บลจ.ธนชาตเชื่อภูมิภาคเอเชียยังเติบโตได้สูงแม้จะผันผวนจากผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ บ้าง แนะถือเป็นโอกาสเข้าลงทุน พร้อมเปิดขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์เอเชีย T-AsianProp ระหว่างวันที่ 17-25 พฤศจิกายนนี้
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดยังคงมีความผันผวนสูงมาก การแบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (Asset Allocation) เป็นสิ่งที่จำเป็น แม้จะไม่ได้ทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด แต่ถือเป็นการลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนลงได้มาก และสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่ บลจ.ธนชาตแนะนำผู้ลงทุนมีติดพอร์ตลงทุนไว้บ้าง เพราะด้วยคาแรกเตอร์ที่ไม่ผันผวนมากเท่าการลงทุนในหุ้น และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนทั้งจากเงินปันผล (Dividend Yield) และส่วนต่างของราคา (Capital Gain) ทำให้ถือเป็นทางเลือกที่ดีและน่าสนใจ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่าเมื่อผู้ลงทุนไทยต้องประสบปัญหาดอกเบี้ยต่ำ ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทยสูงมาก ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นไปมากในช่วงต้นปีและผันผวนมากในช่วงไตรมาส 2 ของปี ส่วนหนึ่งก็มาจากตัวเลือกในการลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังน้อย สภาพคล่องจึงมีไม่สูง เมื่อมีการเทขายจากนักลงทุนบางส่วนก็กระทบพอร์ตลงทุนส่วนมากได้
“การแบ่งเงินไปลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์เอเชียบ้าง นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากตลาดได้ส่วนหนึ่ง เพราะขนาดรวมของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับเอเชียทั้งตลาด ที่ผ่านมาจึงส่งผลต่อสภาพคล่องและความผันผวนที่เกิดขึ้น”
เพื่อให้สอดคล้องกับสถานดังกล่าว บลจ.ธนชาตจึงได้เปิดขาย กองทุนเปิดธนชาตเอเชี่ยนพร๊อพเพอร์ตี้ (Thanachart Asian Property Fund) หรือ T-AsianProp เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 17-25 พฤศจิกายน 2559 โดยหากผู้ลงทุนคงเงินไว้มากกว่า 180 วันจะไม่มีค่าธรรมเนียมการขายคืน
โดยกองทุนหลักที่ บลจ.ธนชาตเลือกไปลงทุน คือ กองทุน B&I Asian Real Estate Securities Fund (UCITS) บริหารและจัดการโดย B&I Capital AG จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) ซึ่งอยู่ภายใต้ UCITS กองทุนนี้เป็นกองทุนแรกในอุตสาหกรรมกองทุนบ้านเราที่ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เอเชีย ซึ่งนโยบายสามารถลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกได้ทั้งหมด โดยกองทุนนี้มีจุดแข็งสำคัญ คือ ผู้จัดการกองทุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียมาอย่างยาวนาน เพราะแม้ว่าเราจะรู้ว่าในเอเชียเป็นภูมิภาคที่เติบโตสูง และมีศักยภาพที่ดี แต่การติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือข้อมูลวิเคราะห์ในเชิงลึกคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้จัดการกองทุนไทย
อย่างในประเทศญี่ปุ่นที่เราเห็นว่าราคาอสังหาริมทรัพย์น่าจะปรับตัวขึ้นไปสูงแล้ว แต่ผู้จัดการกองทุนหลักของ B&I Capital กลับมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า แม้ว่าอาคารสำนักงานในย่านธุรกิจหลักๆ ของเมืองหลวงอย่างโตเกียวจะปรับราคาขึ้นไปสูง แต่อัตราการเช่ายังคงอยู่ในระดับสูง และยังพบว่าในกลุ่มสำนักงานที่มีขนาดเล็ก (Class B) ที่อยู่ในย่านสำคัญๆ เช่น ชิบูยา ชินจูกุ ก็นับว่าได้รับความนิยมเข้าใช้งานสูง แต่พบว่าระดับราคาไม่ได้สูงเหมือนสำนักงานใหญ่ ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเฉพาะตัว และไม่ได้อยู่ประเทศที่เราคุ้นเคยอาจเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่เมื่อเรามองเห็นโอกาส การฝากให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเป็นคนคัดสรรและบริหารพอร์ตลงทุนให้ถือเป็นทางเลือกที่ผู้ลงทุนควรพิจารณา