในยุคที่การเมืองเข้มแข็งขนาดนั้น ก็ต้องให้เครดิตกับอดีตนายกฯ ส่วนจุดหักเหของความขัดแย้งก็ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้เกิดที่ตัวบุคคล แต่เกิดจากความไม่สบายใจ และสิ่งแวดล้อมคนใกล้ตัวพาดพิงถึงเบื้องสูง ไม่ได้เกี่ยวกับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ” คุณแอนครับ สิ่งที่ปรากฎเนี้ยก็คือ คำต่อคำ ผมไม่ได้มีการดัดแปลงอะไรเลยนะครับ เป็นคำต่อคำที่ปรากฎอยู่ใน นสพ. ผิดหรือถูก จากคำสัมภาษณ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่เราเห็นตอนนี้เนี้ย ผมก็บอกได้ว่าหลายๆ คน ในผู้จัดการเนี้ย ถึงกับตกใจ และก็บอกว่าไม่น่าเชื่อว่าจะพูดแบบนี้ เป็นการรายงานจากกรุงเทพธุรกิจ ก็เลยปรากฎว่า ตามหน้าที่ของสื่อ สิ่งที่ปรากฎเป็นเช่นนี้ ก็เลยมีการลงในเว็บไซต์ผู้จัดการ ปรากฎว่า ข่าวนี้ขึ้นอันดับที่หนึ่งครับ คุณแอนครับ แล้วก็ทำให้หน้าที่ของทีมงาน(***) ต้องไปหาข้อมูลว่า พล.อ.สพรั่ง เคยพูดอะไรไว้บ้าง เป็นข่าวหัวข้อที่สอง ก็ติดห้าอันดับแรก ที่คนชมมากที่สุด ว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรเปลี่ยนไปมากหรือไม่
จินดารัตน์ - ในอดีต พล.อ.สพรั่ง พูดอะไร วันที่เท่าไหร่
ปานเทพ - และเปลี่ยนไปหรือไม่ อย่างไรนะครับ เป็นหัวข้อที่สอง แต่ว่าตามหน้าที่ของสื่อสารมวลชน เมื่อปรากฎข่าวที่คนสนใจกันมากขนาดนี้ ตามคำสัมภาษณ์นี้นะครับ ก็เลยทำให้เราต้องทำหน้าที่สื่อ ไม่สามารถที่จะไม่หยิบยกมา หรือไม่พูดถึงก็ไม่ได้ ดังนั้นเมื่อบทบาทเป็นเช่นนี้ ตอนช่วงเวลา 15.00 น. รายการ NEWs HOUR ของ คุณเติมศักดิ์ จารุปาน และ คุณกมลพร วรกุล นี่นะครับ ก็เลยต้องขอสัมภาษณ์ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นระยะเวลานานมากนะครับ ครึ่งชั่วโมง
จินดารัตน์ - คะ
ปานเทพ - ครึ่งชั่วโมงนี้ ก็ปรากฎว่าทางเว็บไซต์ผู้จัดการตัดสินใจ เอาเทปทั้งหมดนี่นะครับ อยู่ในเว็บไซต์และก็คลิกให้ชมดูทั้งหมด ไปฟังได้ สำหรับผมเนี้ย ผมสารภาพว่าผมไม่ได้ฟัง ในช่วงระยะเวลาตอนนั้น แล้วก็ทางทีมงานนั้นได้จัดการเอามา ให้ท่านผู้ชมได้ฟังเต็มๆ ว่า พล.อ.สพรั่ง ตอบอย่างไร กับประเด็นนี้ที่เกิดขึ้น ด้วยการเข้าสัมภาษณ์ รายการ NEWs HOUR นะครับ แล้วก็เนื่องจากเราข้องใจ และสงสัย และตกใจกับคำพูดนี้ ก็ต้องมีการสอบถาม เราจะไปฟังคำสัมภาษณ์ ของ พล.อ.สพรั่ง กับ รายการ NEWs HOUR ว่า คุณเติมศักดิ์ ถามว่าอะไร และ พล.อ.สพรั่ง ตอบว่าอย่างไร ในแต่ละประเด็นนะครับ เชิญครับ
(VTR คำสัมภาษณ์ ของ พล.อ.สพรั่ง ในรายการ NEWs HOUR )
ปานเทพ - ครับ
จินดารัตน์ - คือถ้าฟังแล้ว หลายคำถามดิฉันเรียนตรงๆ นะคะ คุณปานเทพ ท่านไม่ได้ตอบตรงคำถาม คือ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นชื่อรายการ ก็คือ ถามอย่าง ตอบอย่าง น่าจะได้ คือคำถามบางคำถามเนี้ย ดิฉันว่าคำตอบเนี้ย มันไม่ควรจะเป็น อย่างที่ท่านตอบมานะคะ
ปานเทพ - คือน่าจะชัดได้มากกว่านี้ ใช่ไหมครับ
จินดารัตน์ - ใช่คะ, ท่านควรจะพูดชัดเจนได้มากกว่านี้ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ดิฉันก็เห็นคำสัมภาษณ์ จากในกรุงเทพธุรกิจแล้วเนี้ย มันทำให้อดนึกไม่ได้ว่า จากคำสัมภาษณ์ของท่านเอง ที่ท่านบอกว่าอย่าไปถามถึงอดีต ให้มาทำปัจจุบันให้ดี แล้วก้าวต่อไปข้างหน้า
ปานเทพ - ครับ, เอาละ แต่ว่าท่านผู้ชมที่อยากจะฟังเต็มๆ ทั้งหมด ซึ่งระยะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งระยะเวลา ของรายการเราคงไม่ครบถ้วน เนี้ยนะครับ ก็สามารถรับชมได้ตอนเวลา ตี 1 คืนนี้นะครับ ก็จะมีรันอีกครั้งหนึ่งใน รายการ NEWs HOUR ก็รับชมกันดู และก็ไปใช้วิจารณญาณดูกันว่า ตอบได้ครบถ้วน ข้องใจ หรือหายข้องใจ หรือว่ายังไม่ข้องใจ นะครับ หรือว่าข้องใจมากขึ้น ก็ต้องลองไปชมดูกันครับ
จินดารัตน์ -แล้วแต่คุณผู้ชมนะคะ ว่าชมแล้วรู้สึกอย่างไรนะคะ เอาละคะเรามาดูวันนี้ บรรดาเลขานุการ ผู้ช่วยเลขานุการที่ปรึกษา เข้ากระทรวงกันนะคะ คนแรกที่นักข่าวสนใจกันมากเหลือเกิน ก็คือ คุณวัน อยู่บำรุง คุณวัน เดินทางไปที่กระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับคนติดตามอีกหลายคนนะคะ เข้าไปทำงานตั้งแต่ช่วงเช้า แล้วก็ปรากฎว่า ช่วงเช้าเดียวกันนั่นเอง คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศลาออกจากตำแหน่งคะ โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้สังคมเนี้ย ไม่สบายใจ ไปจัดการเรื่องตัวเองให้เรียบร้อยก่อน เรื่องนี้มีนักข่าวไปถาม คุณเฉลิม เยอะ ว่าเนี้ย คุณเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ลาออกไปแล้วเนี้ย ทำไมคุณวัน ไม่ลาออก คุณเฉลิม อยู่บำรุง บอกว่า คือจริงๆ มันคนละกรณีกัน เขาบอกว่าผมจะขอพูดเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายว่า ชนม์สวัสดิ์ กับ วัน เป็นคนละเรื่องกัน ชนม์สวัสดิ์ ติดอยู่ในคดีซื้อเสียง ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน คดียังไม่จบ จึงได้แสดงสปีริตลาออก เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้า แต่คุณวัน ไม่มีคดีอะไรติดตัวคนละเรื่อง สื่ออย่ามาถามให้เกิดความแตกแยกแบบนี้ซิ แล้วพรรคเขาก็ไม่เกี่ยวกับผมด้วย
ปานเทพ - ครับ, ตกลงสื่อผิดใช่ไหมครับ สื่อผิดที่ไปถาม ทำให้เกิดความแตกแยก ก่อนอื่นเลยนะครับ ผมคิดว่าเราต้องขอชื่นชมพฤติกรรม และการกระทำ ของ คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ในคราวนี้นะครับ ในคราวที่สังคมมีความรู้สึกว่านักการเมือง หลังจากหย่อนบัตรแล้ว ไม่ได้สนใจว่าประชาชนเขาจะรู้สึกอย่างไร จริงอยู่ว่า คุณชนม์สวัสดิ์ อาจจะอ้างเหตุผล เรื่องของคดีความตามที่ คุณเฉลิม พูด แต่ตอนท้ายเนี้ย คุณชนม์สวัสดิ์ ก็พูดถึงประชาชน ที่เขารู้สึกอย่างไร กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็ตัดสินใจไม่รับตำแหน่ง ทางการเมืองในครั้งนี้
จินดารัตน์ - คะ
ปานเทพ - ก็ต้องถือว่าได้เข้าอกเข้าใจ และก็แคร์ต่อความรู้สึกของสังคมว่า รู้สึกอย่างไร และมีความรู้สึกที่จะต้องรับผิดชอบ ต่อความรู้สึกนั้นอย่างไรบ้าง
จินดารัตน์ - แต่ดิฉันมีสิทธิที่จะไม่เข้าใจได้ไหมคะ
ปานเทพ - ไม่เข้าใจว่า
จินดารัตน์ - คือ ดิฉันคุยกับหลายคน เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกับดิฉันว่า ทำไมรู้ตั้งแต่แรก ว่าจะได้รับการเสนอชื่อให้เป็น ผู้ช่วยเลขาธิการ ทำไมไม่แสดงสปิริตตั้งแต่แรก ว่าผมไม่รับตำแหน่ง
ปานเทพ - คุณแอน พูดได้น่าคิดมากเลยครับ
จินดารัตน์ - แล้วทำไมถึงต้องเป็นก่อนซักวันนึง ขอให้ได้มีชื่อเป็นก่อน ได้รับการแต่งตั้งก่อน แล้วถึงจะลาออก
ปานเทพ - คุณแอน พูดได้น่าสนใจมาก เพราะว่าบางคนก็บอกว่า นี่คือการต้องการแสดง เป็นพื้นที่เวทีให้เห็นว่าแสดงสปีริตนั้น เป็นอย่างไร ภายใต้ของคนตระกูล อัศวเหม ไม่ต้องพูดถึง คุณวัฒนา อัศวเหม นะครับ ในฐานะนายทุนพรรคใหญ่ นายทุนใหญ่ของพรรคเพื่อแผ่นดินเนี้ย ไม่ได้รับตำแหน่งอะไรเลย ในขณะที่ลูกชายนั้นก็รับตำแหน่ง 1 วัน แล้วก็แสดงให้ดูว่าพร้อมที่จะไม่รับได้ด้วย ไม่งั้นก็ไม่ต้องรับตั้งแต่ต้นถูกไหมครับ
จินดารัตน์ - คะ
ปานเทพ -แต่ว่าการแสดงให้เห็นเนี้ย มันก็เหมือนเป็นการแสดงสัญญาณอะไรบางอย่างนะ คุณแอน เพราะทันทีที่เกิดขึ้นเนี้ย มันอดไม่ได้ที่จะเกิดการเปรียบเทียบ
จินดารัตน์ - คะ
ปานเทพ - ไม่ว่าจะเป็นเพราะพอร์ตเรื่องวางไว้ว่า ให้ดูเกิดการเปรียบเทียบ หรือเป็นเหตุเพราะว่าคิดช้าไปหน่อยก็ตามเนี้ย แต่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า สุดท้ายจะต้องถูกเปรียบเทียบกับ คุณวัน หรือ หนุ่ม หนุ่มต้องหนุ่มชาย หนุ่มเนี้ยคนกลาง คุณวันเฉลิม หรือ คุณวัน เนี้ย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเราบอกว่าชื่นชม คุณชนม์สวัสดิ์ ตามบทบาทและพฤติกรรมในครั้งนี้ ที่แสดงออกนี่นะครับ ก็ต้องหันมาบอกอีกคู่ พ่อลูก หนึ่ง ก็คือ คุณเฉลิม กับ คุณวัน นี่นะครับ
จินดารัตน์ - คะ
ปานเทพ - ก็ต้องบอกว่าผมพูดตรงๆ นะครับ ผมเคยเจอ ทั้ง โต้ง, หนุ่ม, ชาย คุณอาจหาญ, คุณวันเฉลิม, คุณดวงเฉลิม ตอนนี้เปลี่ยนชื่อไปแล้วนี่นะครับ ทั้ง 3 คน ต่อหน้า เอาเป็นว่าต่อหน้าผม ก็แล้วกันนะครับ
จินดารัตน์ - คะ
ปานเทพ - และต่อหน้าผู้ใหญ่หลายคน ที่หลายคนให้สัมภาษณ์ว่า สุภาพเรียบร้อยเนี้ย จริงนะครับ คุณแอนครับ สุภาพเรียบร้อย มีสัมมาคารวะเนี้ยจริงนะครับ ผมก็รู้สึกอย่างนั้นนะครับ
จินดารัตน์ - จริงเนี้ย ตอนอายุเท่าไหร่คะ
ปานเทพ - เมื่อหลายปีที่แล้วครับ ผมเองไม่เคยเห็นภาพที่ปรากฏตามสื่ออย่างนี้หรอก ก็เห็นตามสื่อปรากฏว่าเป็นอย่างไร
จินดารัตน์ -แสดงว่าคุณปานเทพเห็นเหมือนกับที่คุณไชยา สะสมทรัพย์ เห็นแน่ๆ เลย
ปานเทพ - สิ่งที่ผมเห็นไง
จินดารัตน์ - ภาพเดียวกันเลยนะคะ เรียบร้อย เป็นเด็กดีค่ะ
ปานเทพ - เอาละจริงอยู่ว่าคุณวันไม่มีเรื่องคดีความ ไม่มีเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งหรือการทะเลาะวิวาทในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา อันนี้ก็มีมูลอยู่จริงอีก แล้วก็ประการถัดมาก็คือว่า แต่ทว่าเรื่องสำคัญก็คือ กระแสและความรู้สึกของสังคมเป็นอย่างไร กระแสและความรู้สึกของสังคมที่มีความรู้สึกว่า คุณวันมีปัญหาในอดีตที่ผ่านมาแล้วสำนึกแล้วหรือยัง เป็นคนที่ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องให้ออกจากราชการ ถูกไหมครับ แล้วต้องมาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะลูกชายคนหนึ่งของคนเฉลิม มารับตำแหน่งตรงนี้ สังคมเขามองแล้วมีความรู้สึกว่า เอ๊ะเหมาะหรือไม่ เอาละ เมื่อคุณเฉลิมและคุณวันตัดสินใจแล้ว ตัดสินใจที่จะมารับหน้าที่ท่ามกลางการฝืนกระแสสังคม เมื่อตัดสินใจเช่นนี้แล้วก็ต้องยอมรับสภาก่อนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันจะเกิดเป็นต้นทุนที่มีราคาต้องจ่าย เช่นอะไรบ้าง ก็คือ ความรู้สึกต่อสังคมว่า พรรคการเมือง นักการเมืองได้เข้าใจหรือยอมรับสภาพ หรือมีความรู้สึกเคารพต่อความรู้สึกกระแสประชาชนหรือไม่ อันนี้เป็นต้นทุนอันแรกที่พรรคพลังประชาชนเผชิญหน้าไปเรียบร้อยแล้ว จะแรงขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อที่สอง เพราะต้นทุนที่เกิดขึ้นถัดมาและเป็นราคาที่ต้องจ่าย ก็คือ กระแสสังคมจะจับจ้องเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คนนี้เป็นกรณีพิเศษแทบทุกกรณี คุณวัน วันนี้ออกมาให้สัมภาษณ์ ไปทำงานวันแรกใช่ไหมครับ
จินดารัตน์ - คือบอกว่า ในอดีตผมอาจจะเคยทำอะไรก็ตามที่ผิดพลาด บกพร่อง ทำให้พี่น้องประชาชนในสังคมไม่สบายใจ ทำให้พี่น้องสื่อมวลชนไม่สบายใจ ผมขอใช้โอกาสนี้กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย แล้วผมขอโอกาสทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ทำงานเพื่อชดเชย ชดใช้สังคม ให้โอกาสผมด้วยนะครับ
ปานเทพ - ก็เป็นคำพูดที่น่าประทับใจ แต่ว่าทำได้จริงหรือเปล่า และสังคมยังให้โอกาสหรือเปล่า นั่นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
จินดารัตน์ - แต่คุณวันเขาบอกว่า เขามีความอดทนมากขึ้นกว่าเดิมแล้วนะคะ คือนักข่าวไปถามเรื่องเว็บไฮทักษิณว่าถูกโจมตีอย่างนี้รู้สึกอย่างไร คุณวัน บอกว่า ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร และไม่สนใจ เป็นนักการเมืองต้องอดทนได้ หลายคนเอาใจช่วยว่าต้องอดทนได้ทุกสถานการณ์ด้วยนะคะ
ปานเทพ - ต้องพิสูจน์ครับ กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ คนเราในช่วงระยะเวลาหนึ่งเป็นอย่างหนึ่ง ช่วงหนึ่งเป็นอีกอย่างหนึ่งหรือเปล่า ก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ คุณวันตอนนี้มีต้นทุนที่ต้องจ่าย ก็คือ สังคมจะจับจ้อง มีเลขานุการของรัฐมนตรีช่วยคนไหนถูกจับจ้องเป็นกรณีพิเศษไหมนอกจากคุณวัน ไม่มีนะ
จินดารัตน์ - ดิฉันว่าดังกล่าเจ้านายอีกนะคะ
ปานเทพ - ผมว่าดังกล่าวรัฐมนตรีด้วยซ้ำไปนะครับ เพราะฉะนั้นคุณวันต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็น ต้องทำงานให้หนัก และต้องยอมด้วยครับว่า กระแสสังคมตอนนี้ยังไม่ต้องรับเท่าที่ควร และต้องกล้ำกลืนในสิ่งที่เคยกระทำมา ทำหรือไม่ทำตัวเองต้องรู้อยู่แก่ใจ แต่วันนี้มีราคาที่ต้องจ่าย ต้องอดทน และต้องพิสูจน์ว่าทำได้จริงด้วย
จินดารัตน์ -แต่ดิฉันเชื่อว่า คุณวันจะสามารถทำหน้าที่นี้ได้ เพราะดิฉันทราบแล้วว่าคุณวันจะเข้าไปทำงานอะไรบ้าง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล วันนี้ออกมาบอกว่าจะมอบหมายงานให้ ก็คือ จะให้ฝึกงานโดยทำหน้าที่ติดตามรัฐมนตรี หนึ่งแล้วนะคะ เพื่อคอยจัดเอกสารการประชุม และปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ก่อนเป็นเวลา 3 เดือน แหมคุณปานเทพ เดินตามรัฐมนตรีเพื่อคอยจัดเอกสารการประชุม ใครจะทำไม่ได้ ดิฉันว่าคุณวันทำได้ แล้วจะทำได้ดีด้วย แต่ก่อนอื่นต้องมีความอดทนก่อนนะคะ เพราะบางคนอาจจะไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน มันเป็นงานละเอียดอ่อน เอาใจช่วยคุณวันด้วย
ปานเทพ - แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งเมื่อวานนี้คุณแอนครับ ผมไปดูในเว็บไซต์ไฮทักษิณ ที่เราพูดกันบ่อยๆ ที่เมื่อวานนี้พูดถึงเรื่องสื่อเสี้ยม แล้วปรากฏว่า วันนี้เขาพูดถึงผมด้วยนะครับ
จินดารัตน์ - ได้รับเกียรติขนาดนั้นเลยหรอคะ
ปานเทพ - วันนี้ต้องถือว่าได้รับเกียรติจากเว็บไซต์ไฮทักษิณ พูดถึงผมแล้วระบุชื่อเป็นการเฉพาะ วันนี้มีเนื้อความที่เกี่ยวข้องกับคุณจักรภพ เพ็ญแข และพาดพิงถึงผม ชื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเว็บไซต์ไฮทักษิณที่ชม ASTV และรับชมรายการเราเป็นประจำ
จินดารัตน์ - เอาใจใส่ ดูทุกคำพูด ทุกรายการค่ะ
ปานเทพ - อันนี้ต้องแสดงว่า แฟนเรากว้างขวางมาก แม้กระทั่งปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยยังชมเลย อันนี้ข้อแรก ข้อที่สอง รู้สึกว่า ได้รับเกียรติอย่างยิ่งได้ขึ้นชื่อในทำเนียบในเว็บไซต์ไฮทักษิณ แสดงว่าสิ่งที่เราทำงานอยู่นั้นมีคนรับชมอยู่จริงๆ แต่สิ่งที่เขาพูดถึง ผมเกรงว่าหลายคนจะเข้าใจผิด คุณแอนครับ เขาดูเหมือนว่าจะมีความรู้สึกว่าผมต้องถูกเข้าคุกให้ได้ เพราะเมื่อวานนี้พูดถึงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ไปอุทธรณ์ แล้วไม่เห็นด้วยกับคุณจักรภพที่เอาคำพิพากษาศาลชั้นต้นไปพูดในสภาฯ คือการหมิ่นศาล ในสายตาของคุณประดาบ ก็บอกตามตรงว่า ผมไม่ได้หวั่นไหวอะไรเลย เพราะผมเชื่อว่า ผมน้อมรับและรับคำสั่งศาล และผมไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด และผมก็รายงานตามข้อเท็จจริงทุกประการว่า คุณสนธิ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษานี้จึงได้อุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีต่อในชั้นถัดไป แม้ว่าจะน้อมรับก็ตาม
จินดารัตน์ - แล้วมันหมิ่นตรงไหนล่ะคะ
ปานเทพ - ผมรู้สึกเฉยๆ นะครับ แต่ผมมีความรู้สึกอย่างนี้ ผมคิดว่ามันสะท้อนต่อเนื่องมาจากการใช้ POPUP หรือหัวจั่วของเว็บไซต์นี้ที่บอกว่า ระวังสื่อเสี้ยม ซึ่งตอนแรกผมเข้าใจว่า เขากำลังหมายถึงคุณสมัคร สุนทรเวช หรือคนที่ใช้สื่อในยุคเดือน 6 ตุลาคม 2519 เพราะภาพมันปรากฏอย่างนั้น ซึ่งจริงๆ ถ้าเขาหมายถึง เขาดูรายการเรา สมมุตินะครับ แล้วคิดว่าเราเป็นคนเสี้ยมในช่วงเวลาตอนนี้ ผมอยากจะบอกว่า มันไม่จริงหรอกคุณแอนครับ ถ้าผมมีความสามารถจะเสี้ยมคนในพรรคพลังประชาชนให้ชนกันได้โดยเขาเชื่อเรา คนที่เคยต่อสู้กับคุณทักษิณ ก็ถือว่าคนในพรรคพลังประชาชนก็โง่เต็มที่ ถ้าเชื่อว่าเราเสี้ยมได้ แต่ผมกลับคิดอย่างนี้ว่า สถานการณ์ที่เราวิเคราะห์
ปานเทพ -ผมยืนยันว่า ผมไม่เคยเสี้ยม แล้วสิ่งที่ปรากฏ เป็นการวิเคราะห์บนพื้นฐานของความเปลี่ยนไปในเชิงของเกมแห่งอำนาจ ที่คุณสมัครย่อมสถาปนาอำนาจของตัวเอง ที่ไม่อยากให้คุณทักษิณมาแทนอำนาจตัวเองเมื่อได้เป็นนายกรัฐมนตรี และผมก็เชื่อว่ายังมีโอกาสเป็นอย่างนั้น ถามว่าเกิดความขัดแย้งแล้วผมคอยเสี้ยมหรอกหรือ ไปดูเว็บไซต์ไฮทักษิณซิครับ วันที่คุณวันมาเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถามว่าเว็บไซต์ไฮทักษิณทำอะไร ณ วันนี้ด้วย ให้พวงหรีด แล้วเขาบอกว่า เป็นพวงหรีด แล้วเขาบอกว่า เป็นพวงหรีดที่เขียนว่า ขอไว้อาลัยต่อชัยชนะของภาคประชาชน ในเว็บไซต์นี้ ไม่รู้ภาพขึ้นทันหรือเปล่า มันสะท้อนให้เห็นว่า ใครล่ะครับที่เป็นคนทำสถานการณ์ตอนนี้ แม้กระทั่งสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชาชนก็แตกกันเป็นเสี่ยงๆ แตกกันเองเพราะแย่งอำนาจกันเอง และดูความเป็นธรรมซิครับ กระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง ถามว่า ไม่ใช่เฉพาะข้างในหรอก มีศึกข้างนอกรอเต็มเลยครับ สถานการณ์ตอนนี้
จินดารัตน์ - ตกลงใครเป็นสื่อเสี้ยมกันแน่ค่ะ
ปานเทพ - ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน เอาดูครับว่า แม้กระทั่งวันนี้ บรรยากาศนะ คุณแอนครับ มันน่าหดหู่ขนาดไหน วันนี้ กกต.ให้ความเห็นที่ผมรู้สึกเลยนะ ไม่น่าเชื่อว่าเป็น กกต.ได้ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับ
จินดารัตน์ - ใครคะ กกต.ท่านไหนคะ
ปานเทพ -คุณสมชัย จึงประเสริฐ ครับ วันนี้คุณสมชัย จึงประเสริฐ มาให้ความเห็น 2 เรื่อง เรื่องที่หนึ่งก็คือเรื่อง กรณีการสอบสวน
จินดารัตน์ - นอมินีหรอคะ
ปานเทพ - นอมินีนี่น่ะครับ ที่มีนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เป็นประธาน ว่า กกต.ยังไม่มีการประชุมเรื่องนี้ และกฎหมายไม่มีคำว่า นอมินี กฎหมายเลือกตั้งไม่มีคำว่า นอมินี โดยหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สมัยก่อนจะได้อำนาจอธิปไตยอีกบ้านหนึ่งต้องขี่ช้างขี่ม้าไปรบ ไปยึดมา แต่เมื่อเราต้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราต้องการให้อำนาจทั้งหมดอยู่กับประชาชน ด้วยวิถีทางของการเลือกตั้ง ให้เหตุผลอย่างนี้นะครับ แล้วยกตัวอย่างด้วยนะคุณแอน สมมุติผมมีเมืองเมืองหนึ่ง มีเงินมีทุน แล้วผมเอาเงินมาให้ ทุนทุกอย่างเอาไปให้บุคคลหนึ่งที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเมื่อเขามีเงิน มีทุน ก็สามารถเป็นใหญ่ได้ในเมืองนั้น ผมก็สามารถควบคุมเขาได้ และผมก็มีอำนาจในเมืองนั้น แต่กฎหมายของเราเขียนห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติมาช่วยหาเสียง หรือเอาทุนจากต่างชาติมาใช้หาเสียง ถ้าทำผิดสามารถเนรเทศออกนอกประเทศไทย แต่ไมได้ห้ามคนไทย ตามรัฐธรรมนูญคนไทยต้องเท่าเทียมกัน จะไปเนรเทศคงไม่ได้ ถ้าผิดก็ต้องมาขึ้นศาลไทย จะไปด่าว่าเนรคุณหรือไม่เนรคุณ เขาก็คือคนไทย
จินดารัตน์ - ตกลงท่านพูดถึงอะไรค่ะ
ปานเทพ -ไม่รู้ครับ แต่อยากจะบอกอย่างนี้ครับ คือท่านคิดว่าไม่มีนอมินี แล้วก็คิดว่า
จินดารัตน์ - อย่างไรคะ ถ้าไม่มีนอมินีในกฎหมายแล้ว
ปานเทพ - อำนาจทั้งหมดอยู่กับประชาชน ด้วยวิถีทางของการเลือกตั้ง ท่านตกไปคำสำคัญมากเลย การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม สุจริตหรือไม่ เที่ยงธรรมหรือไม่ ไม่สักแต่ว่าเรื่องมันจบเพราะการเลือกตั้งจบไป หรือแม้กระทั่งการสอบสวนของคุณสุวิทย์ ธีรพงษ์ ซึ่งเป็นประธานสอบสวนคุณยงยุทธ ติยะไพรัช วันนี้คุณสมชัยอีกเหมือนกันให้ความเห็นว่า วันนี้คุณสมชัย บอกว่า เห็นว่าสำนวนที่ขึ้นมานั้นไม่มีอะไรแตกต่างจากสำนวนสันติบาลทำมา เพราะเป็นการเอาสำนวนที่สันติบาลทำมาไว้แล้ว เมื่อถามว่าพยานจะยืนยันหรือไม่ ซึ่งมีพยานบางส่วนที่เคยให้การว่า คุณยงยุทธทำผิดกลับคำให้การ แต่บางคนยังยืนยันเหมือนเดิม บอกว่าอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่
จินดารัตน์ - ไม่มีอะไรในกอไผ่
ปานเทพ - ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ไปตีกันเสียเรื่องใหญ่โต ตีกันซะจนเละเทะ พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าสำนวนรั่ว ไม่อยากจะพูด อย่างซีดีที่ว่าเป็นหลักฐานนั้นมันไม่จำเป็นอะไร ถ่ายหรือไม่ถ่ายมาก็ได้ ทำซ้ำทำซากอะไรก็ได้ มันไม่จำเป็น ไม่ได้สำคัญอะไร แต่กลับไปพูดกันเสียจนเป็นเรื่องใหญ่โต
จินดารัตน์ - เอ๊ะคุณอะไรพูดนะคะ
ปานเทพ - คุณสมชัย จึงประเสริฐ
จินดารัตน์ - กกต.หรอคะ
ปานเทพ - ครับ
จินดารัตน์ - อ๋อยังเป็น กกต.อยู่ใช่ไหมคะ
ปานเทพ -เป็น กกต.อยู่ ต่อนะครับ อนุกรรมการสอบสวนแล้วใช่แล้วหรือเปล่า เขาถามนะครับ คุณสมชัย บอกว่า สรุปมาแล้วก็ไม่สำคัญอะไร เพราะบางทีสรุปมั่วๆ ก็มี แล้วก็พูดอะไรต่อมิอะไรไม่ทราบนะครับ แต่อยากจะบอกว่า ผมอยากจะบอกว่า คุณสมชัยเป็นกกต.ที่สังคมมีความรู้สึกแย่มาก แย่เพราะอะไร เพราะบรรทัดฐานของคุณสมชัยไม่น่าเชื่อว่าจะเป็น กกต.ได้ ผมแปลกใจมากเลยครับว่าทำไม กกต.ไปเอาเรื่องที่ยังไม่สรุปในนามคณะกรรมการชุดใหญ่มาให้ความเห็นส่วนตัวในที่สาธารณะ เราจะไม่เคารพมติ กกต.ส่วนใหญ่เลยหรือ คุณสมชัยเป็นส่วนน้อยก็เป็นคุณสมชัยไปซิครับ การที่จะมาสรุปหรือมากดดันให้สังคมเชื่ออย่างคุณสมชัยก่อนมันจะถูกได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีสิทธิ์ที่จะเห็นหลักฐานทั้งหมดเลย
จินดารัตน์ - ดู กกต.ท่านอื่นเขาก็ไม่เห็นให้สัมภาษณ์อะไรนักหนานี่คุณปานเทพ ก็บอกยังพูดไม่ได้ต้องรอผลสรุปวันที่ 26 แม้แต่เรื่องของนอมินีนี่นะคะ เลขาธิการ กกต. คุณสุทธิพล ทวีชัยการ ยังออกมาพูดอย่างนี้เลย บอกว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นคดีนอมินี แต่ว่า คาดว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน และเชื่อว่า กกต.จะพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ต้องเอามาให้ กกต.พิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ปานเทพ - แค่นั้นครับ
จินดารัตน์ - แต่ทำไมคุณสมชัยถึงพูดอย่างนั้น
ปานเทพ - คุณสมชัยพูดอีกครับ่วา คดีบางคนบอกว่า เหตุใดกกต.ไม่รีบสอย เขาถามนะครับ ซึ่งเป็นการมองเอาความสะใจของแต่ละคน ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร คนนี้เมื่อก่อนอาจจะเป็นคนไม่ค่อยดี ฟังให้ดีนะครับ สีเทา บัดนี้เขาจะทำความดีแล้วเราจะไม่ให้โอกาสหรืออย่างไร ถ้าเขาทำความดีเขาอาจจะทำได้ดีกว่าคนอื่นก็ได้ เพราะเขารู้ว่าความชั่วเป็นอย่างไร และเขาจะไม่ทำอีก บางคนไม่เคยทำความชั่วไม่รู้ แยกไม่ถูก ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป พูดอะไรครับ บอกว่า คดีคุณยงยุทธหากพิจารณาแล้วไม่มีเหตุสำคัญถึงขนาดต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เราก็สามารถสั่งยุติเรื่องก็ได้ อย่าเอาภาพมัวๆ ของเขามาผูกกับกฎหมายไปตัดสินเขา นี่ตกลง คุณสมชัยเป็น กกต.ทั้ง 5 คนแล้วหรอ
จินดารัตน์ - ดิฉันถึงถามว่า เอ๊ะตกลงคุณสมชัยเป็น กกต.หรือเปล่าค่ะ ยังเป็นหรือเปล่าค่ะ
ปานเทพ - มันตลกครับ ยังเป็นอยู่ครับ ที่น่าสนใจคือว่า บ้านเมืองตอนนี้มันเปลี่ยนไปมาก ในช่วงระยะเวลาไม่กี่วันเต็มไปด้วยนักการเมืองที่อหังการเหมือนเดิม ที่ไม่สนใจว่า กระบวนการยุติธรรมจะถูกแทรกแซง และประชาชนจะรู้สึกอย่างไร คัดสรรบุคคลที่ไม่ต้องสนใจว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไรบ้าง แล้วจะพูดจะจา ทำอะไรก็ได้โดยที่สังคมไม่รู้จะไปหาใคร บางทีมันดูหมดหวังใช่ไหม คุณแอนรู้สึกอย่างไร
จินดารัตน์ - ไม่ใช่บางทีค่ะ ตลอดเวลาเลยค่ะ คุณปานเทพ วันนี้
ปานเทพ - มีพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ซึ่งต้องถือว่า คุณตาคุณสมัครเคยเป็นเสนาบดีตั้งแต่ในยุคนั้น เคยมีพระราชนิพนธ์ในหัวข้อเรื่อง ธรรมาธรรมะสงคราม ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คุณแอนครับเนื้อหาใจความเกี่ยวข้องกับคน 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่ง เชื่อว่าเป็น อธรรมเทวบุตร เป็นฝ่ายชั่วร้าย ทุกอย่างดูชั่ว อะไรก็อ้างเหตุผลของความชั่ว ไปปล้นสะดมเขา ไปแย่งเขา ไปพูดจาโกหก ไปหลอกลวงเข้าตัวเอง ใช้กำลังยึดทุกอย่าง อยากจะบอกว่า สังคมมันเต็มไปด้วยอธรรมจริงๆ ที่มันจะสามารถครอบทุกอย่างได้ แต่ว่า อธรรมที่มีอำนาจกว่า รวยกว่า ทรงพลังมากกว่า ใช้อิทธิพลมากกว่า มันสามารถไปที่ไหนก็อ้างเหตุผลว่า เพื่อความสบายของตัวเอง พระราชนิพนธ์บอกว่าอย่างนี้ครับ ตอนท้ายนะครับ "ฝ่ายอธรรมราญรอน มีอำนาจนะครับ ห้าวหาญชาญสมร ฝ่ายธรรมะอิดหนาระอาใจ ธรรมะสลดหฤทัย คิดว่าตนไซร์จะไม่ชนะดั่งถวิล จะต้องทนดูคำหมิ่น และต้องยอมยินให้ทางแห่ฝ่ายอธรรม
ปานเทพ -แต่ว่าเดชกุศลกรรมมาช่วยฝ่ายธรรม แลเห็นถนัดอัศจรรย์ อธรรมหน้ามืดโดยพลัน มิอาจนั่งมั่นอยู่บนบัลลังก์รสมณี พลัดตกหกเศียรทันที ถึงพื้นปฐพีและดินก็สูบซ้ำลง" อธรรมสู้กับธรรมะนี้นะครับ "ธรรมะมีขันตรีทรง กำลังจึงยง แย่งยุทธชิตชัยชาญ ลงมาจากกลางคัคนานต์ ฟาดฟันประหารอธรรมผู้ปราชัย " แล้วท่านก็ทรงพระราชนิพนธ์ต่อว่า "ดูราประชาราษฎร์ ท่านอาจเห็นคติตรีแห่งการสงครามนี้" สุดท้ายธรรมะก็ชนะอธรรมนะครับ "อย่าระแวงและสงสัย ธรรมะและอธรรม มะทั้งสองสิ่งนี้ไซร้ อันผลจะพึงให้บ่มีมิเสมอกัน อธรรมย่อมนำสู่นิรยาบายเป็นแม่นมั่น ธรรมะจำนำพลันให้ถึงสุขคตินา เสพธรรมะส่งให้ถึงเจริญทุกทิวา แม้เสพอธรรมพาให้พินาศและฉิบหาย ในกาลอนาคตก็จักมีผู้มุ่งหมายข่มธรรมะทำลาย และประทุษมนุษย์โลก เชื่อถือกำลังแสนยะจะขึ้นเป็นหัวโจก หลังครอบประดาโลกและเป็นใหญ่ในดินแดน สัญญามีตรามั่นก็จะเรียกกระดาษชิ้น ละทิ้งธรรมะสิ้นเพราะอ้างว่าคำจำเป็น หญิง ชายและทารกก็จะตกที่ลำเค็ญ ถูกรานประหารเห็นบ่มิมีอะไรขวาง
ปานเทพ -ฝ่ายพวกอธรรมเหิมก็จะเริ่มริทาง ทำการประหารอย่างที่มนุษย์มิเคยใช้ ฝ่ายพวกที่รักธรรมก็ถึงคิดจะระอาใจ ก็คงมิยอมให้พวกอธรรมได้สมหวัง จะชวนกันรวบรวมพล การ์ดกำลังขลัง รวบทรัพย์สะพรึบพรั่ง เป็นสัมพันธไมตรี ช่วยกันประจัญต่อพวกอธรรมเสนี เข้มแข็งกำแหงมี สุดจรคติธรรมสนอง ลงท้ายฝ่ายธรรมะจะชนะดั่งใจปอง อธรรมคงต้องปราชัยเป็นแน่นอน" ทรงส่งเสริมให้คนที่มีธรรม คนที่ทำเพื่อบ้านเมือง รับผิดชอบต่อบ้านเมือง ทำหน้าที่พร้อมสู้กับฝ่ายอธรรม คุณสมัคร สุนทรเวช ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี มีเชื้อสายชาติตระกูลเป็นเสนาบดีตั้งแต่สมัยหลายรัชกาลที่ผ่านมา คุณสมัครก็พึงจะต้องน้อมรับกระแสพระราชดำรัสหลังมีพระบรมราโชวาทที่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ในวันนั้น ทำเพื่อคน 63 ล้านคน ทำให้สังคมนั้นเต็มไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต หาไม่แล้วคุณสมัคร เมื่อบั้นปลายชีวิต หรือเมื่อถึงวันที่ต้องไปสู่ปรภพแล้ว คุณสมัคร จะไปตอบดวงวิญญาณของชาติตระกูล ของตัวเองว่าอย่างไร
จินดารัตน์ - ของบรรพชนได้อย่างไร
ปานเทพ -ใช่ครับ
จินดารัตน์ - แต่ดิฉันเริ่มเป็นห่วงสุขภาพ ท่านแล้วนะคะ เพราะว่าคนอายุมากๆ เนี้ย บางท่านก็จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ ความจำก็จะไม่ค่อยดี แล้ววันนี้เนี้ยพบสื่อ สื่อเขาก็เอาหนังสือพิมพ์มาให้ดูบอกว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ เขาเอารูปถ่ายของท่าน เมื่อตอน 6 ตุลาฯ ยืนข้างหลัง จอมพลประภาส จารุเสถียร เนี้ย ท่านบอกว่า "อ้าวนั่นผมหรือ เมื่อไหร่ ผมไปถ่ายเมื่อไหร่ จำไม่ได้ รูปนี้ผมไม่ได้รับ" ท่านเริ่มจำเหตุการณ์ไม่ได้แล้วนะคะ ผ่านมา 31 ปี เป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวยังไงช่วยดูแลสุขภาพท่านหน่อย เผื่อว่าทำไปวันนี้ พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาอาจจะจำไม่ได้ ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้างนะคะ ก็เป็นห่วงสุขภาพท่าน นักข่าวก็อย่าไปเซ้าซี้ท่านมาก ท่านปิดปากแล้ว
จินดารัตน์ -วันนี้ก็ไม่ยอมพูดเรื่องนี้อีก แล้วถามว่าจะตอบกระทู้สดของพรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมไหม เขาบอกผมไม่ตอบแล้ว ไม่พูดแล้วเรื่องนี้ จำไม่ได้แล้ว นะคะ เราหมดเวลาแล้วคะวันนี้ มีหลายสายโทรศัพท์เข้ามาให้กำลังใจ ท่านอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นะคะ บอกว่าอยากจะมีการรวมพลังไปให้กำลังใจท่านด้วย ยังไงซะหากว่าถ้าคุณผู้ชมดูรายการของเรา จะส่งเป็นข้อความ หรือว่าโทรศัพท์เข้ามาก็ได้นะคะ เกือบทุกสายเลยคะ โทรศัพท์เข้ามาแล้วก็บอกว่า คิดถึง คุณสนธิ เหลือเกิน เป็นไปได้ไหม ที่ปลดอธิบดีกรมดีเอสไอเนี้ย เป็นการยั่วยุให้ คุณสนธิ ออกมาพูดอะไรบางอย่างนะคะ ขอบคุณทุกสายที่โทรศัพท์เข้ามา ขอบคุณที่ติดตามชมรายการของเรา วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีคะ/สวัสดีครับ