บลจ.ธนชาตแนะกระจายเสี่ยงการลงทุนแบบหวังผลตอบแทนได้ เชื่ออสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในต่างประเทศ พร้อมเปิดขายกองทุน T-IncomeProp เน้นอสังหาริมทรัพย์ทั้งในรูปแบบหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก ตอบโจทย์ดอกเบี้ยต่ำ และนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำ กับนโยบายรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เปิดเสนอขายครั้งแรกวันนี้-7 ตุลาคม 59
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ธนชาตได้เปิดขายกองทุน T-IncomeProp กองทุนอสังหาริมทรัพย์ผันผวนต่ำที่ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการมีรายได้ประจำ กับนโยบายของกองทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยจะลงทุนในกองทุน AXA World Funds Global Flexible Property เพียงกองทุนเดียว
“กองทุนหลักแม้จะลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และ REIT เพียงกลุ่มเดียว แต่มีกลยุทธ์ลดความผันผวนระหว่างทางโดยการผสมตราสารหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เข้ามาในพอร์ตทำให้พอร์ตลงทุนมีความปลอดภัยเมื่อต้องเผชิญกับความผันผวนในอนาคต ไม่ว่าจะจากนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด การเลือกตั้งสหรัฐฯ หรือแม้แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกก็ตาม
ที่ผ่านมา บลจ.ธนชาตได้ออกกองทุนที่มุ่งเน้นสร้างรายได้ประจำมาแล้ว 1 กองทุน คือ T-INCOME ซึ่งมองว่ายังมีผู้ลงทุนที่ต้องการมองหาการลงทุนที่มีนโยบายจ่ายผลตอบแทนแบบนี้ แต่ต้องการกระจายลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ บ้างเพื่อทำให้พอร์ตลงทุนมีความปลอดภัยมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการเปิดขายกองทุน T-IncomeProp ในครั้งนี้
มร.มาร์ค ทิงเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหุ้นเอเชีย จาก Framlington, AXA ให้ความเห็นเสริมว่า กลยุทธ์การลงทุนของกลุ่ม AXA จะเน้นการมองที่รอบด้าน โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์จะใช้ประสบการณ์ของผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุนมาผสมผสาน ทำให้การเลือกหลักทรัพย์มาลงทุนนั้นมีความได้เปรียบบริษัทอื่นๆ และปิดช่องว่างที่ผู้จัดการกองทุนมักไม่เข้าใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเชิงลึก และเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ก็มักไม่เชี่ยวชาญในเรื่องการลงทุนนั่นเอง
นอกจากนั้น เมื่อพูดถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ พบว่า AXA มีการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน มีทีมที่เชี่ยวชาญ ทั้งลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง และลงผ่านกองทุน โดยมีขนาดกองทุนอสังหาฯ ใหญ่ที่สุดในยุโรป และติดอันดับ 5 ในโลก
โดยในส่วนตัว มร.มาร์คเชื่อว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มาอยู่ในวัฏจักรครึ่งหลังแล้ว ซึ่งเป็นครึ่งที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และความชำนาญของผู้จัดการกองทุนเป็นหลัก เพราะความน่าสนใจของอสังหาริมทรัพย์จะไม่ได้อยู่แค่เพียงว่ามีอัตราส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับอัตราเงินปันผลของอสังหาริมทรัพย์แล้ว แต่อยู่ที่ความสามารถในการสร้างรายได้ของตัวอสังหาริมทรัพย์เอง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มค่าเช่า หรือการได้รับประโยชน์จากแนวโน้มธุรกิจต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนไป อาทิ คลังสินค้าที่จะได้รับประโยชน์จากธุรกิจซื้อขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมขึ้น
ส่วนความกังวลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปว่าจะได้รับผลกระทบจาก Brexit นั้น แม้จะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่เมื่อพิจารณาพื้นที่ที่หลายคนกังวล อย่างออฟฟิศในลอนดอนก็ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
