นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ที่กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ทั้งในตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุน Private Assets ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ World Integrated Portfolio (SCB World Integrated Portfolio : SCBWIP) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง และต้องการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ที่มีความแปลกใหม่จากเดิม เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุนและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด โดยจะเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-31 กรกฎาคม 2563 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท
สำหรับกองทุนนี้เป็นกองทุนผสม มีนโยบายกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ โดยเบื้องต้นได้กระจายการลงทุนแบ่งเป็น 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ตราสารหนี้ในประเทศ ประมาณ 15-35% ลงทุนในกองทุนจดทะเบียนในประเทศไทยที่ลงทุนในตราสารหนี้ในและต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศรวมแล้วไม่เกิน 20% ส่วนที่ 2 ตราสารหนี้ต่างประเทศ ประมาณ 50-70% ลงทุนในกองทุน ETF หุ้นกู้เอกชนสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ และกองทุนหุ้นกู้เอกชนทั่วโลกที่ได้รับการจัดอันดับ Investment Grade ขึ้นไป และลงทุนในกองทุนตราสารหนี้กลยุทธ์ Long-Short ที่กระจายการลงทุนในตราสารหลากหลายประเภทจากหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยไม่ยึดติดกับสัดส่วนของดัชนีอ้างอิงเพื่อสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด
ส่วนที่ 3 ประมาณ 15-35% ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น SCBPIN และส่วนที่ 4 ไม่เกิน 15% ลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ Private Assets ทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการเข้าถึงตราสารคุณภาพดีที่อยู่นอกตลาด รวมถึงเป็นการกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน เนื่องจากมีความสัมพันธ์ต่ำกับตลาดการลงทุนโดยรวม
ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยมี net exposure ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีลักษณะดังกล่าวเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน
“จุดเด่นของกองทุน SCBWIP คือ กองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้แบบ Unconstrained เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างไม่มีข้อจำกัด พร้อมทั้งมีการคัดกรองหลักทรัพย์คุณภาพดีภายใต้การบริหารความเสี่ยง ควบคุมความผันผวนของพอร์ตให้อยู่ในกรอบที่กำหนด และด้วยกลยุทธ์การลงทุน Long-Short จะเป็นตัวช่วยอย่างดีในการกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด อีกทั้งกองทุนมีการลงทุนใน Private Assets ซึ่งจากข้อมูลตามประวัติศาสตร์ตลาดนี้มีความสัมพันธ์กับตลาดการลงทุนต่ำมักจะฟื้นตัวเร็วกว่าตลาดหุ้นโลก จึงทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพในทุกสภาวะตลาดได้เป็นอย่างดี” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว