xs
xsm
sm
md
lg

TSIคาดเบี้ยปีนี้เข้าเป้า600ล้าน จับมือพันธมิตรพัฒนาสินค้าลุยภูธร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางสาวอรลดา เผ่าวิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ (รักษาการ) บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือTSI Insurance เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับในปีหน้าอยู่ที่ 950 ล้านบาทส่วนในปีนี้คาดว่าเบี้ยประกันภัยรับจะอยู่ที่ประมาณ 500 ถึง 600 ล้านบาท โดยการดำเนินงานของบริษัทจะเน้นความ แข็งแกร่งแบบยั่งยืนซึ่งจะต้องพัฒนาจากระบบภายใน และคาดว่าจะมีการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค โดย จะหันมาเน้นเรื่องคุณภาพของการรับประกันภัยมากขึ้น

สถานะทางการเงินบริษัทได้ทำการเพิ่มทุนจำนวน 410 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วและส่งผลให้มีการขาดทุนสะสมลดลงจากเดิม900ล้านบาท เหลือเพียง522ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถทำได้ตามที่เคยยืนให้ทาง กลต.ในการปรับปรุงแผนการดำเนินงานให้มีกำไรได้ใน3ปี

ภายหลังการเพิ่มทุนเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจตามแผนงาน โดยในส่วนการพัฒนาระบบงานหลักที่เกี่ยวกับการขายและการรับประกันคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2563 และจะพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการบริการลูกค้าในระยะต่อไป นอกจากนี้บริษัทยังมีนโยบายขยายการลงทุนเพิ่มเติมด้วยการมองหาโอกาสการลงทุนร่วมกับพันธมิตรเพื่อขยายช่องทางรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่ คปภ.กำหนด

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานบริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ และเน้นรับงานที่มีคุณภาพมากขึ้นในส่วนของประกันภัยรถยนต์มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับสูงสุดของบริษัท

"ตามหัวเมืองใหญ่จะยังมีกำลังซื้ออยู่ซึ่งเราจะแข่งขันในด้านบริการเป็นหลักแต่แน่นอนในส่วนของราคาเราให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ในส่วนการคัดเลือกการรับประกันภัยเราถือว่ากระจายตัวและมีคุณภาะดีขึ้นซึ่งดูได้จากสัดส่วนLoss Ratioที่ปรับตัวดีขึ้นจากเดิม149%ในปีที่แล้วเหลือแค่65%ในปีนี้"นางสาวอรลดากล่าว

นางสาวอรลดา กล่าวอีกว่า การดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 ว่าบริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่ 151.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.7 จากไตรมาส 2 ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 80.6 ล้านบาท จากการเชื่อมระบบการขายและการรับส่งข้อมูลกับนายหน้าและตัวแทน ขณะที่ค่าใช้จ่ายสินไหมและค่าจัดการสินไหมสุทธิลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 33.7 อยู่ที่ 33.0 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับจำนวน 310.7 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับเฉพาะงวด 3 เดือนมีจำนวน 151.3 ล้านบาท การจัดการค่าใช้จ่ายโดยรวมปรับปรุงดีขึ้น โดยเฉพาะการเก็บเบี้ยประกันภัยที่เร็วขึ้น และการติดตามเบี้ยค้างรับที่มีอายุเกินกว่า 1 ปี ได้มากขึ้นโดยอัตราการเก็บเบี้ยประกันตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน คปภ. ปรับปรุงจากร้อยละ 45 ในปี 2561 เป็นร้อยละ 75 ในไตรมาส 2 และร้อยละ 90 ในไตรมาส 3 ทำให้สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เคยบันทึกไว้ในอดีตลดลงตามไปด้วยส่วนค่าสินไหมและค่าใช้จ่ายในการจัดการสินไหมทดแทนสุทธิในปีปัจจุบันลดลงเช่นกัน ส่วนหนึ่งเกิดจากกรมธรรม์ที่สามารถเรียกร้องคืนจากบริษัทประกันต่อเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายรวมสำหรับงวด 3 เดือนลดลง 59.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 36เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับในอัตราที่สูงกว่าร้อยละ 80 มีผลทำให้บริษัทต้องสำรองเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้ (Unearned Premium Reserve : UPR) ตามหลักการบัญชีเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 3บริษัทฯ

สำหรับนโยบายและแผนงานในไตรมาส 4 และระยะต่อไป บริษัทฯ จะเน้นการรับงานคุณภาพ ควบคู่กับการร่วมงานแบบพันธมิตรกับนายหน้าและตัวแทนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Tailor made products) รวม,บศทั้งการขยายการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) โดยการย้ายสำนักงานใหญ่แห่งใหม่มาที่ใจกลางธุรกิจ เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมการขยายช่องทาง ในการติดต่อ และให้บริการลูกค้ากลุ่ม B2B ให้มีความสะดวกเพิ่มขึ้น การพัฒนางานบริการทุกด้านพร้อมไปกับการให้บริการสินไหมทดแทนที่จะมีการพัฒนา software ให้สามารถตอบรับการรับแจ้ง และการบริการสินไหมให้มีความรวดเร็วขึ้น ซึ่งนโยบายและแผนงานดังกล่าวจะพัฒนาเพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น