xs
xsm
sm
md
lg

Roojai ลดเบี้ยรถยนต์สู้โควิด ตั้งเป้ารุกประกันสุขภาพปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Roojai เตรียมแตกไลน์ลุยประกันสุขภาพปีหน้า ระบุโควิดปรับพฤติกรรมคนไทยหนุนเบี้ยรับครึ่งปีโต 67% ทั้งปีกวาดเบี้ยแตะ 900 ล้านบาท ลุยลดเบี้ยลดแรงกดดันแก่ลูกค้า พร้อมคาดช่องทางออนไลน์ไทยเริ่มโต เบี้ยรถยนต์แตะ 6 หมื่นล้านบาทได้ภายใน 10 ปี

นายนิโคลัส ฟาร์เกต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท รู้ใจดอทคอม จำกัด เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำธุรกิจแบบดิจิทัล ส่งผลให้บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 380 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 67% โดยเป็นการเติบโตเฉพาะเดือนเมษายนถึง 45% และเชื่อว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถทำเบี้ยประกันภัยรับได้ถึง 900 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 69% จากปีก่อน

"ลูกค้าที่ซื้อประกันภัยรถยนต์กับเรามี 7.5 หมื่นคัน และมีอัตราการต่ออายุถึง 78% ซึ่งแนวทางของเราคือการนำเสนอสินค้าที่ถูกและตอบโจทย์ลูกค้าในแบบที่เราสามารถควบคุมได้ ไม่ใช่แบบประกันที่สามารถหาได้จากที่อื่น และช่วงที่ผ่านมาเราได้ปรับลดเบี้ยประกันลงและคาดว่าจะปรับลงอีก 3.7% ในช่วงปลายปีเพื่อลดแรงกดดันแก่ลูกค้า"

สำหรับการเติบโตของช่องทางดิจิทัลสำหรับธุรกิจประกันเชื่อว่าจะดำเนินต่อไปแม้สิ้นสุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งยืนยันได้จากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับของบริษัทเดือนมิถุนายนที่สูงถึง 65% ซึ่งประเทศไทยมีอัตราการเติบโตผ่านช่องทางดิจิทัลในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับประเทศอังกฤษ ฮ่องกง สิงคโปร์ แต่ยังมีอัตราเติบโตดีกว่าฝรั่งเศส และเยอรมนีที่ยังช้าอยู่มาก

"อังกฤษ ฮ่องกง สิงคโปร์ เริ่มมาก่อน และช่วงแรก 25% เข้ามาใช้ช่องทางดิจิทัลทันที ขณะที่ไทยเพิ่งเริ่มมาแค่ 3-4 ปี และมีเพียง 1.5% ที่เข้ามาใช้ช่องทางดิจิทัล โดยคาดว่าภายใน 10 ปีคนไทยที่เข้ามาซื้อประกันภัยผ่านช่องทางดิจิทัลจะเพิ่มเป็น 25% ของลูกค้าทั้งหมด ซึ่งถ้านับเฉพาะเบี้ยประกันภัยรถยนต์ก็น่าจะอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาทผ่านช่องทางนี้"

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมแผนการลงทุนเพื่อสร้างแบรนด์อีกหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อทำการตลาด โดยในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นการโฆษณาผ่านดิจิทัลบิลบอร์ดเป็นจำนวนมาก และต่อจากนี้จะมีการขยายการทำการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์เพิ่มเติมเพื่อให้ Roojai เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

นอกจากผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์แล้ว บริษัทสนใจที่จะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพมาขายเพิ่มบนแพลตฟอร์มของเราด้วย โดยประมาณปลายปีหน้าจะเป็นประกันภัยสุขภาพก่อน โดยสิ่งที่บริษัทนำมาเสนอให้แก่ลูกค้าเบื้องต้นจะต้องเป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายก่อนเพราะจะเหมาะต่อช่องทางนี้มากที่สุดเนื่องจากถ้าเป็นสิ่งที่มันซับซ้อนมากลูกค้าจะไม่ซื้อและยังจำเป็นที่จะต้องมีตัวแทนคอยอธิบาย

การแข่งขันด้านราคาและวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจ ซึ่งการที่เราเป็นบริษัทแนวหน้าของธุรกิจและเป็นดิจิทัล 100% ทำให้การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเร่งการเติบโตของบริษัท รวมถึงการที่บริษัทเน้นความคุ้มค่าและเบี้ยราคาถูกมาตั้งแต่เริ่มต้นทำให้ลูกค้าหันมาเลือกซื้อสินค้ากับเรามากขึ้น โดยมองว่าเบี้ยของเรากว่า 60% ถูกที่สุดติด 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรม

"เราชัดเจนเรื่องราคาที่ลูกค้าจะต้องได้จากเรา แต่บางอย่างต้องดูความเหมาะสม ถ้าเป็นสุขภาพสำหรับบางคนอาจถูก แต่ก็ไม่ได้ถูกสำหรับทุกคน ซึ่งต้องไปดูในรายละเอียดแต่บอกได้เลยว่าปัจจุบันผู้บริโภคยังซื้อประกันสุขภาพในราคาที่สูงเกินความจำเป็นอยู่"
กำลังโหลดความคิดเห็น