อลิอันซ์เดินหน้าขายประกันสุขภาพต่อเนื่อง เปิดแคมเปญโฆษณาใหม่ภายใต้แนวคิด “พร้อมให้พอ” ชูประกันสุขภาพปลดล็อค อัลตร้า 4 แผน วงเงิน 3-15 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดเบี้ย 420 ล้านบาทใน 12 เดือน
นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนงานบริษัทยังคงเน้นการขายประกันสุขภาพต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดี โดยปัจจุบันมีสัดส่วนเบี้ยประกันสุขภาพต่อเบี้ยรวมที่ 44% และน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 45%ในสิ้นปีนี้ ซึ่งบริษัทเองก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง นับแต่ประกันสุขภาพปลดล็อค มาถึงประกันสุขภาพปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า และปัจจุบัน "ประกันสุขภาพ ปลดล็อค อัลตร้า" ซึ่งผู้ที่ถือประกันสุขภาพเอ็กซ์ตร้าอยู่จะสามารถอัปเกรดเป็นประกันสุขภาพอัลตร้าได้เมื่อถือครบ 1 ปี
“จากสัดส่วนเบี้ยประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพอร์ต แสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทางแล้ว แม้ว่ามาร์เกตแชร์ของเราจะอยู่ในอันดับที่ 2 แต่เราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อลำดับที่มากนัก โจทย์หลักของเราคือจะหาผลิตภัณฑ์อะไรให้ตรงใจ ตรงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เพี่อให้อะไรที่มากกว่านี้แก่ลูกค้า ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราทำธุรกิจไปได้มากกว่า”
สำหรับประกันสุขภาพ ปลดล็อค อัลตร้าที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ขณะนี้มียอดเบี้ยประกันแล้ว 145 ล้านบาท และมีเป้าหมายเบี้ยประกันที่ 420 ล้านบาทใน 12 เดือนหลังจากเปิดตัว โดย "ประกันสุขภาพ ปลดล็อค อัลตร้า" ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงตั้งแต่ 3-15 ล้านบาท มีทั้งหมด 4 แผน ประกอบด้วย จำนวนเงินเอาประกันภัย 3 ล้านบาท 6 ล้านบาท 10 ล้านบาท และ 15 ล้านบาท สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วัน จนถึง 70 ปี (ต่อสัญญาได้ถึงอายุ 89 ปี คุ้มครองถึงอายุ 90 ปี) เพิ่มความพิเศษที่การปลดล็อกค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด และค่ารักษาพยาบาลกรณีต้องเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) รวมทั้งกรณีที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และไวรัสอื่นๆ
พร้อมกันนั้น ได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณาใหม่ที่จัดทำขึ้นภายใต้แนวคิด "พร้อมให้พอ" ที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการมีประกันคุ้มครองสุขภาพ เพราะการเจ็บป่วยสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ หนังโฆษณาชุดนี้กำกับโดย นายธีระพล สุเนต์ตา จาก Suneta House และครีเอทีฟ นายประสิทธิ์ วิทยสัมฤทธิ์ บริษัท ชูใจ และกัลยาณมิตร โดยจะออกอากาศตั้งแต่วันนี้ถึงปลายเดือนตุลาคมนี้ ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ในงบประมาณ 80 ล้านบาท ผ่านช่องทางออฟไลน์ 70% และออนไลน์ 30%