xs
xsm
sm
md
lg

การขยายตัวของชนชั้นกลางทำให้ไทยกลายเป็นประเทศชั้นนำ จนขึ้นไปอยู่บนแผนที่โลกของการเป็นนักลงทุนผ่านกองทุนรวม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วรวรรณ ธาราภูมิ
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน /
ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย

เมื่อ 17 สิงหาคม 2559 Yui Nakamura เขียนบทความลง asia.nikkei เอาไว้ว่า .... “ประเทศไทยกำลังมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในฐานะชาติผู้นำด้านนักลงทุนผ่านกองทุนรวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขยายตัวของชนชั้นกลางทำให้ไทยกลายเป็นประเทศชั้นนำจนขึ้นไปอยู่บนแผนที่โลกของการเป็นนักลงทุนผ่านกองทุนรวม เพราะชนชั้นกลางในไทยรู้จักแสวงหาวิธีบริหารเงินที่ดีกว่าเดิม”

Yui Nakamura รายงานว่า อุตสาหกรรมกองทุนรวมของไทยมีขนาดกว่า 4 ล้านล้านบาทแล้ว ($115 billion) เป็นคู่แข่งมาเลเซียที่เคยนำหน้าไทยไปไกลได้เลย และมีคนเชื่อด้วยว่านักลงทุนผ่านกองทุนรวมของไทยจะผลักดันให้อุตสาหกรรมกองทุนรวมเป็น Active Investment (อาจจะเพราะผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีข้อพิสูจน์ว่าทำได้ดีกว่า Passive)

Yohei Kitano นักวิเคราะห์อาวุโสของ Nomura Institute of Capital Markets Research ใน Singapore ระบุว่า ปัจจุบันนี้ขนาดของกองทุนรวมในไทยรวมกันแล้วมีสัดส่วนเกินกว่า 20% ของเงินฝากธนาคารและเงินลงทุนของภาคครัวเรือนทั้งหมด ในขณะที่ค่าเฉลี่ยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเพียง 10%

ด้าน Yui Nakamura รายงานอีกว่าข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า 30% ของแรงงานไทยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ และ Yui Nakamura บอกว่าแม้ว่าผู้ประกอบวิชาชีพอิสระจะประกอบไปด้วยชาวไร่ชาวนาเป็นส่วนใหญ่ แต่มีจำนวนมากที่เป็นแรงงานในอุตสาหกรรมและภาคบริการกันมากขึ้น ซึ่งคนเหล่านี้นิยมใช้กองทุนรวมในการสะสมความมั่งคั่งมากขึ้นเรื่อยๆ

Yui Nakamura ระบุอีกว่า ภาครัฐของไทยมีความสุขอย่างเหลือล้นกับแนวโน้มนี้ เพราะไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าสู่สังคมชราภาพ โดยกองทุนรวมจะช่วยได้มากถ้าคนไทยมีเงินสะสมมากพอสำหรับไว้ใช้ดำรงชีพในยามเกษียณ และรัฐบาลไทยยังยกเว้นภาษีสำหรับกำไรจากการลงทุนในกองทุนรวมถ้านักลงทุนนำเงินออกจากกองทุนรวมหลังอายุ 55 ปีด้วย โดยหวังว่าคนไทยจะมีแรงจูงใจที่จะเก็บออมเพื่อเกื้อหนุนตนเองในยามเกษียณ

**หมายเหตุ**

เรื่องยกเว้นภาษีสำหรับกำไรจากการลงทุนในกองทุนรวมนี้ เขาคงเขียนไม่ชัดเจนนัก ความจริงคือการที่เราได้รับสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษีเงินได้ หากลงทุนใน RMF/LTF ตามเงื่อนไข และก็น่าสังเกตุด้วยว่าภาครัฐไทยเขาคิดแบบนี้กับกองทุนรวมจริงหรือไม่ เพราะเห็นข่าวสมัยก่อนๆ ที่โต้แย้งเรื่องลดหย่อนภาษีจากกองทุนรวม PMF/LTF มากมาย มาจากภาคราชการทั้งนั้น

สรุปก็คือ อุตสาหกรรมกองทุนรวมของไทย ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกสำหรับการสะสมเงิน สามารถช่วยเหลือคนในการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ ลดภาระของรัฐในระยะยาว ... ฯลฯ

เราไม่ได้นั่งเฉยๆ แล้วได้เงินมาบริหาร เราทำงาน “หนักมาก” ในการขยายความรู้ไปยังคนเล็กๆ ในสังคม จนเขาสามารถเริ่มต้นได้

น่าเสียใจที่เราต้องกลายเป็น Wednesday Child ในสายตาภาครัฐในหลายๆ ครั้ง แต่เราไม่หมดกำลังใจเลย เพราะเรารู้ว่าเรากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องและสมควรทำเพื่อส่วนรวม

http://asia.nikkei.com/Markets/Equities/Thailand-gains-clout-as-Southeast-Asia-s-leading-investor-nation?page=1
กำลังโหลดความคิดเห็น