นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอเชียเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะกลุ่มคนชนชั้นกลางที่จะเติบโตด้วยอัตราเร่งจากปัจจุบัน 2 พันล้าน เป็น 4 พันล้านในอีก 10 ปีข้างหน้า และการขยายตัวของพื้นที่เมือง ส่งผลให้เพิ่มอุปสงค์ด้านการบริโภค และความสามารถในการจับจ่าย สร้างความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีการผลิต ทำให้กลุ่มประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการพัฒนา วิจัย และคิดค้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้ในทุกภาคส่วนของโลกเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ที่มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ ลดการสูญเสีย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงสร้างโอกาสให้กับกลุ่มธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตของกลุ่มคนชั้นกลางในเอเชีย ได้แก่ ธุรกิจที่ผลิตสินค้าและบริการ กลุ่มธุรกิจที่ให้บริการด้านสาธารณสุขไปจนถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ โครงสร้างทางการผลิตที่จะพัฒนาไปสู่การผลิตขั้นสูง ทำให้เกิดความต้องการนำระบบอัตโนมัติ (Automation) มาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและการบริการ ครอบคลุมแทบทุกภาคส่วน เช่น กลุ่มการผลิตอาหารและน้ำเพื่อการบริโภค กลุ่มพลังงานทดแทน การพัฒนาเครือข่ายเชื่อมโยงและเข้าถึงผู้บริโภคอย่างสะดวกรวดเร็ว และเป็นส่วนบุคคลในการซื้อสินค้าและบริการ ดังจะเห็นได้จากธุรกิจค้าปลีก e-commerce เป็นต้น เอ็มเอฟซีจึงมองตลาดหุ้นเอเชียเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุน ที่สามารถคัดเลือกหุ้นคุณภาพ เติบโตสูง ในราคาที่เหมาะสม
คุณธนโชติกล่าวต่อไปอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเอ็มเอฟซีมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย จึงเป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว เพื่อสร้างความมั่งคั่งไปพร้อมกับความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของเอเชีย ด้วยมุมมองดังกล่าว เอ็มเอฟซีจึงเสนอการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่
1. กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย เทคโนโลยี (M-ATECH) เป็นกองทุนประเภท Fund of Funds มุ่งหวังผลตอบแทนระยะยาว โดยลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ประกอบธุรกิจในภูมิภาคเอเชียที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
2. กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ดิวิเดนด์ เอเชีย (MDIVA) เป็นกองทุนรวมตราสารทุนที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทที่มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นในระยะยาว ทั้งในไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชีย
3. กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไชน่า อิควิตี้ (MCHINA) มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz China A-Shares (กองทุนหลัก) โดยเน้นลงทุนในหุ้นจีน A-Shares ที่มีคุณภาพดี (Quality) เติบโตสูง (Growth) และมีมูลค่าที่เหมาะสม (Valuation)