xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กสิกรไทยคืนกำไรหนัก เตรียมปันผล LTF 4 กองทุน ตั้งเป้าหุ้นไทยปีนี้ 1,550 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นระยะยาว การปันผลในครั้งนี้จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสามารถจ่ายเงินปันผลได้จากเงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นที่กองทุนถืออยู่ โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 4.08%-6.41% ต่อปี เชื่อมั่นตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจโดยเฉพาะเมื่อมีการปรับฐานลงมาพอสมควรในช่วงหลายวันก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของภาครัฐ มั่นใจว่าสิ้นปีขึ้นถึง 1,550 จุด

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จำนวน 4 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558-31 สิงหาคม 2559 ซึ่งประกอบด้วยกองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.77 บาทต่อหน่วย, กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) ในอัตรา 0.61 บาทต่อหน่วย, กองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) ในอัตรา 0.34 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาวปันผล (KGLTF) ในอัตรา 0.72 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 4 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 31 สิงหาคม 2559 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 14 กันยายน 2559 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 1,669.92 ล้านบาท

“สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน LTF ที่มีการจ่ายปันผลในครั้งนี้จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 ก.ย. 58-31 ส.ค. 59) กองทุน LTF สามารถจ่ายเงินปันผลได้จากเงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นที่กองทุนถืออยู่ โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 4.08%-6.41% ต่อปี สำหรับกองทุน KDLTF, KGLTF และ K20SLTF ส่วนกองทุน K70LTF อยู่ที่ 3.04% ต่อปี เนื่องจากนโยบายของกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไม่เกิน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (ที่มา Bloomberg : ณ วันที่ 1 ก.ย. 59) ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาประวัติการจ่ายปันผลของกองทุน LTF ทั้ง 4 กองทุน นับตั้งแต่วันเริ่มจัดตั้ง กองทุน KDLTF มีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 20 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 8.26 บาทต่อหน่วย กองทุน K70LTF จ่ายปันผลแล้ว 18 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 5.51 บาทต่อหน่วย กองทุน KGLTF จ่ายปันผลแล้ว 14 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 5.70 บาทต่อหน่วย และกองทุน K20SLTF จ่ายปันผลแล้ว 13 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 5.23 บาทต่อหน่วย ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีของกองทุน K70LTF, KDLTF, KGLTF และ K20SLTF ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 9.69%, 14.33%, 17.09% และ 26.33% ตามลำดับ ซึ่งถ้าไม่รวมกองทุน K70LTF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไม่เกิน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนทั้งหมดสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน (SET Index) ซึ่งอยู่ที่ 12.01% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 59)” นางสาวธิดาศิริกล่าว

นางสาวธิดาศิริกล่าวเพิ่มเติมถึงมุมมองการลงทุนและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจโดยเฉพาะเมื่อมีการปรับฐานลงมาพอสมควรในช่วงหลายวันก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของภาครัฐ ทั้งนี้ รายงานคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือนกันยายนที่ออกมาเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.22% โดยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ทั้งนี้มีปัจจัยจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จากภาวะอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำและยาวนานกว่าปกติ ยังเป็นส่วนสนับสนุนทำให้การลงทุนในหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอนเป็นปัจจัยที่นักลงทุนควรติดตามต่อเนื่อง เนื่องจากอาจมีผลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย และอาจกดดันให้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนในระยะสั้นได้ ถึงแม้ทาง บลจ.กสิกรไทยมองว่าผลกระทบจากเงินทุนไหลออกน่าจะมีค่อนข้างจำกัดเนื่องจากในช่วง 3 ปีก่อนหน้ามีเงินทุนไหลออกไปค่อนข้างมากแล้วกว่า 400,000 ล้านบาท

ขณะที่มุมมองในระยะกลางถึงยาว บลจ.กสิกรไทยยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยยังตั้งเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้ที่ระดับประมาณ 1,550 จุด ด้วยอัตราส่วน Forward P/E ปี 2560 ที่ระดับ 14.5 เท่า และคาดว่าในช่วงกลางปี 2560 ดัชนีจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1,640 จุด ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในรายอุตสาหกรรม บลจ.กสิกรไทยให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐที่เน้นการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศและการผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง นอกจากนี้ยังให้น้ำหนักในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม และโรงพยาบาล ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากภาคบริการและการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง

ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K20SLTF กองทุน KDLTF กองทุน K70LTF และกองทุน KGLTF สามารถขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KAsset Contact Center 0-2673-3888
กำลังโหลดความคิดเห็น