xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.วรรณมองโอกาสปรับตัวลง เริ่มจำกัดประกาศจ่ายปันผล 3 กองทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.วรรณชี้หุ้นไทยโอกาสปรับตัวลงเริ่มจำกัด มองแนวรับที่ระดับ 1,344 จุด คงมุมมองเชิงบวกหุ้นไทยหากดัชนีย่อตัวแนะทยอยสะสม โดยเฉพาะกองทุนที่รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมประกาศจ่ายปันผลกองทุนหุ้นไทย 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณ เฟล็กซิเบิล (ONE-FLEX) ในอัตรา 1.03 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มหุ้นคุณค่าปันผล (1VAL-D) ในอัตรา 0.47 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (1S-LTF) ในอัตรา 0.57 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 7 พ.ย.นี้

นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการมีมติประกาศจ่ายปันผล 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณ เฟล็กซิเบิล (ONE-FLEX) จากกำไรสุทธิผลกำไรดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 59-30 ก.ย. 59 ในอัตรา 1.03 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยเพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 14 ต.ค. 59 กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มหุ้นคุณค่าปันผล (1VAL-D) จากกำไรสุทธิผลกำไรดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 59-30 ก.ย. 59 ในอัตรา 0.47 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยเพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 17 ต.ค. 59 และกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (1S-LTF) จากกำไรสุทธิผลกำไรดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 58-30 ก.ย. 59 ในอัตรา 0.57 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยเพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 18 ต.ค. 59 ซึ่งทั้ง 3 กองทุนจะกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 พฤศจิกายน 59

สำหรับภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานภายในบริษัทคงมีมุมมองเชิงบวก เนื่องจากมองว่าดัชนีหุ้นไทยได้รับแรงสนับสนุนจากการเปิดประมูลโครงการลงทุนภาครัฐฯ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงปลายปีคาดว่าภาครัฐบาลจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เช่น มาตรการทางภาษีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ เงินช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับเพิ่มประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

“การปรับตัวลงของดัชนีในระดับปัจจุบันนี้ หากพิจารณาในแง่ของมูลค่าหุ้นถือว่าถูกมาก โดยปีนี้ตลาดคาดการณ์อัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) ปีที่ระดับ 106 และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไร (PE) ที่ระดับ 12.68 เท่า บริษัทมองว่าโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลงจะจำกัดมากขึ้น โดยมองแนวรับที่ระดับ 1,344 จุด และแนวต้านที่กรอบ 1,420-1,450 จุด ซึ่งระดับดัชนีที่ 1,400 จุดมีค่า PE เฉลี่ยที่ประมาณ 13.20 เท่า ขณะที่อัตราการจ่ายปันผลที่ระดับ 4% ยังถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มส่งสัญญาณที่ดี สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาวในช่วงที่ดัชนีปรับตัวลงแนะนำให้ทยอยสะสม โดยเฉพาะกองทุนที่ได้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษี อาทิ ONE-ACT70LTF ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นธรรมาภิบาลไม่เกิน 70% ของพอร์ตการลงทุน เพื่อลดความผันผวนของตลาดหุ้นโดยรวม” นายมณฑลกล่าว

นายมณฑลกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางปัจจัยต่างประเทศยังคงให้น้ำหนักติดตามผลการโต้วาทีระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะวันที่ 19 ต.ค. 59 เนื่องจากเป็นการโต้วาทีครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 8 พ.ย. 59 เนื่องจากสะท้อนถึงนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างประเทศ อีกทั้งยังคงมีปัจจัยความผันผวนของราคาน้ำมันดิบหลังการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเรื่องการควบคุมการผลิตของกลุ่ม OPEC และการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น